ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 814

ราชันเร้นลับ 814 : หายไป
สิ้นเสียงถอนหายใจยาวจากส่วนลึกของวิหาร กล้ามเนื้อแผ่นหลังของไคลน์และอัลเจอร์หดเกร็งพร้อมกัน เลือดลมสูบฉีดบ้าคลั่ง

โดยไม่มัวลังเล ถุงมือข้างซ้ายของไคลน์กลายเป็นสีโปร่งใส ก่อนจะหายตัวไปโผล่ข้างอัลเจอร์

ขณะนำมือทาบลงบนไหล่แฮงแมน ไคลน์บังคับให้ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลเก็บตะกอนที่พลังคล้ายแมงกะพรุนและรีบใช้พลัง ‘กระโดดผิวกระจก’ เพื่อกลับเข้ามาในเหรียญทองในกล่องบุหรี่โลหะ

วินาทีถัดมา ร่างของไคลน์และอัลเจอร์เลือนหายไป ทิ้งให้ห้องเก็บศพเหลือเพียงความเงียบสงัด

คนทั้งสองปรากฏกายอีกครั้งกลางอากาศ ด้านบนคือดวงจันทร์สีแดงเข้ม ด้านล่างเป็นปุยเมฆ

ด้วยสัญชาตญาณ ไคลน์และอัลเจอร์หันกลับไปมองเกาะโบราณพร้อมกัน สงสัยว่าเกิดอะไรกันแน่

ขณะได้ยินเสียถอนหายใจ ไม่มีใครสัมผัสถึงอันตราย แต่ประสบการณ์และสัญชาตญาณของทั้งสองคนต่างร้องบอกให้รีบหนี และเมื่อย้ายตัวเองมายังจุดปลอดภัย จึงอดไม่ได้ที่จะผุดคำถามมากมาย

ในการมองเห็นของพวกมัน หมอกหนาทึบที่ปกคลุมเกาะเริ่มสลายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แสงจันทร์สีแดงเข้มฉายลงไปยังเบื้องล่างอย่างชัดเจน

ท่ามกลางเสียงสายลมที่อัลเจอร์เสกขึ้นมาช่วยพยุงให้ลอย ไคลน์มองเข้าไปในหมอกจางๆ และเริ่มเห็นภาพรวมของเกาะ

มันหายไป

เกาะโบราณที่มีงูขนนกครึ่งเทพและสัตว์วิเศษอีกนานับชนิด ตอนนี้หายไปแล้ว!

ณ จุดที่เคยเป็นผืนเกาะขนาดมหึมา น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มกำลังกระเพื่อมอ่อนโยนตามจังหวะคลื่น ไม่มีสิ่งใดดูผิดธรรมชาติ!

อัลเจอร์รีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและสัมผัสสิ่งของภายใน ควานหาผลึกแก่นของการ์กอยล์ที่เกือบทำให้ตนเป็นหิน

หากไม่ใช่เพราะสิ่งของเหล่านี้ยังอยู่ มันคงเชื่อว่าตนและเกอร์มัน·สแปร์โรว์เกิดหลงทาง ไปไม่ถึงเกาะโบราณซึ่งเป็นเป้าหมาย หลงสำรวจในดินแดนความฝันที่ไม่มีอยู่จริง

ไคลน์เองก็คิดแบบเดียวกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงภาพหลอน เพราะเหนือสิ่งอื่นใด เกาะโบราณซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์วิเศษและกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ยุคเก่า ไม่น่าจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่ผิวน้ำทะเลก็ยังไม่หลงเหลือเบาะแส

โชคดีที่เราตัดสินใจหนีทันที ไม่อย่างนั้น เรากับมิสเตอร์แฮงแมนอาจหายไปเหมือนกับเกาะ… ไคลน์ขอบคุณตัวเอง ก่อนจะยื่นแขนออกไปจับไหล่อัลเจอร์และพาท่องโลกวิญญาณด้วยพลัง ‘ท่องเที่ยว’

ฉากสุดท้ายของท้องทะเลที่ปรากฏแก่สายตาคนทั้งสองก็คือ ภาพของหมอกสีขาวที่ค่อยๆ กลับมาถมแน่นอีกครั้ง

หลังจาก ‘ท่องเที่ยว’ อีกหนึ่งรอบ ไคลน์และอัลเจอร์มาโผล่บนเกาะทะเลทรายแห่งเดิม แต่คราวนี้เป็นการยืนบนแนวปะการัง จ้องมองคลื่นทะเลซัดกระทบฝั่งจนเกิดเสียงดัง

อัลเจอร์กวาดสายตา ถอนหายใจเงียบ ล้วงหยิบลูกตาและแก่นผลึกของการ์กอยล์หกปีกออกมา

“นี่เป็นส่วนกลาง คุณเลือกก่อน”

จากการประเมินของมัน มีเพียงสิ่งของจากการ์กอยล์หกปีกเท่านั้นที่ต้องหารเท่า เพราะศพของสัตว์ประหลาดสามตนถือเป็นรางวัลของเกอร์มัน·สแปร์โรว์แต่เพียงผู้เดียว

ไคลน์ไม่ตอบอะไร เพียงบังคับให้ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลปรากฏกายพร้อมกับนำไพ่ทรราชออกมา รวมถึงตะกอนพลังที่คล้าย ‘โคลน’ สีน้ำตาลและวัตถุคล้ายแมงกะพรุนสีคราม อย่างหลังน่าจะเป็นตะกอนพลังของผู้ขับขานสมุทร

จัดการเสร็จ มันกล่าว

“ทุกชิ้นคือส่วนกลาง แต่ผมเลือกก่อน และเป็นฝ่ายเลือกสามชิ้นรวด”

ความนัยแฝงก็คือ นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์สองคนกับหนึ่งการ์กอยล์และสามศพ อัลเจอร์เองก็แสดงฝีมือไม่น้อย แปลว่าสมบัติทั้งหมดต้องถูกนำมารวมกันเป็นกองเดียวแล้วค่อยแบ่ง

แต่จากผลงาน เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีสิทธิ์ได้เลือกก่อน และต้องเป็นสามชิ้นรวด

อัลเจอร์ผงะเล็กน้อย เริ่มมองนักผจญภัยเสียสติรายนี้ในแง่มุมใหม่ ตามด้วยพยักหน้า

“ตกลง”

ไคลน์เหยียดแขนออกไปหาหุ่นเชิด เลือกหยิบไพ่ทรราชด้วยสีหน้าเยือกเย็น

“นับเป็นสองชิ้น”

ด้วยไพ่เย้ยเทพใบนี้ เมื่อใช้งานพร้อมกับคทาเทพสมุทร ร่างวิญญาณของตนจะทรงพลังทัดเทียมครึ่งเทพเลยทีเดียว

แถมยังมีประโยชน์มากในการสวมรอยเป็นเทพสมุทรให้สมจริง

อย่างไรก็ตาม คุณค่าที่สำคัญที่สุดของไพ่ทรราชก็คือ สูตรโอสถของทุกลำดับบนเส้นทาง รวมถึงการช่วยให้ผู้ถือ ‘ดึงดูด’ วัตถุดิบหลักของโอสถหลังจากกลายเป็นลำดับ 4

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ