หลังจากใช้สมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรมขโมยโลงศพของตูตันส์ที่สองมาอยู่ตรงหน้า ร่างของมันพลันซีดจางและโปร่งใส ก่อนจะยืดออกคล้ายเชือกยาวนุ่มๆ
‘เชือก’ ที่โปร่งใสจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเส้นนี้ พันเข้ากับโลงศพสีทองอันหนักอึ้งอย่างรวดเร็ว เตรียมนำเข้าสู่โลกวิญญาณ
ทันใดนั้น สายลมกระโชกดังขึ้นข้างใบหูครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบ กรีดเฉือนกับห้วงมิติจนเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว
บึ้ม!
โลงศพสีทองของมัมมี่ตูตันส์ที่สองลอยขึ้นไปในอากาศ ส่วนเชือกโปร่งใสที่สัมผัสกับแรงระเบิดเข้าอย่างจัง หดกลับคืนร่างมนุษย์อย่างรวดเร็ว
ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบรายนี้พุ่งขึ้นฟ้าในแนวเฉียงอย่างมิอาจควบคุม ก่อนจะแปลงร่างเป็นวิญญาณอาฆาต ไม่สิ วิญญาณมาร ปล่อยให้สายลมอันเกรี้ยวกราดที่ไล่ตามหลัง พัดผ่านร่างกายไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ขณะมันกำลังสำรวจการไหลเวียนของกระแสอากาศโดยรอบ พายุทอร์นาโดบนพื้นเริ่มยกตัวสูง พัดพาก้อนหินและเศษกรวดบนพื้นดิน รวมถึงหลังคาอาคารใกล้เคียง ลอยขึ้นฟ้าอย่างโกลาหลในเวลาไล่เลี่ย แม้กระทั่งเกวียนที่เคยวิ่งด้วยตัวเองในตอนแรกก็ยังลอยไปบนฟ้าและแตกกระจัดกระจายท่ามกลางสายลมรุนแรง
อาจดูเหมือนโชคดี แต่ความจริงแล้วเป็นแผนที่พวกมันวางไว้ เงาดำในจุดที่ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบซ่อนอยู่ ไม่มีทหารของโลเอ็นประจำการแม้แต่คนเดียว แถมยังห่างไกลจากถนนสายหลัก
ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวซึ่งสวมมงกุฎหนามและชุดราตรีสีดำ ถูกพายุทอร์นาโดขัดขวางจนเคลื่อนไหวไม่สะดวก ร่างกายเสียหลักอย่างมิอาจควบคุม ยากจะเข้าไปใกล้โลงศพสีทองที่ถูกยกลอยขึ้นฟ้า ทำได้เพียงอาศัยการแรงปะทะเพื่อหมุนตัวเองไปด้านหลัง หันหน้าไปทางโกดังที่อยู่ด้านนอกท่าเรือ
ทันใดนั้น เธอมองย้อนกลับไปยังครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่ไม่ได้รับผลกระทบจากทอร์นาโด
“จองจำ!” หญิงสาวที่สวมหน้ากากสีทองเช่นกัน ยกมือซ้ายขึ้นและทำท่าคว้าอากาศ
ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบนั้นมีสัมผัสวิญญาณเฉียบแหลม สามารถรับรู้อันตรายได้จากโลกวิญญาณโดยตรง จึงชิงลงมือก่อนครึ่งก้าว ใช้กระโดดกระจกหนีไปยังเศษแก้วที่ห่างออกไปราวแปดสิบเมตร
ขณะนี้ คล้ายกับพายุทอร์นาโดสูญเสียเสถียรภาพ เริ่มสงบลงอย่างรวดเร็ว
ตึง! ตึง! ตึง! เศษสิ่งของที่เคยถูกยกลอย ทยอยร่วงหล่นกระแทกพื้นดิน หนึ่งในนั้นคือโลงศพมัมมี่ตูตันส์ที่สอง
โครม!
แรงกระแทกทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ เค้าโครงด้านนอกของโลงศพที่อยู่ในสภาพร่อแร่เพราะลมพายุ ถึงคราวถูกทำลายโดยสมบูรณ์
ฝาโลงศพลอยขึ้นฟ้า ทองคำและอัญมณีในโลกศพส่วนบนกระเด็นลอยไปทุกทิศทาง
ถัดมา โลงศพส่วนล่างกลิ้งไปมาสองสามตลบ กล่องทองคำและภาชนะหยกกลิ้งกระจัดกระจาย ด้านในเต็มไปด้วยอวัยวะภายในซึ่งอยู่ในสภาพเหี่ยวเฉา
ศพที่ถูกห่อด้วยผ้าลินินสีน้ำตาลอมเหลือง กลิ้งกระเด็นไปในทิศทางหนึ่ง ผิวผ้าชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้ม
ไม่ใช่สิ่งใดนอกจากมัมมี่ที่สร้างจากศพของตูตันส์ที่สอง ลำตัวค่อนข้างบาง สวมหน้ากากทองคำแถบแดงสลับดำเหมือนกับครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบคนเมื่อครู่ บริเวณเบ้าตาฝังอัญมณีสีดำบริสุทธิ์สองเม็ด
ขณะที่มัมมี่โผล่ออกมา สภาพแวดล้อมโดยรอบเย็นเยียบกะทันหัน และในเวลาเดียวกัน หลังจากกลิ้งไปได้สักพัก โลงศพส่วนล่างหยุดนิ่งในสภาพคว่ำหน้า ของเหลวสีแดงเข้มไหลซึม ฉาบพื้นดินในจุดดังกล่าวจนชุ่มฉ่ำ
ได้เห็นฉากดังกล่าว ครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบที่มาพร้อมกับสมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรมพลันเดือดดาลทันที แต่เพียงไม่นานก็ทำหน้าคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่งได้ สายตาเปลี่ยนไปเป็นความตื่นเต้น
มันเตรียมหายตัวจากเศษแก้ว ไปโผล่อีกครั้งในดวงตาอัญมณีสีดำบนหน้ากากของมัมมี่ตูตันส์ที่สอง หวังเข้าสิงร่างและพามัมมี่ตนดังกล่าวหนีเข้าโลกวิญญาณ!
ทว่า ท่ามกลาง ‘เนตรวิญญาณมาร’ ที่เปิดอยู่ มันพบว่ามัมมี่หันหน้าออกจากตำแหน่งเดิม
ขณะเดียวกัน มัมมี่ตูตันส์ที่สองซึ่งสวมมงกุฎสีทองเหนือศีรษะ กำลังหันหน้าที่มีดวงตาอัญมณีสีดำไปทางประภาคารแห่งเดียวของท่าเรือพริสต์
ฟาโรห์ซึ่งล่วงลับไปนานกว่าหลายร้อยปีรายนี้ ส่งเสียงคำรามต่ำที่ฟังดูไม่เหมือนมนุษย์ ขาผอมๆ ที่พันด้วยผ้าลินินสีน้ำตาลอมเหลืองเริ่มขยับก้าวเดิน จนกระทั่งกลายเป็นวิ่ง!
คล้ายกับมันกำลังวิ่งตามหาอิสรภาพ โดยที่ลืมไปว่า ตัวมันเป็นเพียงศพ ศพที่ควรจะนอนนิ่งๆ
สวบ! สวบ! สวบ! มัมมี่ตูตันส์ที่สองเร่งความเร็วสูงสุดทันทีที่เริ่มออกวิ่ง
ได้เห็นเช่นนั้น สตรีในชุดราตรีสีดำยกมือขวาขึ้น เล็งไปยังมัมมี่ซึ่งกำลังทำตัวผิดธรรมชาติ
“คนตายทุกคนจะต้องนอนหลับอย่างสงบ!” หญิงสาวพ่นถ้อยคำภาษาเฮอร์มิสโบราณ
ตึง!
มัมมี่ตูตันส์ที่สองย่ำเท้าลงบนพื้น กระโดดสุดแรงไปยังทิศทางหนึ่งจนกระทั่งหลุดพ้นจากขอบเขตของ ‘กฎ’ ฉิวเฉียด หลีกเลี่ยงการนอนหลับพักผ่อนอย่างสงบ
ในจุดห่างออกไป ชายผมดำดวงตาสีทองที่กำลังไล่ล่า ‘ผู้เงียบขรึม’ มาฮามูซี พลันหรี่ตาลง สั่งให้แหวนบนมือส่องแสงระยิบระยับคล้ายผลึกแก้วอีกครั้ง
ร่างของมันปรากฏตัวอีกครั้งด้านหน้ามัมมี่ พยายามขัดขวางมิให้คนตายวิ่งหนี
ทว่า มัมมี่ตูตันส์ที่สองหักเลี้ยวอีกครั้ง รีบวิ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง
มันยังเปลี่ยนทิศทางการวิ่งอีกหลายครั้ง คล้ายกับพยายามวิ่งไปให้ถึงประภาคารด้วยทิศทางไม่ต่อเนื่อง
ภายในใจ ‘ผู้เงียบขรึม’ มาฮามูซีกำลังปั่นป่วน รีบหายตัวและโผล่อีกครั้งบนเศษแก้วใกล้กับมัมมี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ