และในสายตาไคลน์ ชายชราเคราดกคนนี้พิสดารยิ่งกว่าร่างที่ถูกแขวนกลางอากาศเสียอีก
ด้ายวิญญาณที่ยื่นออกจากร่างกายชายคนนี้มิได้ลอยขึ้นไปด้านบน ตรงไปทางจุดที่คล้ายกับมี ‘แม่เหล็ก’ แต่วกกลับเข้าหาร่างกายตัวเอง ประหนึ่งต้นกำเนิดเป็นจุดเดียวกับจุดปลาย!
โดยทั่วไป ด้ายวิญญาณมีต้นกำเนิดมาจากร่างวิญญาณ ธรรมชาติคือการยืดยาวออกไปทุกทิศทางโดยไม่มีจุดสิ้นสุด และในกรณีของร่างที่ถูกแขวนกลางอากาศ ต้นกำเนิดไม่ต่างไปจากปรกติ แต่ปัญหาอยู่ที่ปลายทางซึ่งหลั่งไหลไปรวมกัน
นี่คือสาเหตุที่เขาไม่ถูกจับแขวน? เป็นวิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากวิหาร? ขณะพยายามบังคับด้ายวิญญาณของตัวเอง ไคลน์พึมพำพลางคาดเดาเหตุผล
ทันใดนั้น ชายหนุ่มเห็นดวงตาคู่หนึ่ง ดวงตาสีดำสนิทที่คล้ายกับผิวน้ำขุ่นมัว
ชายชราที่นั่งในเฉียงออกไปด้านหลังรูปปั้น จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น
มันยังมีชีวิตอยู่!
ไคลน์ก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ งอตัวเล็กน้อย วางมือซ้ายไว้ด้านหน้า
ท่ามกลางความเงียบสงัดและภาวะตึงเครียดจนหัวใจเต้นแรง ดวงตาชายชราขยับเล็กน้อย อ้าครึ่งหนึ่งและกล่าวอย่างคลุมเครือ
“ในที่สุดก็มีนักทำนายคนใหม่เข้ามา…”
คนใหม่? เคยมีนักทำนายเข้ามาในวิหารแห่งนี้แล้ว? นั่นสินะ นอกจากจะถูก ‘ลบ’ โดยเทวทูตนิรนาม การเข้ามาในหมู่บ้านสายหมอกยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นคือถูกความมืดมิดบนสมรภูมิแห่งเทพกลืนกิน… อาจมีนักทำนายคนสองคนถูกส่งมาที่นี่ขณะตามหานางเงือก หรือไม่ก็ถูกส่งเข้ามาขณะกำลังกลับ… เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่โจมตีเข้ามา เลือกจะสื่อสารก่อน ไคลน์จึงข่มอารมณ์ ซักถามกลับไปหลังจากไตร่ตรอง
“ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?”
ชายชราเจ้าของดวงตาสีดำและเคราสีขาวดกหนา มิได้ตอบคำถามตรงๆ แต่เลือกจะย้อนถามกลับมา
“อยากออกไปไหม? ข้าบอกวิธีกับเจ้าได้”
ไคลน์ไม่ถูกซื้อ เพียงถามกลับ
“แล้วทำไมคุณถึงยังอยู่?”
ในเมื่อรู้วิธีหลบหนีออกจากหมู่บ้านสายหมอก แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องหมกตัวอยู่ในวิหารแสนอันตราย?
ชายชราลดศีรษะลงเล็กน้อย หัวเราะในลำคอสองสามคำ
“เพราะข้าตายไปนานแล้ว”
“…” ไคลน์เย็นวาบไปถึงสันหลัง หมดคำจะกล่าว
ในสายตาของชายหนุ่ม บุคคลตรงหน้าไม่ใช่ร่างวิญญาณ!
เมื่อพบว่าไม่มีการตอบสนองจากอีกฝ่าย ชายชราค่อยๆ เงยหน้าขึ้น จ้องไคลน์ซึ่งกำลังสวมรูปลักษณ์เกอร์มัน·สแปร์โรว์
“ข้าใช้พลังพิเศษเพื่อสำรวจช่องว่างประวัติศาสตร์และชะตากรรมของโลกใบนี้ จากนั้นก็แบ่ง ‘ภาพฉาย’ บางส่วนของตัวเองไว้ที่นี่ ดำรงสภาพมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน แต่ร่างหลักและวิญญาณของตัวข้า เสียชีวิตและแตกสลายไปนานแล้ว”
มีพลังที่น่าทึ่งแบบนี้อยู่ด้วย… ไคลน์ไม่มีวิธีพิสูจน์คำพูดอีกฝ่าย ไม่มีทางเลือกนอกจากถามกลับ
“แล้วทำไมคุณถึงต้องบอกวิธีหลบหนีแก่นักทำนาย?”
เสียงของชายชรายังคงพร่ามัว
“หลังจากเปิดประตู ประวัติศาสตร์และชะตากรรมของที่นี่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ภาพฉายที่ข้าแบ่งไว้ก็จะหายไปด้วย เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะได้พบกับโกศเก็บขี้เถ้า… ข้าหวังให้พวกมันถูกโปรยลงในแม่น้ำเซอเรนโซ่ใกล้กับกรุงทรีอาร์ เมืองหลวงของอินทิส… ที่นั่นเป็นบ้านเกิดของข้า… เจ้าเคยได้ยินชื่อสถานที่ดังกล่าวหรือไม่? ข้าไม่แน่ใจว่าเวลาข้างนอกผ่านไปนานแค่ไหน”
ถูกขังอยู่ที่นี่มาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปี? ไคลน์ตอบเยือกเย็น
“ที่นั่นยังอยู่”
“เยี่ยม…” ชายชราพยักหน้าพลางตอบด้วยเสียงที่คล้ายกับเจือเสมหะ
แม้ไคลน์จะยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ก็ยึดหลักการที่ว่า มีข้อมูลย่อมดีกว่าไม่มี เพราะตนสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตัวเอง
ด้วยความกังวลว่าจะถูกบุคคลด้านนอกเข้ามาขัดจังหวะอีก ชายหนุ่มรีบถามกลับไป
“ถ้าอย่างนั้น วิธีหนีคืออะไร?”
ชายชรายังคงนั่งในจุดเดิม ตอบโดยแทบไม่ขยับตัว
“บนกำแพงด้านหลังรูปปั้น เห็นภาพแกะสลักไหม?”
ใจจริง ไคลน์ไม่อยากทำตามคำแนะนำสักเท่าไร เพราะเพิ่งถูกแม่มดพานาเทียหลอกด้วยวิธีเดียวกัน จนเผลอเหลือบไปเห็นร่างสัตว์ในตำนานที่ไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มมีแผนจะสำรวจที่นี่อยู่แล้ว จึงค่อยๆ หันไปมองผนังด้านหลังรูปปั้น
สิ่งที่สลักอยู่คือสัญลักษณ์โบราณขนาดไม่ใหญ่ ความยาวไม่มาก กึ่งกลางมีรูโหว่ ส่งผลให้ลวดลายไม่เชื่อมต่อกัน
รูโหว่ดังกล่าวมีขนาดเท่ากับสองฝ่ามือ ลักษณะเป็นการเว้าเข้าไป ราวกับใครบางคนดึงอิฐที่เคยเป็นผนังออก
“ตราบใดที่เจ้าสามารถหาหินออบซิเดียนที่ตรงกันมาสอดเข้าไปในช่องว่าง ผนังผืนนี้จะหลุดพ้นจากสถานะ ‘ถูกปกปิด’ ขั้นต้น สีของผนังจะดูคล้ายกับภาพมายา หากทำสำเร็จ ข้าจะบอกสักลักษณ์พิเศษที่ซับซ้อนขึ้นมาหนึ่งชุด สิ่งนั้นคือกุญแจสำหรับเปิดประตูหลบหนีที่ซ่อนอยู่บนผนัง” ชายชราเคารพกล่าวโดยไม่หัวหน้า เพียงมองตรงขณะเล่า
สัญลักษณ์พิเศษที่ซับซ้อน… กุญแจสำหรับเปิดประตู… เมื่อนำเบาะแสไปผนวกกับเสียงเพรียก ‘โฮนาซิส… เฟรเกีย…’ จากศพที่ถูกแขวน ภาพสัญลักษณ์หนึ่งผุดขึ้นในใจไคลน์ทันที
ดวงตาแนวตั้งที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ซับซ้อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ