ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 878

ราชันเร้นลับ 878 : คำถามของอาโรเดส
วินาทีที่ไคลน์ตวัดเส้นสุดท้าย ไฟในห้องบิลเลียดหมายเลขสามพลันสลัว

บนผิวกระจกแต่งหน้าบานเล็ก คลื่นกระเพื่อมแผ่ออกมาเป็นวงกลม มอบความรู้สึกลุ่มลึกและเยือกเย็น

ถัดมา ถ้อยคำสีเลือดปรากฏขึ้นหนึ่งคำ

“ถามคำถามของเจ้า”

ฉากตรงหน้าอัดแน่นด้วยความน่าสะพรึง แม้อีกฝ่ายจะเป็นวิญญาณอาฆาตกับซอมบี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะผงะ ไม่กล้ากล่าวคำใดออกมาสักพัก

มีเพียงไคลน์ที่ยังสวมรอยยิ้ม ราวกับคุ้นชินภาพเช่นนี้เป็นอย่างดี

ชายหนุ่มได้กำชับ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสล่วงหน้าไว้แล้วว่า อย่าถามในสิ่งที่ยากเกินไป เป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป และอย่าทำตัวเหมือนคนรับใช้ ถ้าคำถามของชารอนกับมาริคไม่ช่วยให้ภารกิจง่ายขึ้น ไคลน์คิดจะแอบไปถามเองในภายหลัง เพราะไม่อยากให้ชารอนกับมาริคทราบว่า ตนมี ‘ตัวช่วย’ ที่สะดวกสบายในมือ

หลังจากความเงียบงันครอบงำสองสามวินาที มาริคก้าวเข้ามาใกล้และเปิดปาก

ทันใดนั้น สุ้มเสียงที่นุ่มนวลแต่ไร้อารมณ์ของชารอนดังขึ้น

“ฉันถามเอง”

โดยไม่รอให้มาริคตอบ เธอยืนขึ้นในลักษณะล่องลอย มองไปทางกระจกแต่งหน้าและพูด

“มัมมี่ตูตันส์ที่สองเป็นกับดักที่กองทัพโลเอ็นใช้ล่อลวงโรงเรียนกุหลาบ… ถูกต้องไหม?”

ข้อความเลือดเดิมบนกระจกเริ่มละลายและไหลลง ก่อนจะขยับตัวเรียงกันเป็นคำใหม่

“ถูกต้อง”

นึกแล้วเชียว เป็นกับดักที่กองทัพโลเอ็นเตรียมไว้ใช้ล่อลวงโรงเรียนกุหลาบ… ถ้าอย่างนั้นก็ตัดประเด็นที่โรงเรียนกุหลาบวางกับดักหลอกล่อชารอนและมาริคไปได้เลย… ท้ายที่สุดแล้ว เพียงเพื่อจะจัดการกับผู้วิเศษลำดับ 5 และ 6 ถึงโรงเรียนกุหลาบจะเปี่ยมด้วยความกระหายมากแค่ไหน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้… เว้นเสียแต่ พวกมันต้องการจัดการกองทัพโลเอ็นไปพร้อมกัน แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง โรงเรียนกุหลาบก็ควรเลือกลงมือบนทวีปใต้หรือไม่ก็ทะเล ไม่ใช่ใกล้กลับเบ็คลันด์ที่เป็นราวกับฐานทัพใหญ่ของศัตรู… ท่ามกลางความคิดที่แล่นผ่าน ไคลน์มองเห็นข้อความเลือดประโยคใหม่

“ตามหลักการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ถึงคราวข้าเป็นฝ่ายถาม… หากเจ้าตอบผิดหรือโกหก เจ้าจะถูกลงโทษ”

นับว่ายังเชื่อฟังกันอยู่ ไม่ทำตัวเหมือนคนรับใช้ต่อหน้าคนพวกนี้… ไคลน์มองไปที่โต๊ะบิลเลียด พยักหน้าเล็กน้อย

ทันใดนั้น ประโยคก่อนหน้าค่อยๆ เลือนหาย คำใหม่ปรากฏขึ้นแทน

“เจ้า…”

คำสีเลือดดังกล่าวค้างอยู่บนผิวกระจกสามวินาที ก่อนจะมีคำใหม่เขียนต่อท้าย

“…จงเล่าความสัมพันธ์ระหว่างเทพผู้ถูกล่ามและมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย”

ด้วยเหตุผลบางประการ ไคลน์พบว่าสีเลือดของประโยคท่อนหลังซีดจางลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็รู้สึกยินดีกับคำถาม เพราะเป็นสิ่งที่ตนอยากรู้เช่นกัน

ชารอนที่สวมหมวกอ่อนสีดำ มองเข้าไปในกระจกแต่งหน้า กล่าวเสียงเรียบและหน้านิ่ง

“ในช่วงจุดเริ่มต้นของยุคสมัยที่ห้า หลังจากการร่วงหล่นของเทพมรณา ตระกูลอายเกสค่อยๆ สูญเสียการปกครองในแถบที่ราบสูงดวงดาวและหุบเขาเพิร์ธ ส่งผลให้พลเมืองของสถานที่เหล่านั้นก่อตั้งองค์กรลับขึ้นมาเอง นั่นคือโรงเรียนกุหลาบ… ในช่วงเริ่มต้นยังไม่มีมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย มีเพียงเทพผู้ถูกล่าม… โรงเรียนกุหลาบนิกาย ‘ระงับแรงปรารถนา’ เริ่มก่อตั้งระบบพิธีกรรมทางศาสนาและวางกฎระเบียบ สมาชิกหลักต้องดำรงชีวิตเยี่ยงนักบวช ต้องระงับแรงปรารถนา เพื่อให้ได้รับความแข็งแกร่งเป็นผลตอบแทน… จนกระทั่งวันหนึ่ง เริ่มมีวิวรณ์จากเทพเอ่ยถึงการ ‘ปลดปล่อยแรงปรารถนา’ ส่งผลให้สมาชิกหลายคนเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละนิด ประเพณีบูชายัญเลือดที่เก่าแก่ถูกรื้อฟื้น และหลังจากนั้น ผู้นำระดับสูงบางคนของโรงเรียนเริ่มระบุว่า เทพผู้ถูกร่างเป็นเพียงร่างอวตารของมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย”

ดูเหมือนว่าเทพผู้ถูกล่ามจะค่อยๆ ถูกกัดกร่อนทีละนิด หรือไม่ถูกมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหายสวมรอยไปแล้ว… หากเทพผู้ถูกล่ามคือลำดับ 0 จริง แปลว่ามารดาพฤกษาแห่งแรงกระหายนั้นน่าสะพรึงกลัวทีเดียว ไม่แปลกใจว่าทำไมเหล่าทวยเทพลำดับ 0 ถึงต่างพากันตั้งตัวเป็นศัตรู… แต่ในความเป็นจริง เทพผู้ถูกล่ามอาจไม่ใช่ลำดับ 0 ก็ได้ อาจเป็นแค่ ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทาง หรือไม่ก็เป็นราชาเทวทูตที่ครอบครองตะกอนพลังลำดับ 1 สองก้อน… หรืออาจจะอ่อนแอกว่านั้น ตอนนี้เรายังมีข้อมูลไม่มากพอที่จะสรุป… ไคลน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดเกี่ยวกับมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย

ทันใดนั้น ชารอนเปลี่ยนคำถาม

“มัมมี่ตูตันส์ที่สองมีความผิดปรกติอย่างไร?”

บนผิวกระจกแต่งหน้า ถ้อยคำสีแดงเลือดเริ่มแปรเปลี่ยน เรียงตัวเป็นประโยคที่สมบูรณ์

“เป็นคำสาป… รูปแบบหนึ่งของคำสาป… มีโอกาสกลายเป็นซอมบี้ด้วยตัวเอง”

มัมมี่ต้องสาป? สมกับเป็นที่ศพของผู้วิเศษลำดับสูง… แล้วต้องแก้ไขยังไง? ไคลน์หันไปมองชารอนและมาริค พบว่าสีหน้าของทั้งคู่ยังคงเยือกเย็น ไม่เผยความประหลาดใจ คล้ายกับรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว และมีวิธีแก้คำสาปมัมมี่

ถึงชารอนจะชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลา แต่อากัปกิริยาของมาริคสามารถตีความได้เช่นนั้น

หลังจาก ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสมอบคำตอบ ด้วยหลักการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ถึงเวลาที่มันต้องถาม

“เจ้า…”

“…มุ่งมั่นอย่างมากที่จะเลื่อนลำดับให้ได้ ทำไปเพื่อสิ่งใด?”

ในคราวนี้ ถึงจะตัวอักษรจะยังเป็นสีเลือด แต่ก็มิได้เข้มข้นเหมือนในช่วงแรก ตัวหนังสือซีดจางลงจากเดิมมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ