ท่ามกลางความเจ็บปวดรวดร้าว ท่ามกลางกระแสความคิดมากมาย ภาพชุดหนึ่งผุดขึ้นมากะทันหัน
ใบหน้าของงูขนนกที่ดูเหมือนกับตนทุกประการ แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
ท่ามกลางดินแดนอันเงียบสงบ ซากศพสีซีดเรียงรายนับไม่ถ้วน
ลอยเหนือขึ้นไปในอากาศ เมฆที่ประกอบขึ้นจากกะโหลกของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ล่องลอยกระจัดกระจาย
หนวดรยางค์สีเข้มทะลวงขึ้นจากพื้นดิน แต่ละปลายหนวดมีดวงตาที่เหมือนกับปลาตาย
ภายในฉากที่เห็น ร่างวิญญาณสีใสของอะซิกถูกบางสิ่งบางอย่างกระชากออกจากร่างเนื้อ
ดวงตาคู่หนึ่งที่มีเปลวไฟสีซีดคล้ายใกล้ดับมอด ชำเลืองลงมาหาอะซิก ทันใดนั้น ขนนกสีขาวที่ย้อมด้วยน้ำมันสีเหลืองทำการตัดร่างวิญญาณโปร่งใสของอะซิกออกเป็นสองส่วน
ร่างวิญญาณซีกหนึ่งบินขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ ‘เมฆกะโหลก’ ด้านบนท้องฟ้า ส่วนที่เหลือผสานเข้ากับเครื่องประดับทองคำซึ่งผุดขึ้นจากอากาศว่างเปล่า และด้วยอำนาจของเปลวเพลิงสีซีด วัตถุดังกล่าวแปรสภาพกลับไปเป็นเลือดเนื้ออีกครั้ง
ฉากตรงหน้าเปรียบประหนึ่งถูกทุบด้วยค้อนของเทพสายฟ้า รัวกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายในจิตใจอะซิก สร้างความเจ็บปวดทุรนทุรายจนยากจะฝืนทน จำต้องยกมือขึ้นกุมหัว เข่าทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรงตรงบันได
ในที่สุด มันจดจำทุกสิ่งได้อย่างกระจ่างชัด เข้าใจว่าทำไมตนต้องตายและฟื้นคืนชีพตลอดเวลา เข้าใจเหตุผลที่สูญเสียความทรงจำและต้องตามหามันคืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดวงวิญญาณของมันไม่สมบูรณ์!
ในทำนองเดียวกัน อะซิกยังเข้าใจด้วยว่า เหตุใดงูขนนกในส่วนลึกของหมอกดำจึงมีใบหน้าแบบเดียวกับมัน
เพราะนั่นคือตน!
นั่นคือ ‘อะซิก·อายเกส’ อีกหนึ่งคน!
ทั้งหมดคือการเตรียมการอย่างลับๆ ก่อนที่เทพมรณาจะร่วงหล่น
เมื่อมี ‘เย็บวิญญาณ’ ก็ย่อมต้องมี ‘แบ่งวิญญาณ’ ในเวลานั้น เทพมรณาที่บ้าคลั่งและทรงพลังคล้ายกับคาดเดาจุดจบของตัวเองได้ และไม่ต้องการที่จะตายไปทั้งอย่างนั้น จึงแอบแบ่งดวงวิญญาณของลูกชายตัวเอง วิญญาณของ ‘กงสุลมรณะ’ แห่งอาณาจักรไบลัมออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งถูกเย็บเข้ากับวัตถุบางชนิด
ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นความตั้งใจของเทพมรณาหรือไม่ หรืออาจเป็นความบังเอิญจากโครงการสร้างมรณาเทียมของนิกายวิญญาณ ครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณอะซิกผสานเข้ากับวัตถุที่นิกายวิญญาณใช้ในโครงการ – ‘เอกลักษณ์’ แห่งเส้นทางมรณา ส่งผลให้เอกลักษณ์ได้รับสัญชาตญาณบางอย่างและเริ่มสร้างอิทธิพลอย่างรุนแรงกับผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้เก็บซากศพ’ ที่เลื่อนลำดับล้มเหลว
สำหรับดวงวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง แม้การผสานเข้ากับวัตถุสีทองจะช่วยเติมเต็มความไม่สมบูรณ์ของวิญญาณ แต่เนื่องจากเนื้อวิญญาณนั้นมีเพียงครึ่งเดียว จึงต้องเผชิญความตายครั้งแล้วครั้งเล่าและฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่ ประหนึ่งลำดับ 4 ‘อมรณา’ โดยหลังจากคืนชีพขึ้นมา อะซิกจะได้รับอิทธิพลจาก ‘เครื่องประดับทองคำ’ ในร่างกาย ช่วยให้ได้ยินเสียงร้องของวิญญาณอีกครึ่งหนึ่ง ทุกครั้งที่เริ่มต้นชีวิตใหม่จึงต้องคอยตะเกียกตะกายตามหาความทรงจำของตัวเองเสมอ
ในอดีต อะซิกพยายามหาสาเหตุ แต่เนื่องจากการฟื้นฟูความทรงจำตามธรรมชาตินั้นใช้เวลานาน กว่าจะรู้ความจริงก็เข้าสู่ภาวะใกล้ตาย สายเกินไปที่จะลงมือทำอะไร นอกจากนั้น โครงการมรณาเทียมของนิกายวิญญาณยังหยุดนิ่งมานานหลายร้อยปี แทบไม่มีความคืบหน้าจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มันจึงหาคำตอบไม่พบ
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!
อะซิกลดมือลงตอนไหนไม่มีใครทราบ ปัจจุบันสองมือถูกใช้เพื่อพยุงร่างกายกับพื้นบันได ลำคอเปล่งเสียงที่ฟังดูไม่เหมือนกับมนุษย์
เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากและหล่นกระทบขั้นบันไดหินด้านล่าง ก่อนจะขยายตัวกลายเป็นชั้นน้ำมันสีเหลืองอ่อนที่มีขนนกสีขาวงอกเงยขึ้นมาปกคลุม
ในเวลานี้ มันสัมผัสถึงเสียงร้องและความปรารถนาจากอีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณ ตระหนักว่า ‘ตัวตน’ ทั้งสองที่ถูกพรากจากกันมานานกว่าพันปีแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ดังเดิม
“ไม่…” อะซิกพึมพำด้วยความเจ็บปวด ฝืนร่างกายให้ไม่ยกศีรษะขึ้นหรือเหยียดแขนขวาออกไป
อะซิกมองเห็นอย่างชัดเจน ‘ตัวตน’ ภายในงูขนนกไม่มีอารมณ์หรือเหตุและผลแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นและความบ้าคลั่ง หากต้องกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง มันเกรงว่าตัวเองจะกลับไปสู่สถานะเดิมของ ‘กงสุลมรณะ’ และอาจกลายเป็นเทพมรณาปลอมๆ ที่มีเพียงออร่าเทพโดยไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์!
จากนั้น มันก็จะลืมทุกสิ่ง ลืมทุกคนที่ตนเคยมอบความรักให้
“ไม่…” อะซิกครางอีกหนึ่งคำออกจากลำคอ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างมิอาจควบคุม เกล็ดสีดำเย็นเยียบปรากฏขึ้นบนลำคอ
ผิวหนังบริเวณหน้าผากพลันโป่งออกราวกับมีชีวิต ก่อนจะปริแตกจนเกิดรอยแยกสีแดงฉาน
แสงสีทองเรืองรองปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า จากนั้นก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปทรงภายในเลือดเนื้อ
สิ่งนี้เครื่องประดับโบราณที่ทำจากทองคำ รูปลักษณ์เหมือนกับนกที่ร่างกายผอมเพรียว ปีกทำจากเปลวไฟสีซีด ภายในดวงตาสีทองแดงมีชั้นแสงซ้อนทับ ค่อยๆ ก่อตัวเป็นประตูลึกลับและมายา
ในวินาทีที่สิ่งนี้โผล่ออกมา อะซิกคำรามต่ำด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เงยหน้าขึ้นโดยสมบูรณ์ เบ้าตามีเปลวไฟสีซีดสองดวงลุกโชนอย่างพร้อมเพรียง
งูขนนกกึ่งมายากึ่งคมชัดที่อยู่ภายในส่วนลึกของหมอกสีดำทำการเหยียดตัวตรงในแนวดิ่ง เงยหน้าที่เหมือนกับอะซิกทุกประการ ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันอย่างเงียบงัน
ท่ามกลางเปลวเพลิงสีซีดทั้งดวงสี่กำลังสั่นไหว มือของอะซิกค่อยๆ พยุงร่างขึ้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว จากนั้นก็ย่างกรายเข้าหางูขนนกที่น่าจะเป็นเทพมรณาเทียม
ยิ่งเข้าใกล้ อนุสาวรีย์บรรจุศพทั้งหลังก็ยิ่งสั่นสะเทือน ฉากรอบตัวกลายเป็นสีโปร่งใส เผยให้เห็นโลกที่เต็มไปด้วยโครงกระดูกและเงาดำ
ท่อนแขนเปื้อนเลือด เถาวัลย์สีดำที่มีใบหน้าทารก หนวดรยางค์ลื่นๆ ที่มีตาปลาตายหรือไม่เขี้ยวแหลมสองแถว ทะลวงผ่านขอบเขตระหว่างโลกจริงและมายาเข้ามาในอนุสาวรีย์บรรจุศพ แต่กลับหมอบแน่นิ่งบนพื้นดินโดยไม่กล้าขยับตัว
…
ไบลัมตะวันออก เมืองเครน
ดาลีย์·ซิโมเน่ซึ่งกำลังรีบไปยังตำแหน่งเป้าหมายถัดไป พลันชะงักฝีเท้ากะทันหัน ยกมือขึ้นมาป้องหูทั้งสองข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ