“ถุงมือนั่นยังไม่ถูกผนึก”
ในขณะกล่าว เอ็นโซเจ้าของผิวหนังแดงจนเกือบลอก ใช้มือซ้ายที่กำลังสวมแหวน ‘บุปผาโลหิต’ และ ‘ดอกไม้เขียว’ เพื่อถอดถุงมือหนังมนุษย์จากมือข้างขวา
นี่คือยุบพองหิวโหย
ตามปรกติแล้ว หากไม่ได้ใช้งาน ไคลน์มักจะโยนยุบพองหิวโหยไว้บนมิติหมอกสีเทา เพราะหลังจากถุงมือชนิดนี้กลายพันธุ์ ผนึกเดิมไม่สามารถใช้การได้อีก ทุกวันต้องได้กินคนเป็น ไม่อย่างนั้นมันจะกินผู้สวม แต่เมื่อพิจารณาว่ามิสเตอร์อะซิกตอบจดหมายแล้ว คงใกล้มาหาเต็มที ไคลน์จึงตัดสินพกยุบพองหิวโหยติดตัวไว้บนโลกความจริง
เพราะมันไม่อยากให้เกิดบทสนทนาในทำนองนี้:
“คุณจะให้ผมผนึกถุงมือนั่นอีกครั้งใช่ไหม?”
“ใช่ครับ… ผมขอเข้าห้องน้ำสักครู่”
หรือ:
“คุณพร้อมหรือยัง?”
“ไม่ครับ… ผมขอเข้าห้องน้ำสักครู่”
เพียงจินตนาการฉากดังกล่าว ไคลน์พลันเขินอายอย่างอธิบายไม่ถูก แม้จะไม่กังวลเรื่องนี้มิสเตอร์อะซิกอาจค้นพบความลับของมิติเหนือสายหมอก แต่ไคลน์ก็เป็นห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง
ดังนั้น หลังจากได้รับหุ่นเชิดใหม่และเสร็จสิ้นการทดสอบ ‘มองตัวเอง’ ไคลน์นำยุบพองหิวโหยกลับมายังโลกความจริงและจัดการอาหารของมันให้เรียบร้อยล่วงหน้า
โดยไม่เหมือนกับทุกครั้ง ผู้สวมใส่เปลี่ยนจากตัวเองเป็นหุ่นเชิดเอ็นโซ
นอกจากที่ว่ามาข้างต้น เพื่อระงับแรงกระตุ้นในการกินคนของยุบพองหิวโหย ไคลน์พกเห็ดธรรมดาติดตัวไว้สองสามดอก และให้หุ่นเชิดรักษาระยะห่างต่ำกว่าห้าเมตรเสมอ
ได้ยินคำถามของชายหนุ่มและได้เห็นพฤติกรรมของหุ่นเชิด อะซิกพยักหน้ารับ เหยียดแขนออกไปจับถุงมือหนังมนุษย์
ไคลน์ฉวยโอกาสหยิบเห็ดออกมาจากกระเป๋าและทิ้งลงถังขยะที่ไม่ห่างออกไป
เป๊าะ!
ชายหนุ่มดีดนิ้วเพื่อให้เห็ดเผาตัวเอง เปลวไฟแดงก่ำลุกโชน แต่มิได้ไม่กระทบกับสิ่งรอบข้าง
นี่คือพลัง ‘ควบคุมไฟ’ ของนักมายากล
หลังจากจัดการเสร็จ เมื่อเห็นสายตาของอะซิกมองตรงมาทางตน ไคลน์หัวเราะแห้ง
“การกลายพันธุ์ทำให้ยุบพองหิวโหยค่อนข้างหวาดกลัวเห็ด ผมจึงใช้จุดอ่อนดังกล่าวเพื่อควบคุมความกระหายของมัน”
อันที่จริง การพกเห็ดติดตัวแทบไม่มีประโยชน์ในแง่การควบคุมความกระหายของยุบพองหิวโหย จริงอยู่ สมบัติปิดผนึกรายนี้อาจสูญเสียตัวตนไปชั่วคราว แต่ทันทีที่เห็ดหายไป ถุงมือจะหันมาแว้งกัดผู้สวมทันที เว้นเสียแต่จะมี ‘อาหาร’ อื่นที่หากินได้ง่ายกว่าถูกวางอยู่ตรงหน้า
“เห็ด…” อะซิกถือถุงมือเปื้อนเลือดพลางพึมพำ จากนั้นก็เปลี่ยนให้บรรยากาศโดยรอบมืดลง ประหนึ่งแสงแดดนอกหน้าต่างถูกปฏิเสธมิให้เข้ามา
ไม่ว่าสัญลักษณ์ อักขระ หรือลวดลาย ไม่ว่าจะมีสีเทาอ่อนหรือเขียวเข้ม ความพิศวงจำนวนมากกำลังผุดขึ้นในอากาศ คล้ายกับกำลังถูก ‘เขียน’ ด้วยสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็น เช่นวิญญาณอาฆาต เงาดำ และวิญญาณ
พวกมันพัวพันและรวมตัวอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ค่อยๆ แปรสภาพกลายเป็นบานประตูทองแดงที่ลึกลับและมายาที่ดูคล้ายจะเชื่อมต่อกับอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่เปี่ยมไปด้วยความลุ่มลึก เงียบสงัด และสยองขวัญ
ประตูมายาบานดังกล่าวค่อยๆ หดตัวลง จนในที่สุดก็ถูกวางลงบนยุบพองหิวโหย ส่งผลให้เลือดที่เปื้อนบนผิวหนังจางลงอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงความซีดเซียว
ไม่กี่วินาทีถัดมา ถุงมือหนังข้างนี้กลับเป็นปรกติอีกครั้ง ลักษณะภายนอกยังคงเป็นถุงมือหนังแผ่นบาง แต่ถึงแม้จะไม่มีเห็ดคอยข่มความกระหาย มันก็จะไม่แสดงอาการฉุนเฉียวหรือกระหายเลือด
“เป็นเหมือนเดิมแล้ว” อะซิกยื่นยุบพองหิวโหยให้ไคลน์
รู้สึกดีที่มีลูกพี่ใหญ่คอยสนับสนุน! ไคลน์ถอนหายใจพลางขอบคุณจากก้นบึ้ง จากนั้นก็สวมยุบพองหิวโหยที่มือซ้าย
ครุ่นคิดสักพัก มันตัดสินใจเป็นฝ่ายเปิดปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ