ราชันเร้นลับ 702 : ปัจฉิมบท
“กรอซาย!”
‘อัศวินวินัย’ รอนเซลซึ่งอยู่ใกล้กับคนยักษ์มากที่สุด รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงร่างกรอซาย แต่เพียงไม่นานก็ค่อยๆ ปล่อยมือทีละนิดพร้อมกับยืนตัวตรง สีหน้าแววตาคล้ายกับกำลังจมอยู่ในห้วงความฝันอันแสนสับสน
เซียธาสสลัดหลุดจากการพยุงของโมเบธ ไม่สนใจความเจ็บปวดทางร่างกาย เสกสายลมช่วยเกื้อหนุน รีบวิ่งไปยืนข้างกรอซายอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวคุกเข่าลง ตรวจสอบสักพัก ก่อนจะเขย่าตัวอีกฝ่ายพร้อมกับส่งเสียงตะโกน
“ตื่นสิ! ตื่น! พวกเราต้องออกไปข้างนอกแล้ว!”
เสียงของเธอเริ่มจางลงทีละนิด ค่อยๆ กลืนหายไปกับความเงียบ
โมเบธเดินมายืนเคียงข้าง เมื่อเห็นร่างกายคนยักษ์กำลังโยกคลอนอย่างมิอาจรักษาสมดุล ขุนนางแห่งจักรวรรดิโลเอ็นทรุดคุกเข่าทันที
มันเงียบงันไปสักพัก ถอนหายใจแผ่วเบาและเชื่องช้า
ในเวลาเดียวกัน แอนเดอร์สันและเอ็ดวิน่าวิ่งไปทางนักบวชสโนวมันที่ถูกแช่แข็ง คนหนึ่งใช้พลังไฟ ส่วนอีกคนคัดลอกแสงศักดิ์สิทธิ์ ช่วยสโนวมันละลายน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ทางด้านไคลน์ที่อยู่ไม่ห่างจากกรอซาย ตัดสินใจเดินไปหาคนยักษ์
เนตรด้ายวิญญาณแจ้งกับไคลน์ว่า อีกฝ่ายเสียชีวิตไปแล้วและเหลือเพียงดวงวิญญาณ แต่วิญญาณก็เริ่มสลายตัวแล้วเช่นกัน หรือกล่าวได้ว่า สายเกินกว่าจะใช้พลังเคลื่อนย้ายบาดแผลเพื่อรักษา
ในการปะทะกับมังกรน้ำแข็งหนที่สอง… ในวินาทีที่ร่างกรอซายส่องแสงคล้ายกับรุ่งอรุณลุกโชน… กรอซายคงเตรียมใจตายไว้แล้ว… ไคลน์เงียบงันไปครู่หนึ่ง
โมเบธชำเลืองมาทางชายหนุ่ม ยิ้มขื่นขมและกล่าว
“ด้วยความสัตย์จริง ข้าเคยเห็นคนยักษ์ไม่มากนัก ส่วนใหญ่รู้จักจากหนังสือ ครูบาอาจารย์ และพ่อแม่ จึงคิดเสมอว่า เผ่าพันธุ์นี้จะต้องป่าเถื่อนและชื่นชอบความรุนแรง ใกล้เคียงสัตว์ประหลาดมากกว่าสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา แต่กรอซายมิได้เป็นเช่นนั้นเลย เขาซื่อตรง ซื่อสัตย์ มองโลกในแง่บวก แม้จะดูเบาปัญญาไปบ้าง แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรม เขารู้ดียิ่งกว่าใครทั้งหมด… เขาบอกกับข้าว่า นั่นเป็นเพราะตัวเขาไม่ใช่คนยักษ์โบราณ ไม่ใช่แม้กระทั่งรุ่นที่สองหรือรุ่นที่สามของตระกูล… จริงอยู่ที่ในอดีต คนยักษ์เคยป่าเถื่อน ชอบความรุนแรง และเอาแต่ผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณ แต่ยิ่งมีทายาทมากเท่าไร บรรดาทายาทก็ยิ่งรู้จักผิดชอบชั่วดีมากขึ้น ช่วยผลักดันให้ตระกูลห่างไกลจากการเป็นสัตว์ประหลาด… อา… ข้าไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน แต่การมีอยู่ของเขาอาจเป็นเครื่องยืนยันทางอ้อม…”
ขณะเล่า โมเบธชะงักกะทันหัน คล้ายกับหวนนึกถึงบางสิ่งในอดีต
ในเวลาเดียวกัน เอ็ดวิน่าและแอนเดอร์สันช่วยกันพยุงสโนวมัน ผู้กำลังฝืนเดินด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ ปลายทางคือร่างคนยักษ์กรอซาย
จ้องมองเข้าไปในดวงตาแนวตั้ง สโนวมันวาดสัญลักษณ์คล้ายไม้กางเขนบนหน้าอก ดวงตาหรี่ลง สวดวิงวอนเสียงต่ำ
“ข้าแต่พระบิดาของทุกสรรพสิ่ง รากเหง้าแห่งความยิ่งใหญ่ ที่ตรงนี้มีดวงวิญญาณอันซื่อสัตย์และบริสุทธิ์… ขอให้เขาได้เข้าสู่อาณาจักรของท่าน ได้รับการปลดปล่อยอันเป็นนิรันดร์…”
เซียธาสขยับริมฝีปาก คล้ายกับต้องการกล่าวว่า กรอซายศรัทธาในราชาคนยักษ์เออร์เมียร์ มิใช่พระผู้สร้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าวออกไป เพียงเฝ้ามองสโนวมันสวดคำวิงวอนจนจบ
“พวกเราต้องรีบออกไป ไม่มีใครรู้ว่าประตูจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน!” ผู้ขับขานแห่งเอลฟ์มองไปรอบตัว อาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บและความเศร้าเสียใจ ใบหน้าของหญิงสาวเผยความฉุนเฉียวเล็กๆ
เซียธาสก้มมองคนยักษ์อีกครั้ง พึมพำเสียงต่ำ
“พวกเราจะปล่อยให้วิญญาณของกรอซายสลายตัวในโลกมายาไม่ได้ ต้องพาเขาออกไปยังโลกแห่งความจริง!”
“ตกลง” โมเบธรีบเห็นด้วย ไคลน์และคนที่เหลือก็ไม่คัดค้าน
เอ็ดวิน่าหันหลังกลับ ตะโกนเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง
“เดนิส ออกมาได้แล้ว”
ขณะเดียวกัน เซียธาสกลอกตาเล็กน้อย คล้ายกับฉุกคิดบางสิ่งได้ จึงหันมาทางไคลน์และกล่าว
“เจ้ามีปากกากับกระดาษไหม”
“มี” ไคลน์หยิบปากกาหมึกซึมและกระดาษแผ่นเล็กที่พกติดตัวตลอดเวลาออกมา สิ่งเหล่านี้คืออุปกรณ์จำเป็นสำหรับนักทำนาย
เซียธาสรับไปและเริ่มตวัดเขียน จนกระทั่งเดนิสออกมาจากถ้ำก็ยังไม่หยุด
เดนิสเอาแต่เงียบงัน คล้ายกับจิตใจกำลังดำดิ่ง ปราศจากอารมณ์ยินดีหรือตื่นเต้นทั้งที่กำลังจะได้ออกจากโลกหนังสือ
เซียธาสหยุดเขียน ส่งปากกาและกระดาษให้ไคลน์พร้อมกัน
“สูตรโอสถที่เจ้าต้องการ”
ไม่รอให้ออกไปก่อนหรือ? ไคลน์พึมพำด้วยความสงสัย พลางรับปากกาและสูตรโอสถ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ มาถือ
คล้ายกับตระหนักถึงความฉงนของชายหนุ่ม เซียธาสเบือนหน้าไปทางศพกรอซายบนพื้น กล่าวเนิบนาบ
“พวกเราเป็นสหายกันแล้ว”
ก็เลยมอบสูตรโอสถให้กันได้เลย? ไคลน์เก็บปากกาและกระดาษ พยักหน้าเล็กน้อยจนยากจะมองเห็น
“หลังจากออกไป ผมจะนำแก้วไวน์มาให้”
เซียธาสไม่ตอบรับ เพียงหันไปผลักโมเบธ
“พยุงกรอซายขึ้นมา”
โมเบธก้มหน้ามองร่างกายที่มิได้กำยำของตน มองรองเท้าหนังหัวแหลมปลายโค้ง เผยรอยยิ้มจืดชืด เดินไปทางต้นขากรอซาย
‘อัศวินวินัย’ รอนเซลขมวดคิ้วเล็กน้อย โน้มตัวลงและโอบไหล่ซ้ายของคนยักษ์
แอนเดอร์สันกวาดสายตา ส่ายหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ