“ขออีกแก้ว” ชายหนุ่มเอียงคอราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ออกคำสั่งกับบริกรที่ยืนอยู่หน้าประตู
ขณะเดียวกัน มันใช้มือกุมท้อง ลุกขึ้นเชื่องช้าพลางกล่าวขอตัว เดินออกมายังห้องน้ำประจำห้องส่วนตัว
ห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงกันข้ามประตูหน้า
ฟอร์สที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เสียงเปิดปิดประตูห้องน้ำ หญิงสาวหรี่เสียงลงและกระซิบกับเพื่อนสนิทด้านข้าง
“ครั้งที่สองแล้ว! พวกเขาเพิ่งเข้ามาได้ประมาณสามสิบนาที แต่ดอน·ดันเตสเข้าห้องน้ำไปแล้วสองครั้ง! ครั้งแรกเป็นการปัสสาวะ ถ้าครั้งนี้ยังเหมือนเดิม หมายความว่ากระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากของสุภาพบุรุษรายนี้มีปัญหา! ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว เขาแค่ปัสสาวะจริงๆ! ทุกครั้งก่อนเข้าห้องน้ำ เขาจะดื่มน้ำเข้าไปมากและขอตัวออกมา… เฮ่อ การเป็นคนรวยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเป็นคนรวยที่หน้าตาดีนั้นยากยิ่งกว่า!”
ซิลชำเลืองมองเพื่อน
“แล้วนั่นเกี่ยวอะไรกับเธอ? มีสมาธิหน่อย! จริงจังหน่อย! พวกเรากำลังทำภารกิจ! นอกจากนั้น คนคุ้มกันของส.ส. มัคท์ยังค่อนข้างแข็งแกร่ง น่าจะเป็นผู้วิเศษ พวกเราต้องคอยระวังตัว”
ฟอร์สไม่มีทางเลือกนอกจากระงับจินตนาการแสนบรรเจิด
“พวกเขาเอาแต่เฝ้าทางเข้าออกโดยไม่ได้คำนึงว่าจะมีใครผ่านทางกำแพง… ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยสักนิด… ตกลง ไว้กลับไปแล้วค่อยคุยกัน”
เป็นเวลาเดียวกับที่ไคลน์เดินกลับจากห้องน้ำมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
มันจิบน้ำเย็น จิบไวน์ขาว กล่าวกับส.ส. มัคท์ด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่ผมย้ายมาอยู่ในเบ็คลันด์ ทุกวันหมดไปกับการทำความคุ้นเคยวิถีชีวิตจนไม่มีเวลาเริ่มต้นธุรกิจใหม่สักที ต้องตื่นเช้ามาพร้อมกับเห็นเงินทองไหลออกโดยไม่มีเข้ามาเพิ่ม… ฮะฮะ! คงถึงเวลาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
มันกล่าวติดตลกผสมผสานกับความตั้งใจที่จะร่วมมือค้าอาวุธเถื่อน
ส.ส. มัคท์ลูบแก้ว ยิ้มและกล่าว
“ผมเข้าใจได้ ตัวเองเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน… ตอนนี้คุณมีเงินสดในมือเท่าไร? ผมยินดีแนะนำเพื่อนฝูงให้ได้”
ไคลน์ตอบสุขุม
“ผมพร้อมลงทุนในราคาไม่เกินสองหมื่นปอนด์”
“คุณรวยกว่าที่ผมคิดไว้มาก” ส.ส. มัคท์ถอนหายใจด้วยอารมณ์เต็มเปี่ยม
ในสถานการณ์ปรกติ เศรษฐีที่มีเงินเย็นพร้อมทำธุรกิจมากถึงสองหมื่นปอนด์ ทรัพย์สินรวมจะต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนปอนด์
ไม่รอให้ดอน·ดันเตสถ่อมตน มันกล่าวโดยไม่มองหน้า
“ถ้าจำไม่ผิด คุณกำลังถือหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ของบริษัทโคอิมอยู่ใช่ไหม? สามารถใช้มันค้ำประกันได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นปอนด์ นั่นจะช่วยลดต้นทุนได้มาก”
ไคลน์ยิ้มพลางถอนหายใจ
“ผมบริจาคหุ้นส่วนนี้ให้ศาสนจักรไปแล้ว เตรียมจัดตั้งกองทุนแก่ผู้ยากไร้”
“บริจาคให้ศาสนจักร?” วันนี้มัคท์ยังไม่ได้พบกับบิชอปประจำวิหารนักบุญแซมมวล และเนื่องจากออกไปธุระข้างนอก จึงยังไม่ได้รับบัตรเชิญ
มาดามลีอานน่าและเฮเซลที่กำลังดื่มด่ำไปกับอาหาร ต่างเงยหน้าขึ้นมองดอน·ดันเตสโดยไม่รู้ตัว
ในแวดวงของพวกมัน มีเพื่อนฝูงเพียงไม่กี่คนที่สามารถบริจาคเงินระดับหนึ่งหมื่นปอนด์ไหว และไม่ใช่ในคราวเดียว โดยจากบรรดาทั้งหมด มีไม่กี่คนที่กว้างพอจะบริจาค หรืออาจไม่มีเลยก็ได้!
ไม่สิ ตอนนี้มีแล้ว ดอน·ดันเตส!
“ใช่ครับ” ไคลน์พยักหน้าราบเรียบ “หากปราศจากพรจากเทพธิดา ผมคงจบชีวิตลงในทวีปใต้อันแสนวุ่นวาย และในตอนที่ยังเด็ก ถ้าผมมีโอกาสได้เรียนหนังสือ ชีวิตคงจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ ผมอยากมอบโอกาสให้พวกเขา อยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาพวกเขาในทางที่ดีขึ้น”
“นิสัยใจคอของคุณน่าประทับใจพอๆ กับความใจกว้าง” มาดามลีอานน่าวางมีดส้อมลงพลางกล่าวชมเชย ส่วนเฮเซลพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับมองด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น
เมื่อเห็นพ่อและแม่กำลังคุยในหัวข้อการกุศล หญิงสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำ มือขวากดท้องไว้เล็กน้อย
หลังจากเดินมาถึงประตูห้อง ขณะเตรียมหันไปทางขวา สีหน้าเฮเซลชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมาทางตู้ทางซ้ายมือ
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย เผยสีหน้างุนงง ก่อนจะถอนสายตากลับและเดินไปเปิดประตูห้องน้ำฝั่งตรงตาม
จนกระทั่งทำธุระเสร็จและล้างมือให้สะอาด คล้ายกับเฮเซลหลงลืมความผิดปรกติที่เกิดขึ้น เพียงจับสร้อยคอและเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร
เมื่อจัดการจานของหวานเสร็จ มื้ออาหารก็จบลงโดยสมบูรณ์ คนทั้งสี่เดินกลับออกมาหน้าห้องส่วนตัวที่มีบอดี้การ์ดสองคนยืนรออยู่ เตรียมพร้อมเดินทางกลับบ้าน
ทันใดนั้น เฮเซลชะงักฝีเท้าและพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ