“ตาเจ้าถามแล้ว”
แสงสีเงินเรียงตัวใหม่อีกครั้งบนผิวกระจกเต็มบาน กลายเป็นคำใหม่
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ มีอะไรให้ข้ารับใช้อีกไหม?”
ถามได้ดี! ไคลน์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบ
“หลังจากที่เราออกจากเบ็คลันด์ จงให้ความสนใจกับสถานการณ์ของบ้านนายแพทย์อลัน·คริสต์ และเมื่อภรรยาของเขาคลอดบุตร ให้นำข่าวมาแจ้งกับเราในตอนที่เจ้าถูกอัญเชิญ”
หลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจัง ไคลน์พบว่าวิธีจับตามองสถานการณ์ของอสรพิษปรอทที่ดีที่สุดคือการฝากให้ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสดูแล เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถตรวจตราบ้านหลังนี้ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง สิ่งที่ไคลน์ต้องทำมีเพียงการเปลี่ยนบ้านทุกๆ เดือนเพื่อนำเครื่องรับสัญญาณโทรเลขออกจากมิติเหนือสายหมอก
“ขอรับ นายท่าน~” คำพูดบนกระจกกำลังแสดงอารมณ์ปัจจุบันของอาโรเดสอย่างเต็มเปี่ยม “ข้ามีคำถาม”
“ว่ามา” ไคลน์พยักหน้าอนุญาต
สำหรับคราวนี้ ขณะที่ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสกำลังเขียน มีการชะงักหยุดหลายครั้ง คล้ายกับออกอาการลังเล
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ท่านมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเด็กคนนั้น?”
ดูเหมือนมันจะกำลังสงสัยว่า เหตุใดผู้ปกครองสูงสุดเหนือโลกวิญญาณถึงต้องให้ความสำคัญกับทารกในครรภ์
หืม… เราเคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของนายแพทย์อลัน? อาโรเดสไม่ตระหนักถึงความผิดปรกติของวิล·อัสตินเลยสักนิด? ดูเหมือนว่า หากเป็นการปกปิดร่องรอยและโชคชะตา ‘อสรพิษปรอท’ นั้นยอดเยี่ยมกว่าเทวทูตตนอื่นหลายขุม… แต่กระจกวิเศษบานนี้เคยแจ้งเบาะแสเมื่อครั้ง ‘ผู้กลืนหาง’ โอโรเลอุสเดินทางออกจากเบ็คลันด์ได้แม่นยำ… หืม… คงเป็นเพราะเป็นการ ‘เริ่มต้นวงจรใหม่’ ของวิล·อัสติน ทำให้ยากที่จะพบความผิดปรกติแม้จะเป็นนักค้นหาระดับสูง… และคงเป็นเหตุผลเดียวกับที่สามารถหลบเลี่ยงจากสายตาของ ‘เทวทูตแห่งชะตา’ มาได้ตลอด… ไคลน์ตอบกลับด้วยความกระจ่าง
“มิตรสหาย”
ส่วนเรื่องจะเป็นบิดาอุปถัมภ์ให้วิล·อัสตินหรือไม่นั้น ชายหนุ่มเพียงแค่คิดเล่นๆ ไม่กล้าตัดสินใจหรือบังคับ ด้วยกังวลว่าอสรพิษแห่งชะตารายนี้จะรำคาญ
“แค่มิตรสหาย…” ระหว่างตัวอักษร อาโรเดสเผยความผิดหวังอย่างอธิบายไม่ถูก “นายท่านเชิญถามมาได้เลย”
ไคลน์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบ
“เจ้ารู้ไหมว่า คนที่เราเห็นในสโมสรนายทหารผ่านศึกไบลัมตะวันออกเป็นใคร? หากเจ้าไม่แน่ใจว่าหมายถึงใคร เราสามารถวาดให้ดูได้”
ภายในกระจกอันมืดมิด คลื่นน้ำกระเพื่อมบนพื้นผิว เผยให้เห็นภาพของชายหนวดเคราดกหนา ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ไม่ใช่ใครนอกจากครึ่งเทพที่ไคลน์สงสัยว่าจะอยู่ในเส้นทางจักรพรรดิมืด
ขณะเดียวกัน ข้อความที่สอดคล้องกันถูกเขียนอยู่ใต้ ‘ภาพถ่าย’
“ชายคนนั้นมีชื่อว่าโจนาส·โคลเกอร์ สังกัดหน่วย MI9 ยศปัจจุบันคือพลตรี ดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ อยู่ในลำดับ 5 ของเส้นทาง ‘นักกฎหมาย’ แต่ถือครองสมบัติปิดผนึกที่ทรงพลัง”
MI9… รองผู้บังคับการ… ดูเหมือนว่าจะเป็น ‘ตัวแทน’ ที่ราชวงศ์ส่งมาทำงานในหน่วยข่าวกรองโดยเฉพาะ… ไคลน์นึกทบทวนข้อมูลที่กระจกวิเศษแจ้งให้ทราบ ครุ่นคิดอยู่สักพัก แต่ก็ไม่พบหนทางในการสืบสวน ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร เพราะท้ายที่สุด อีกฝ่ายเป็นครึ่งเทพ ไม่ว่าจะเฝ้าจับตามองหรือสืบประวัติ ไม่ว่าจะลงมือเองหรือจ้างคนอื่นทำ ทั้งหมดรังแต่จะทำให้อีกฝ่ายตื่นตัว แถมยังอาจถึงขั้นลงมือตอบโต้
วิธีเดียวที่พอจะพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือ ให้มิสจัสติสช่วยรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เพราะอีกฝ่ายไม่เพียงจะมีสถานะสูงส่ง แต่ยังมีเส้นสายในแวดวงทหาร แถมยังเป็นถึงลำดับ 6 ของเส้นทางผู้ชม สามารถชักนำหัวข้อสนทนาได้โดยไม่มีใครสงสัย
ต้องยอมรับว่า แม้เส้นทางผู้ชมจะไม่ถนัดในการต่อสู้ซึ่งหน้า แต่ก็มีประโยชน์มากในด้านอื่นๆ และด้วยความสามารถของนักจิตบำบัดกับ ‘นักสะกดจิต’ เส้นทางผู้ชมมีสิทธิ์ควบคุมและชี้นำการต่อสู้ได้ในระดับหนึ่ง… ไคลน์ถอนหายใจ ครุ่นคิดว่าตนควรถามกระจกวิเศษเกี่ยวกับเรื่องใดอีก
ทันใดนั้น แสงและเงาบนผิวกระจกจางลง เรียงตัวกันเป็นคำใหม่
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ อยากทราบไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังคดีฆ่าตัวตายของคารอน?”
คราวนี้เป็นฝ่ายริเริ่มบอกข้อมูลด้วยตัวเอง? สำหรับคดีดังกล่าว เราเอาตัวเองออกมาแล้ว เพราะไม่อยากพัวพันกับเรื่องยุ่งเหยิงมากเกินไปนัก เพียงแค่รอให้เหยี่ยวราตรีสืบสวนหาผลลัพธ์… เรามองว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ จึงไม่อยากเสียเวลาถาม… ไคลน์พึมพำเงียบ พยักหน้าเล็กน้อย
“อยากสิ”
กระจกเงาเต็มบานเขียนบรรทัดตัวอักษรสีขาว
“ที่ปรึกษาของราชวงศ์ เฮอร์วิน·แรมบิส หนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมแปรจิต”
สมาคมแปรจิต? ที่ปรึกษาราชวงศ์? ไคลน์พลันขมวดคิ้ว
นั่นเพราะชายหนุ่มยากจะคาดเดาว่า สมาคมแปรจิตกำลังวางแผนอะไร หรือเป็นเพราะราชวงศ์บางฝ่ายไม่พอใจกับสภาพการเมืองในปัจจุบัน จึงพยายาม ‘ผลักดัน’ ด้วยตัวเอง
สมาคมแปรจิตไม่ได้มุ่งเน้นไปในเชิงวิชาการและสำรวจโบราณสถานอย่างที่เราคิด… หรือว่าโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อองค์กรลับเติบโตถึงจุดหนึ่ง เป้าหมายจะเปลี่ยนไปเป็นการแสวงหาอำนาจและแผ่อิทธิพลต่อโลกใบนี้? หรือพวกมันทำไปเพราะต้องการ ‘หลักยึดเหนี่ยว’ ? เรายังไม่ทราบว่าพฤติกรรมของเฮอร์วิน·แรมบิสเป็นเป้าหมายส่วนตัว หรือการตัดสินใจขององค์กร หากเป็นอย่างแรกก็ค่อยเบาใจ แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ยิ่งตำแหน่งในสมาคมแปรจิตของมิสจัสติสสูงขึ้น เธอก็จะยิ่งเผชิญความยากลำบาก… ความคิดมากมายแล่นผ่านสมองไคลน์ จากนั้นก็เล่นเกมถามตอบกับกระจก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ