เลียวนาร์ด·มิเชลนั่งลงบนเก้าอี้ ยกเท้าขึ้น เหยียดไปทางโต๊ะอ่านหนังสือ พาดลงบนขอบไม้
จากนั้น มันเอนหลังพร้อมกับเสียงข้อต่อไม้ดังลั่น พ่นลมหายใจยาว
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงจนสนิท
ทันใดนั้น จิตของเลียวนาร์ดถูกส่งเข้ามาในโลกมายาสีเทา แต่รอบๆ ตัวยังคงเป็นห้องนอนแห่งเดิม
มันลอยตัวมายังริมหน้าต่าง เห็นหมอกสีเทาปกคลุมละแวกใกล้เคียงอย่างหนาแน่น หมอกค่อยๆ ขยายออกไปจนสุดลูกหูลูกตา คล้ายกับพยายามครอบงำกรุงเบ็คลันด์ทั้งหมด
ไม่ว่าจะโคมไฟแก๊สข้างถนนหรือแสงไฟอบอุ่นจากบ้านแต่ละหลัง แสงสว่างรอบตัวเริ่มหม่นหมอง จุดที่ยังคมชัดเหลือเพียงบริเวณแคบๆ รอบตัวเลียวนาร์ด
ขณะเดียวกัน กลุ่มของลูกบอลแสงมายาทรงรี บ้างสว่าง บ้างสลัว ซ้อนทับกันมากมายภายในบ้านแต่ละหลัง คล้ายกับสิ่งนี้คือสัญลักษณ์แทนตำแหน่งของสิ่งมีชีวิต
นี่คือทิวทัศน์ ‘เมือง’ ในสายตาของ ‘ฝันร้าย’
เลียวนาร์ดดำเนินการสืบสวนต่อจากคราวก่อน กระโดดออกจากหน้าต่างในร่างของฝันร้าย ลอยไปยังบ้านเลขที่ 17 ถนนมินส์ เขตเชอร์วู้ด
มันมิได้บุกรุกเข้าไปโดยตรง แต่ร่อนลงที่หน้าประตูท่ามกลางกลุ่มหมอกหนาทึบ สั่นกระดิ่งอย่างสุภาพ
สิ้นเสียงนกร้อง ‘กุ๊กกู~’ สตาร์ลิ่ง·ซาเมอร์เปิดประตูออกมาในชุดนอน
หญิงสาวนำพัดเลี่ยมเงินทาบไว้บนหน้าอก ถามด้วยสีหน้าสับสนเจือสงสัย
“คุณกำลังมองหาใครหรือ?”
เธอคือเจ้าของบ้านขณะไคลน์ปลอมตัวเป็นเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ ผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า วัยย่างสามสิบ
ปัจจุบัน เลียวนาร์ดอยู่ในเครื่องแบบตำรวจโลเอ็นสีขาวสลับดำ แสดงบัตรประจำตัวและกล่าว
“คุณรู้จักเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ไหม”
อาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในความฝัน สตาร์ลิ่งจึงตอบสนองอย่างเชื่องช้า กล่าวหลังจากผ่านไปหลายวินาที
“มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือคะ”
ขณะถาม ภายใต้อิทธิพลของเลียวนาร์ด เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ในความทรงจำของเธอปรากฏตัวด้านข้างอย่างเป็นธรรมชาติ
สวมหมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูง โค้ทยาวกระดุมสองแถว แว่นตากรอบทอง เครายาวรอบปาก
เป็นภาพลักษณ์เดียวกับเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ที่เลียวนาร์ดรู้จัก เมื่อไม่พบความผิดปรกติ มันตอบกลับ
“เขาเข้าไปพัวพันกับคดีหนึ่ง พวกเรากำลังสอบสวนกันอยู่… ผมหวังว่าคุณจะยอมให้ความร่วมมือ”
“ต… ตกลงค่ะ” สตาร์ลิ่งอยากเชิดคาง แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เธอรู้สึกสั่นกลัวเล็กๆ
เลียวนาร์ดครุ่นคิดสักพัก
“เขาเริ่มเช่าบ้านตั้งแต่ตอนไหน”
“ต้นเดือนกันยายนปีที่แล้ว” สตาร์ลิ่งตอบ
เลียวนาร์ดถามต่อไป
“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง? หรือผมควรถามว่า คุณคิดว่าเขาเป็นคนแบบไหน?”
ถึงตรงนี้ คล้ายกับเตรียมคำตอบมาล่วงหน้า สตาร์ลิ่งเล่าทันที
“เขามาจากแคว้นเลียบทะเล มีสำเนียงของคนที่นั่น เป็นนักสืบที่เก่งมาก ครั้งหนึ่งเคยช่วยแมรี่แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสามีของเธอ แต่ถึงอย่างนั้น รายได้ของเขาก็ไม่สูงนัก ไม่สามารถจ้างแม้บ้านประจำ ฉันต้องส่งแม่บ้านไปช่วยทำความสะอาดเป็นครั้งคราว… ลูกๆ ของดิฉันบอกว่า เขาเล่าเรื่องสนุกมาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับนักสืบ นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาประกอบอาชีพดังกล่าว”
โดยไม่เปิดโอกาสให้เลียวนาร์ดแทรก เธอพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆ
“เขาไม่หยาบกร้านเหมือนนักสืบทั่วไป จบจากโรงเรียนสามัญ ศึกษาด้านประวัติศาสตร์ สิ่งที่น่าอิจฉาที่สุดก็คือ แมรี่ช่วยให้เขาได้เป็นสมาชิกของสโมสรครักซ์ ที่นั่นเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโต ฉันเคยไปเยือนหลายครั้ง… ในช่วงหลัง ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเป็นคนดังในวงการนักสืบ มักมีนักสืบเอกชนแวะมาถามถึงเขา”
เลียวนาร์ดค่อนข้างใจร้อน อดไม่ได้ที่จะนำมือขึ้นมาลูบหน้าผาก
จากคำบอกเล่าของมาดามสตาร์ลิ่ง มันไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด ยกเว้นเรื่องที่เชอร์ล็อกไม่รวยมาก และเป็นคนเล่าเรื่องนักสืบเก่ง ส่วนข้อมูลอื่นๆ ล้วนมีอยู่ในเอกสารการสืบสวนก่อนหน้า เลียวนาร์ดรู้แม้กระทั่งว่า เชอร์ล็อก·โมเรียตี้มีความสัมพันธ์อันดีกับไอเซนการ์ด·สแตนธอน
ถัดไปคงต้องเริ่มสืบจากคนของสโมสรครักซ์ที่เคยใกล้ชิดเชอร์ล็อก·โมเรียตี้… อดทนฟังการพูดเรื่อยเปื่อยของสตาร์ลิ่งสักพัก เลียวนาร์ดกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย ออกจากดินแดนความฝัน
บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน คฤหาสน์ของดอน·ดันเตส
ภายในโถงกว้างที่แขกหลายร้อยคนสามารถเบียดเสียด ไคลน์กำลังเต้นรำกับสตรีวัยสามสิบกว่าคนหนึ่ง
เธอคือครูสอนมารยาทที่วอลเตอร์จัดหามาให้ มีนามว่า ‘วาฮาน่า·เฮย์เซ่น’
แม้ชื่อจะฟังดูธรรมดา แต่มีหลายสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับเธอ ใบหน้าดูดีกว่ามาตรฐานไม่มากก็จริง แต่กลับเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่หา ทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวชวนให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล
จากคำบอกเล่าของวอลเตอร์ เธอเกิดในตระกูลบารอน ได้รับการศึกษาที่ดีตั้งแต่ยังเล็ก ภายหลังมีโอกาสได้ทำงานในวัง คอยดูแลบรรดาคุณหนูๆ จนกระทั่งตัวเธอเข้าพิธีสมรส
เมื่อตระกูลบารอนของเริ่มเสื่อมถอย ผนวกกับการที่สามีได้รับค่าจ้างอัตราปานกลาง ในฐานะสาวกเทพธิดารัตติกาล วาฮาน่าตัดสินใจประกอบอาชีพครูสอนมารยาท มีโอกาสได้ทำงานกับตระกูลขุนนางและเศรษฐีบ่อยครั้ง คอยสอนมารยาทให้เด็กๆ
แม้ว่าพ่อบ้านจะไม่ได้กล่าวเอาไว้ แต่ไคลน์ก็ทราบดี ตนห้ามทำตัวแย่ๆ ต่อหน้าสตรีผู้นี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น คำวิจารณ์ด้านลบจะแพร่กระจายเป็นวงกว้างยากจะกอบกู้ชื่อเสียง
ไม่ว่าจะขุนนางหรือเศรษฐี วิธีเดียวที่จะช่วยให้ทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของคนนั้นๆ คือการซักถามผ่านคนรู้จัก และในบางครั้ง คนรู้จักที่ว่าก็คือคนรับใช้
ขณะขยับเท้าอย่างแผ่วเบา วาฮาน่า สตรีเจ้าของเส้นผมสีดำ พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“มิสเตอร์ดันเตส สำหรับดิฉัน มันยากที่จะให้เชื่อว่าคุณไม่เคยเรียนการเต้นรำในลักษณะนี้มาก่อน… เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คุณเชี่ยวชาญพอๆ กับขุนนางที่ได้เรียนด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก”
“เพราะคุณสอนดีต่างหาก” ไคลน์ยิ้มอย่างเจียมตัว สีหน้าอ่อนโยน ปราศจากความโอ้อวด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ