ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 815

สรุปบท ราชันเร้นลับ 815 : ทบทวน: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปเนื้อหา ราชันเร้นลับ 815 : ทบทวน – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บท ราชันเร้นลับ 815 : ทบทวน ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ราชันเร้นลับ 815 : ทบทวน
กรุงเบ็คลันด์ บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน

เกอร์มัน·สแปร์โรว์ปรากฏตัวในห้องนอนใหญ่ของคฤหาสน์ สวมชุดกันลมสีดำ หมวกทรงกึ่งสูงยังคงตั้งตรง

ดอน·ดันเตสที่นอนอยู่บนเตียงหายไปทันที กลายเป็นกระจกเงาแผ่นเท่าฝ่ามือ

คงไม่มีใครแวะเข้ามา เพราะดูท่าแล้วอาโรเดสจะไม่ได้ทำอะไรเลย… เห็นฉากตรงหน้า เห็นบรรยากาศอันเงียบสงบภายในห้องนอน ไคลน์ถอนหายใจโล่งอก ส่วนสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จอนสีขาวผุดขึ้นข้างขมับ ดวงตากลายเป็นสีน้ำเงินลุ่มลึก เปลี่ยนกลับเป็นร่างดอน·ดันเตสโดยสมบูรณ์

พร้อมกันนั้น ผิวกระจกเงาเกิดคลื่นกระเพื่อม แสงสีเงินเรียงตัวกันเป็นข้อความ

“เรียนนายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยในคืนนี้! ไม่สิ ข้าสวมบทบาทเป็นดอน·ดันเตสที่หลับสนิทได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง… นอกจากนั้น ข้ายังได้เผชิญกับเหตุการณ์บางอย่าง ท่านอยากจะทราบหรือไม่?”

ไคลน์มองข้ามประโยคแรกที่อาโรเดสต้องการให้ชมเชย รีบโยนหมวกไปทางเก้าอี้เอนหลังด้วยหัวใจเต้นระรัว และถามเสียงทุ้ม

“เล่ามา”

บนผิวกระจก ข้อความเดิมสลายตัว เรียงกันเป็นประโยคใหม่

“มีสตรีผู้หนึ่งมองเข้ามาในคฤหาสน์จากบนถนน”

…แล้วแปลกยังไง? แต่ละวันมีคนเดินผ่านหน้าบ้านนับไม่ถ้วน คงมีสักคนสองคนที่ชื่นชมสภาพแวดล้อม… ขณะไคลน์เตรียมถามเพิ่มเติม ผิวกระจกผุดคลื่นน้ำกระเพื่อมและกลายเป็นภาพของบุคคลผู้หนึ่ง

ในสายตาคนทั่วไป สตรีผู้นี้แต่งกายค่อนข้างแปลก สวมเสื้อคลุมสีดำของผู้สื่อวิญญาณ ใต้ตาและโหนกแก้มทาสีฟ้า แผ่กลิ่นอายความสง่างาม ลุ่มลึก และเป็นเอกลักษณ์ แน่นอน ไม่ใช่ใครนอกจากดาลีย์·ซิโมเน่

สตรีผู้นี้นั่งรถม้าไปตามถนนเบิร์คลุน ขณะผ่านหน้าบ้านเลขที่ 160 เธอมองออกนอกหน้าต่างนานกว่าสามวินาที

ให้ตายสิ… อย่าบอกนะว่า หลังจากสบตากับดอน·ดันเตสวันนั้น เธอเกิดความประทับใจจนพยายามสืบหาที่อยู่? ไคลน์ขมวดคิ้วสักพัก ก่อนจะถามกลับ

“แค่นี้?”

“ขอรับ!” อาโรเดสตอบด้วยการเน้นคำบนผิวกระจก ด้านข้างเป็นภาพสัญลักษณ์การ ‘สาบาน’

ไคลน์ผงกศีรษะรับ เมินเฉยความกระตือรือร้นของกระจกวิเศษ กล่าวคำอำลากับอีกฝ่าย

จัดการทั้งหมดเสร็จ ไคลน์นำเทียนไขออกมาเตรียมประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตัวสนองตัวเอง เพื่อนำสิ่งของที่รวบรวมมาได้เข้าไปในมิติเหนือสายหมอก รวมถึงเสื้อผ้าที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์สวมใส่ เพราะไม่อยากให้เครื่องแต่งกายของสองตัวตนปะปนกัน

เป๊าะ!

ชายหนุ่มดีดนิ้ว จุดไฟสีแดงบนเทียนไข

ไฟ

ไฟ…

รูม่านตาไคลน์หดเกร็งนานสองสามวินาที ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีจากเทียนไข

จากนั้น มันบังคับ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลค่อยๆ เข้าใกล้โต๊ะอ่านหนังสือ

ระหว่างดำเนินการ ฝ่ามือเซนอลสั่นระริกอย่างมิอาจหักห้าม แต่ในท้ายที่สุด มันดับไฟเทียนไขสำเร็จ

นอนก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยมาจัดการ… ไม่สิ ไม่ได้… ไพ่ทรราชถูกกระตุ้นการทำงานแล้ว ถึงจะผนึกไว้ด้วยกำแพงวิญญาณ แต่ก็อาจปิดกั้นอำนาจการดึงดูดในเส้นทางเดียวกันไม่หมด… บางทีอาจทำได้แค่บรรเทาอิทธิพล… ตอนที่เข้าไปในบายัม เรารีบกลับออกมาทันทีโดยไม่มัวรีรอ… ไคลน์ที่ใจเย็นลง ครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาตรงหน้า

ผ่านไปสักพัก ชายหนุ่มยกมือขึ้นอีกครั้งและดีดนิ้วจุดไฟบนเทียน

วินาทีถัดมา มันพยายามข่มความกลัวในใจ บังคับเซนอลให้หยิบเทียนไขออกมาอีกสองเล่ม ประกอบพิธีกรรมสังเวยซึ่งไม่ต้องรอการตอบสนอง ไม่ต้องนำร่างวิญญาณผ่านแสงเทียนไขออกมายังโลกความจริง

จัดการเสร็จ ไคลน์ก้มศีรษะลงอย่างยากลำบาก เอ่ยพระนามเต็มของเดอะฟูลโดยไม่กล้าจ้องเทียนไขตรงๆ

ชายหนุ่มกล้ำกลืนฝืนทนจนกระทั่งพิธีกรรมจบลง สังเวยรางวัลทุกชิ้นเข้าไปในมิติเหนือสายหมอก

ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจโล่งอก ถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้าไปในมิติเหนือสายหมอก บนที่นั่งของเดอะฟูล มันหยิบไพ่ทรราชออกมาสำรวจเป็นอันดับแรก

บางที เทพสุริยันเจิดจรัสอาจเปลี่ยนมาจากเส้นทางอื่น จึงค่อยมาเป็นเทพแท้จริงบนเส้นทางสุริยัน… หรือบางที เส้นทางหลักของเทพสุริยันบรรพกาลจากไม่ใช่ ‘สุริยัน’ แต่ท่านถือครอง ‘อำนาจ’ ในขอบเขตดวงอาทิตย์… หลังจากไล่ทวงคืน ‘อำนาจ’ กลับจากเทพบรรพกาลทั้งแปด พระองค์ได้แจกจ่าย ‘อำนาจ’ ไปยังเหล่าเทวทูตที่คอยรับใช้ เปลี่ยนให้ทุกคนกลายเป็นราชาเทวทูต? นี่คือสาเหตุที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังของเอลฟ์ซึ่งส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นระบุเพียงว่า เทพสุริยันบรรพกาล ‘เคย’ ครอบครองพระราชอำนาจในขอบเขตดวงอาทิตย์ ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นของพระองค์แต่แรก?

ยังมีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ หลังจากพระผู้สร้างทวงคืน ‘อำนาจ’ มาจากเหล่าเทพบรรพกาล ท่านสามารถเลื่อนลำดับให้เหล่าเทวทูตรับใช้ จากลำดับ 2 เป็นลำดับ 1 ในเส้นทางเดียวกัน…

ไคลน์หันกลับมาสนใจในประเด็นที่ว่า ใครเป็นคนสร้างวิหาร ใครเป็นคนวาดภาพดังกล่าว เพราะเมื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน เป็นการยากที่จะหาข้อสรุปได้ทันที จึงตัดสินใจค่อยๆ เขียนเบาะแสลงบนกระดาษหนังและหาความเชื่อมโยง

เกาะโบราณถูกพบโดยคีลิงเกอร์และมิสเตอร์แฮงแมน…

คีลิงเกอร์รับทำภารกิจให้สภานักสิทธิ์สนธยาเพื่อแลกกับสมบัติล้ำค่า เดินทางมายังกรุงเบ็คลันด์และพยายามลอบสังหารดยุคนีแกน แต่ถูกฆ่าตายด้วยฝีมือมิสเตอร์อะซิก…

คีลิงเกอร์บอกกับมิสเตอร์แฮงแมนว่า ภายในซากวิหารมีสมบัติในระดับทัดเทียมไพ่เย้ยเทพของโรซายล์อยู่ แต่ต้องมีลำดับ 5 เป็นอย่างน้อยในการสำรวจ…

ภายหลัง มันได้ครอบครองยุบพองหิวโหย กลายเป็นพลเรือโจรสลัดซึ่งมีฝีมือเทียบเท่าลำดับ 5…

แต่ไพ่ทรราชใบนี้ยังคงถูกเก็บอยู่ในส่วนลึกของซากวิหาร…

หลังจากนั้นคีลิงเกอร์ไม่ได้เข้ามาสำรวจอีกเลย? หรือลองแล้วแต่ล้มเหลว?

วิหารดังกล่าวถูกสร้างโดยมีความศรัทธาเอียนเอียงไปทางเทพสุริยันบรรพกาล ภาพจิตรกรรมด้านในเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันดำมืดของเทพจารีตในปัจจุบัน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ‘มหาภัยพิบัติ’ … ค่อนข้างชัดเจนว่าผู้วาดอยู่ฝ่ายเดียวกับเทพสุริยันบรรพกาล…

เป็นที่น่าสงสัยว่า สภานักสิทธิ์สนธยาถูกก่อตั้งโดยบุตรแห่งเทพ อาดัม เป้าหมายคือการคืนชีพให้กับเทพสุริยันบรรพกาล พระผู้สร้างที่เมืองเงินพิสุทธิ์นับถือ…

เกาะโบราณดังกล่าวหายไป ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน…

อาดัมคือเทวทูตจินตภาพ… จากบรรดาสมาชิกแกนหลักของสภานักสิทธิ์สนธยา มีเทวทูตอย่างน้อยหนึ่งคน นั่นคือเฮอร์มิส…

สภานักสิทธิ์สนธยามีแนวโน้มที่จะเลือกสมาชิกจากเส้นทาง ‘นักเดินเรือ’ ‘นักอ่าน’ และ ‘สุริยัน’ … มีความเป็นไปได้ว่า พวกเขาอาจถือครองวัตถุดิบลำดับสูงของเส้นทางวายุสลาตัน รวมถึงวัตถุที่เกี่ยวข้อง… อาจถึงขั้นมีเทวทูตจากเส้นทางนี้เป็นสมาชิก…

ไคลน์วางปากกาลง ตรวจทานรายละเอียดที่เขียนลงบนกระดาษอย่างถี่ถ้วน สร้างสมมติฐานขึ้นในใจข้อหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ