ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 808

สรุปบท ราชันเร้นลับ 808 : เสียงร้องสุดห่วย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ตอน ราชันเร้นลับ 808 : เสียงร้องสุดห่วย จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ราชันเร้นลับ 808 : เสียงร้องสุดห่วย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ราชันเร้นลับ 808 : เสียงร้องสุดห่วย
ได้ยินคำพูดจากปากแฮงแมน หัวใจไคลน์หยุดเต้นไปครู่หนึ่งเนื่องจากสัมผัสถึงลางร้าย มันไม่รักษาภาพพจน์อีกต่อไป รีบวางตะเกียงลง หยิบเศษกระดาษสองแผ่นออกจากกระเป๋า ขยำให้เป็นทรงกลมและยัดใส่ไว้ในหูซ้ายและขวา

เมื่อเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่คัดค้านและยอมทำตามคำแนะนำแต่โดยดี อัลเจอร์เกิดความโล่งใจและคิดว่า การร่วมมือกับคนมีประสบการณ์ช่างสะดวกสบาย แม้อีกฝ่ายจะมีฉายาว่า ‘ชายเสียสติ’ แต่ถ้าถูกเตือนอย่างมีเหตุมีผล ก็ยอมรับฟังและเข้าใจสถานการณ์

ขณะเตรียมโยนหนูสีเทาที่ร่างกายเย็นเฉียบใส่ต้นไม้ซึ่งมีอำนาจสะกดจิตเพื่อหวังหันเหความสนใจ ทันใดนั้น อัลเจอร์พบว่าพุ่มไม้และวัชพืชด้านข้างมีการเคลื่อนไหว ไม่นานก็มีเสือโคร่งสีเหลืองแถบดำตัวหนึ่งเดินออกมา

ท่ามกลางเสียงกระดิ่งลม เสือโคร่งย่างกรายเข้าหาต้นไม้ประหลาดที่มอบความรู้สึกชั่วร้ายทีละก้าว

ได้เห็นฉากตรงหน้า อัลเจอร์ลดแขนลงพลางล้มเลิกความคิดที่จะขว้างหนูตาย ยอมอดทนต่ออาการปวดหัว เฝ้ามองเสือโคร่งค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้กับต้นกระดิ่งลมหลอนประสาท

จากนั้น เสือโคร่งตัวดังกล่าวนั่งลงและตบเล็บแหลมๆ ใส่ลำคอตัวเอง

เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด ราวกับเสือตัวนี้ไม่มีความรู้สึกอีกต่อไป มันตะปบอุ้งเท้าใส่คอตัวเองจนเกิดเป็นแผลฉีกขาดหลายแห่ง เปลี่ยนผิวหนังอันเปลือยเปล่าให้ชุ่มเลือด

เสียงกระดิ่งลมค่อยๆ จางลง หลายกิ่งก้านเริ่มยืดยาวราวกับมีชีวิต ก่อนจะทิ่มลงพื้น ทะลวงเข้าไปในร่างเสือโคร่งที่น่าสมเพช

อัลเจอร์ซึ่งกำลังรอจังหวะนี้ รีบชักมืดสั้นพร้อมกับอ้าปากและร้องเพลง

“ซ่า! ซ่า! ซ่า!”

“โอ้คลื่นทะเล! สาดซัดก้อนหินสีเทา!”

“ซ่า! ซ่า! ซ่า!”

“โอ้คลื่นทะเล! ทำลายก้อนหินสีเทา!”

เสียงเพลงของมันทั้งหยาบกร้านและหนักแน่น แต่ไม่ตรงคีย์เลยสักนิดเดียว แหกกฎการร้องเพลงทุกชนิดของมนุษย์และสัตว์โดยสิ้นเชิง มีเพียงความหงุดหงิด คลื่นไส้ และชวนให้ปวดหัว

กิ่งก้านของต้นกระดิ่งลมหลอนประสาทหดกลับในทันที การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้กระดิ่งที่ห้อยตรงปลายขยับจนเกิดเสียงดัง

สำหรับไคลน์ที่อยู่ข้างๆ อัลเจอร์ แม้จะกำลังอุดหูด้วยลูกบอลกระดาษและรวบรวมสมาธิจดจ่อถึงขีดสุด แต่ก็อดไม่ได้ที่เส้นเลือดบนหน้าผากจะปูดโปน เกิดความรู้สึกอยากจะฆ่าคนร้องเพลงและทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

นอกจากนั้น สติของชายหนุ่มยังค่อยๆ เตลิด กล้ามเนื้อและเส้นเลือดใต้ผิวหนังกำลังยุบพองแผ่วเบา

คนปรกติร้องเพลงเพราะอยากรวย… แต่มิสเตอร์แฮงแมนร้องเพลงเพราะอยากถูกกระทืบตาย! ไคลน์ที่กำลังเผชิญความหงุดหงิดเหนือพรรณนา สบถภายในใจอย่างหัวเสีย

“ซ่า! ซ่า! ซ่า!”

ทุกคำพูดที่อัลเจอร์กระแทกกระทั้นออกมา ฟังดูคล้ายกับเสียงคลื่นทะเลสาดกระทบก้อนหิน มีอำนาจในการอัญเชิญสายฟ้าจากความว่างเปล่า

แสงสีเงินวิบวับทำให้ทั่วทั้งบริเวณสว่างไสว สายฟ้าหลายเส้นเริ่มผ่าลงมายังต้นกระดิ่งลมหลอนประสาทจนออกอาการสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง กิ่งก้านที่เคยกวัดแกว่งเริ่มแข็งทื่อ มิอาจก่อให้เกิดสุ้มเสียงสะกดจิต

อัลเจอร์ไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอย ทิ้งหนูตายไว้ด้านหลังพร้อมกับแทงมีดสั้นในมือไปข้างหน้า

ท่ามกลางเสียงลมหวีด ใบมีดสายลมอันแหลมคมถูกกระหน่ำยิงใส่กิ่งไม้ที่ใกล้กับลำต้นมากที่สุด

ปึด!

ผลไม้โปร่งแสง ไร้สี ขนาดเท่ากำปั้น หลุดร่วงจากต้นและถูกสายลมพัดลอยมาตกบนฝ่ามืออัลเจอร์ เปลือกไม้ที่เต็มไปด้วยรอยแยกคล้ายดวงตาพลันแข็งตัว กิ่งไม้ร่วงโรย สูญเสียชีวิตชีวาไปในทันที

คิดไว้ไม่มีผิด… ถ้ามีข้อมูลของเป้าหมายล่วงหน้าและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พืชวิเศษจะรับมือได้ง่ายกว่าสัตว์วิเศษมาก เนื่องจากพวกมันมีสติปัญญาต่ำกว่า… อัลเจอร์ล้วงหยิบกล่องโลหะที่เตรียมไว้ เก็บผลของต้นกระดิ่งลมหลอนประสาทเข้าไป

จากนั้น มันหันมามองเกอร์มัน·สแปร์โรว์

“ไปต่อกัน…”

ขณะสิ้นเสียง ‘กัน’ อัลเจอร์ชะงักคำพูดกะทันหัน

เนื่องจากเห็นว่าใบหน้าอันเย็นชาของเกอร์มัน·สแปร์โรว์กำลังบิดเบี้ยว ตาขาวเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่พร้อมระเบิดออก ประหนึ่งเตรียมพุ่งเข้ามาทำร้ายมันทุกเมื่อ

หัวใจอัลเจอร์พลันเต้นระรัว รีบสูดลมหายใจเข้าและพูดชัดถ้อยชัดคำ

“ไปต่อกันเถอะ”

“…อา” เกอร์มัน·สแปร์โรว์ตอบเสียงทุ้ม เดินนำหน้าไปโดยการอ้อมซากของต้นกระดิ่งลมหลอนประสาท ตรงไปยังส่วนลึกของป่าสีดำ

มันไม่สนใจจะเก็บวัตถุดิบวิญญาณจำพวกเปลือกไม้ กิ่งไม้ และอื่นๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้สัตว์ร้ายได้กลิ่นและเข้ามารุมล้อม นอกจากนั้น ไคลน์ไม่มีสมบัติวิเศษสำหรับเก็บของ ทุกช่องที่พอจะเก็บได้ก็ถูกเติมเต็มด้วยสิ่งที่สำคัญอยู่แล้ว

ต้องไม่ลืมว่า การพกสัมภาระติดตัวมากเกินไป จะทำให้สูญเสียความคล่องแคล่วอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวตลก

อัลเจอร์เดินตามไปอย่างเงียบงัน เริ่มแน่ใจว่าตนมองอีกฝ่ายไม่ผิด

เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ชายคนนี้คือคนบ้าที่เยือกเย็น!

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่สิบเมตร พวกมันมองเห็นดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่งจากแสงของตะเกียง

อีกฝ่ายคือลิงบาบูนที่กำลังนั่งยองๆ บนกิ่งไม้ ขนของมันค่อนข้างดำและหยิก บนศีรษะมีผลึกสีดำจำนวนมากฝังอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ดูคล้ายกับมงกุฎ

เมื่อได้เห็นเต็มสองตา สัญชาตญาณของไคลน์และอัลเจอร์สั่งให้ก้มศีรษะลงทันที คล้ายกับกลัวการสบตากับสัตว์วิเศษตนดังกล่าว จึงอาจเป็นไปได้ว่า มันคือผู้ปกครองของป่าละแวกนี้

ผู้ปกครอง… อัลเจอร์อาศัยอาการปวดหัวที่เกิดจาก ‘แส้จิต’ เพื่อดึงสติให้หลุดพ้นจากการถูกครอบงำ ก่อนจะรีบฉากหลบไปทางซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการจู่โจมที่คาดไม่ถึง ปล่อยให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์จัดการกับสัตว์วิเศษลึกลับตัวนี้ตามลำพัง

นี่คือสิ่งที่พวกมันตกลงกันไว้ล่วงหน้า

ทว่า แม้สมองจะสั่งให้ก้าวไปทางซ้าย แต่ร่างกายกลับเดินไปข้างหน้าแทน แถมยังเป็นการเดินอย่างไม่มั่นคง คล้ายกับคนพิการที่ต้องใช้ไม้ค้ำ

จิตใต้สำนึกสั่งให้อัลเจอร์รีบชักมีดสั้นและยิงลมเฉือนใส่ลิงบาบูนขนหยิก

สัตว์วิเศษตรงหน้าเผยรอยยิ้มทันที

พายุลมเฉือนล่องหนพลันเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน บ้างพุ่งไปทางซ้าย บ้างพุ่งไปทางขวา บ้างพุ่งขึ้น และบ้างพุ่งลง ทั้งหมดพลาดเป้าโดยสมบูรณ์

ได้เห็นฉากตรงหน้า ไคลน์เชื่อว่าการบุกเข้าไปตรงๆ คงไม่เกิดประโยชน์ จึงสั่งให้ถุงมือข้างซ้ายเปลี่ยนเป็นสีโปร่งใสพร้อมกับหายตัว

อัลเจอร์หยุดพฤติกรรมที่เกิดจากความตื่นเต้นของตน พลางเฝ้าดูเกอร์มัน·สแปร์โรว์ผู้สวมหมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูง หายตัวไปโผล่ด้านหลังลิงบาบูนขนหยิกด้วยระยะห่างไม่ถึงห้าเมตร

เพียงพริบตา ลิงบาบูนขนหยิกสีดำพลันแข็งทื่อ คล้ายกับกำลังสูญเสียสิทธิ์ในการควบคุมร่างกาย ลำพังการยกแขนสักข้างยังทำได้ลำบาก ยากจะใช้พลังใดให้สำเร็จในเวลาอันสั้น

เกอร์มัน·สแปร์โรว์อาศัยประโยชน์จากอาการชะงักของเหยื่อ ยกลูกโม่สีดำในมือขวา เล็งปากกระบอกปืนสีเหล็กดำบรรยากาศลึกลับไปยังท้ายทอย

จากนั้น นักผจญภัยเสียสติเหนี่ยวไกโดยปราศจากสีหน้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ