“ถึงเกอร์มัน·สแปร์โรว์เพื่อนรัก ฉันมีข่าวดีมาแจ้ง ตอนนี้ฉันประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกเห็ดที่เจริญเติบโตด้วยเลือดเนื้อของนักบวชกุหลาบ ตราบใดที่มีปลา พวกมันจะเจริญพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะไม่มีเห็ดกินเมื่อต้องแล่นเรือเป็นเวลานานเกินไป และเหนือสิ่งอื่นใด ฉันนำไปผสมข้ามสายพันธุ์กับวัว ช่วยให้รสชาติของมันยอดเยี่ยมมาก!”
“ข้อบกพร่องเดียวในตอนนี้คือ มันไม่สามารถตกปลาได้ด้วยตัวเอง ต้องมีใครบางคนช่วยนำมาเสิร์ฟ แต่ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นปัญหา นีน่าบอกว่าแบบนี้ดีแล้ว จะได้ไม่กลายเป็นภัยต่อทะเล สิ่งที่เธอพูดก็มีส่วนถูก”
“ฉันจะส่งเห็ดแห้งบางส่วนไปให้ เพียงรดน้ำและให้มันกินปลา เห็ดจะกลับเป็นปรกติทันที จากนั้นก็เริ่มขยายพันธุ์ด้วยตัวเอง… หวังว่านายจะชอบของขวัญชิ้นนี้”
หลังจบบทสนทนายืดยาว แฟรงค์·ลีพับกระดาษ บรรจุใส่ซองจดหมาย แนบเห็ดแห้งลงไปสามชิ้น จากนั้นก็ติดกาวและปิดผนึก
จัดการทั้งหมดเสร็จ มันหยิบกระดาษโน้ตที่ไคลน์เป็นคนมอบให้ ทำตามขั้นตอนที่เขียนไว้ เตรียมทำพิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสาร
สำหรับแฟรงค์ ขั้นตอนเช่นนี้ไม่ซับซ้อนและไม่ใช้เวลานาน หลังจากตั้งแท่นบูชาเสร็จก็เริ่มสร้างกำแพงวิญญาณทันที
ปิดท้ายด้วย มันบรรจงวางเหรียญทองแดงโลเอ็นไว้ตรงหน้าเทียนไข
เทียนถูกจุด เสียงสวดมนต์ดังขึ้น ขณะแฟรงค์·ลีจ้องเปลวไฟที่ค่อยๆ ขยายตัว หญิงไร้หัวปรากฏกายพร้อมกับหิ้วศีรษะทั้งสี่ไว้ด้วยมือสองข้าง
แฟรงค์·ลีผงะเล็กน้อย ก่อนจะจ้องใบหน้าทั้งสี่ของไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ด้วยสายตาตื่นเต้น จากนั้นก็พึมพำ
“คุณทำได้ยังไง? ทำไมทุกหัวถึงเหมือนกับยังกับแกะ? ถ้านำไปปลูกในดินจะเจริญเติบโตไหม?”
ดวงตาแปดข้างจากสี่เศียรของไรเน็ตต์พลันหันมาจ้องแฟรงค์·ลีอย่างพร้อมเพรียง
ทันใดนั้น โคลนจากภาชนะจำนวนมากภายในห้องเริ่มบินว่อน ทั้งหมดพุ่งมาทางแฟรงค์
ร่างกายแฟรงค์ลอยไปในอากาศ หมุนเคว้งด้วยสีหน้าตื่นเต้นไม่จางหาย จนกระทั่งกระแทกลงบนกองโคลน
แข้งขาของมันพยายามกระเสือกกระสนให้หลุด แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่สำเร็จ
ศีรษะทั้งสี่ของไรเนตต์·ไทน์เคอร์ขยับมาด้านหน้าสองเศียร หนึ่งงับซองจดหมาย อีกหนึ่งงับเหรียญทอง
จนกระทั่งหญิงสาวหายไปอย่างสมบูรณ์ แฟรงค์·ลีเพิ่งพบจุดที่สามารถดิ้นหลุดได้ง่าย จึงส่งแรงทั้งหมดเพื่อสลัดให้เป็นอิสระจากบ่อโคลน ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น
“สุดยอด…” แฟรงค์·ลีถอนหายใจเจือความสั่นกลัว ปาดคราบสกปรกออกจากใบหน้าและริมฝีปาก ก่อนจะนำโคลนใส่ปากเคี้ยวหนึ่งคำและพึมพำ “เปรี้ยวไปนิด…”
ในเวลาเดียวกัน ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาที่เพิ่งเสร็จพิธีกรรมสังเวยในห้องกัปตัน คล้ายกับสัมผัสถึงบางสิ่ง ดวงตาสีม่วงเข้มหันไปมองทางห้องแฟรงค์ตามความรู้สึก ได้พบกับตุ๊กตามายาหยาบๆ อย่างไม่คมชัด
ตุ๊กตาตัวดังกล่าวไม่มีหัว!
เพียงไม่นานภาพก็สลายไป ดวงตาแคทลียาปิดสนิทในทันที เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวที่ราวกับถูกไฟแผดเผา น้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างมิอาจควบคุม
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย พึมพำด้วยความลังเล
“มารบรรพกาล?”
…
หลังจาก ‘แจกจ่าย’ ผลึกอุกกาบาตและน้ำไขสันหลังของตะกวดดำนักล่าให้กับเมจิกเชี่ยนและจัสติส ไคลน์ส่งตัวเองกลับโลกความจริง นอนแผ่บนเก้าอี้เอนหลัง ครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะทำต่อจากนี้
จากข่าวลือของเกอร์มัน·สแปร์โรว์และ ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์ กลุ่มโจรสลัดคงไม่เผยตัวบนเกาะบายัมไปอีกสักพัก ไม่ว่าพวกมันจะออกจากท่าไปแล้ว หรือซ่อนตัวอยู่ตามแหล่งกบดาน ล้วนหาตัวได้ยากทั้งสองกรณี…
ในอีกความหมายหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องแช่อยู่ที่นี่นาน เพราะยังสามารถควบคุมกลุ่มต่อต้านด้วยวิวรณ์ของ ‘เทพสมุทร’ และการประสานงานของเดนิส…
ถ้าอย่างนั้น… อันดับแรกต้องแวะผับสาหร่ายทะเลเพื่อซื้อตั๋วผีเรือโดยสาร จุดหมายคือเมืองคอนแนนท์บนอ่าวเดซีย์… นอกจากจะเป็นเมืองท่าที่ใหญ่อันดับหนึ่งแล้ว ยังเป็นเมืองเกิดของเดวีย์·เรดม่อนด้วย ในตอนที่ปลดปล่อยถุงมือแดงออกจากยุบพองหิวโหย เราให้สัญญาไว้แล้วว่า จะแวะเที่ยวชมเมืองชายฝั่งอันงดงามดังกล่าวสักพัก พร้อมกับบอกกับลูกสาวของเขาว่า ไม่ต้องแก้แค้นให้การตายของพ่อ… นอกจากนั้น เราคงต้องหาวิธีคืนตะกอนพลัง ‘ฝันร้าย’ ให้กับโบสถ์อย่างลับๆ …
หึหึ… มนุษย์เราช่างน่าขัน… ทั้งที่กำลังวางแผนจะแอบคืนตะกอนพลังฝันร้าย แต่อีกใจหนึ่งกลับวางแผนจะขโมยสมบัติออกจากหลังประตูยานิสของโบสถ์นักบุญแซมมวล…
ส่ายศีรษะเล็กน้อย ไคลน์หลับตาลง ใช้การนอนฟื้นฟูพลังวิญญาณ
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ สัมผัสวิญญาณไคลน์ถูกกระตุ้น จึงลืมตาตื่นตามธรรมชาติ รีบเปิดเนตรวิญญาณ
ทันใดนั้น ชายหนุ่มเห็นไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์เดินออกจากความว่างเปล่า
ผู้ส่งสารสวมเดรสสีดำหลายชั้นเหมือนทุกครั้ง หนึ่งในศีรษะกำลังคาบจดหมาย
ใครเป็นคนส่ง? เดนิส พลเรือโทธารน้ำแข็ง แฟรงค์ หรือแอนเดอร์สัน? ไคลน์จ้องจดหมาย พยักหน้ารับ
“ขอบคุณมาก”
ชายหนุ่มทำตัวสุภาพกับมิสผู้ส่งสารลึกลับและทรงพลัง เนื่องจากไม่อยากถูกบีบคอตายเข้าสักวัน
“เจ้า…” “จะตอบ…” “ทันที…” “ไหม…?” ศีรษะทั้งสี่ของไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์อ้าปากและพ่นคำเรียงกัน
ไคลน์ฉีกซอง นำกระดาษจดหมายออกมาคลี่อ่าน เนื้อหาด้านในชวนให้ตกตะลึงจนลืมมอบคำตอบกับผู้ส่งสารไปครู่หนึ่ง แต่ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ยังคงยืนรอใจเย็น
หากปล่อยเอาไว้ แฟรงค์ต้องทำลายโลกในสักวันแน่… เราต้องรีบควบคุมชายคนนี้โดยเร็ว ห้ามให้เลื่อนลำดับเด็ดขาด! ทำไมถึงชื่นชอบการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างพืชกับสัตว์นัก? เดี๋ยวสิ… เมืองเงินพิสุทธิ์กำลังขาดแคลนอาหาร… ไคลน์พลันผุดความคิดที่บ้าบิ่นอย่างหนึ่ง
นั่นคือการหลอกล่อให้แฟรงค์ทุ่มความสนใจทั้งหมด มาที่การคิดค้นอาหารให้เมืองเงินพิสุทธิ์!
ด้วยเหตุนี้ วัว ปลา เห็ด นักบวชกุหลาบ และสิ่งมีชีวิตทางทะเลบนโลกก็จะปลอดภัย!
ไคลน์เงยหน้าอย่างรีบร้อน กล่าวกับมิสผู้ส่งสาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ