ฟอร์สที่กำลังงีบหลับ พลันตื่นจากความฝันและพบกับหมอกสีเทาไร้ขอบเขตเบื้องหน้า และยังเห็น ‘เดอะมูน’ กำลังก้มศีรษะสวดวิงวอนด้วยประโยคที่ชัดเจน
“…ชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบ็คลันด์ กึ่งกลางป่าเดแลร์จะมีปราสาทร้างอยู่หนึ่งหลัง ภายในนั้นมีวิญญาณอาฆาตโบราณอย่างน้อยสองตน รวมถึงวิญญาณประเภทอื่นของคนตาย ปัจจุบันยังไม่ยืนยันว่าที่นั่นไม่มีผู้วิเศษอาศัยอยู่ ส่วนพิกัดโดยละเอียดคือ…”
ในที่สุดก็มีข่าวเกี่ยวกับวัตถุดิบหลักของโอสถ ‘นักบันทึก’ เสียที… ข่าวมูลค่าสามร้อยปอนด์… ฟอร์สพลันตื่นเต้นยินดี รีบขอบคุณมิสเตอร์และขอให้อีกฝ่ายแจ้ง ‘เดอะมูน’ ว่าจะส่งค่าตอบแทนในภายหลัง
จัดการเสร็จ หญิงสาวพลิกตัวลุกขึ้นและเดินลงไปยังชั้นแรก เตรียมเทไวน์ใส่แก้วพลางครุ่นคิดว่าการสำรวจปราสาทต้องใช้สิ่งใดบ้าง
คงให้ใครเช่า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ในช่วงนี้ไม่ได้… ซิลก็ต้องมาด้วย… ในปราสาทร้างเต็มไปด้วยวิญญาณคนตาย นับว่าค่อนข้างอันตราย เราต้องคำนึงถึงการผสมผสาน ‘เวทมนตร์’ ให้ดี หากยังขาดในจุดใด ต้องใช้เงินจ้างให้มิสเตอร์เวิร์ล แฮงแมน เดอะซัน ช่วยบันทึกพลังพิเศษลงไป… แม้ว่าฟอร์สจะมีประสบการณ์การต่อสู้เพียงเล็กน้อย แต่เธอก็แฝงตัวในโลกเหนือธรรมชาติมานานหลายปี แถมในภายหลังยังได้เข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ ได้เห็นได้ยินหลายสิ่ง ย่อมรู้จักเตรียมการก่อนลงมือเสี่ยง
สำหรับตัวเลือกที่จะขอให้มิสเตอร์เวิลด์ช่วยทำภารกิจนี้แทน เธอไม่เคยคิดถึง เพราะเชื่อว่าต้องให้ทุ่มเงินเก็บทั้งหมด รวมถึงการยก ‘ผลลัพธ์การเก็บเกี่ยว’ ให้อีกฝ่าย ก็ยังไม่มากพอจะจ้างให้บุคคลระดับเดอะเวิร์ลลงมือ
แน่นอน หากการสำรวจเบื้องต้นของเธอยืนยันว่าปราสาทร้างดังกล่าวเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ใช่สถานที่ผู้วิเศษในระดับเธอจะสำรวจเข้าไปถึงส่วนลึก ฟอร์สคงไม่มีทางเลือกนอกจากแบกรับภาระหนี้สิน ยอมจ้างให้เดอะเวิร์ลเข้าไปรวบรวมวัตถุดิบหลักของโอสถนักบันทึก เพราะท้ายที่สุดแล้ว นั่นคือความหวังในการมีชีวิตรอดต่อไปเพียงทางเดียว
ในทางทฤษฎี เรื่องราวยังไม่น่าจะไปถึงขั้นนั้น ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ยังมีพลังพิเศษในลำดับครึ่งเทพสองชนิดที่มิสเตอร์เวิร์ลเหลือไว้… เราสามารถยืมใช้สักชนิดแล้วค่อยหาทางชดเชยในภายหลัง… ปัญหาเดียวก็คือ พลังระดับครึ่งเทพทั้งสองชนิดอาจไม่เหมาะกับการปราบภูตผีและวิญญาณคนตาย… ฟอร์สจิบแรนดี้ดำพลางประกอบความคิดให้เป็นรูปเป็นร่าง
คิดถึงตรงนี้ เธอได้ยินเสียงกุญแจถูกเสียบเข้าไปในรูกุญแจ จึงหันไปมองทางประตูตามสัญชาตญาณ
ประตูเปิดออกพร้อมกับซิลที่เดินเข้ามา ในมืออีกฝ่ายกำลังถือถุงกระดาษสองใบที่ส่งกลิ่นหอมรุนแรง
“พายเดซีย์?” ฟอร์สโพล่งถามก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงง “ไหนว่าพักนี้มีงานยุ่ง? ทำไมกลับบ้านเร็วนัก?”
ซิลโยนพายเดซีย์ไปทางฟอร์สหนึ่งถุง กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“บังเอิญผ่านทางมาพอดี แล้วก็ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง ก็เลยพักสักหน่อย”
โดยไม่รอให้ฟอร์สถาม เธอกล่าวออกมาเอง
“ฉันสะสมคะแนนผลงานมากพอแล้ว! ในไม่ช้าก็สามารถแลกสูตรโอสถนักสอบสวนได้!”
แม้งานของเธอในการเฝ้าจับตามอง ‘หัวหน้าราชองครักษ์’ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ด จะยังไม่คืบหน้ามากนัก แต่ก็เป็นงานประเภทที่สามารถสะสมคะแนนผลงานได้เรื่อยๆ ด้วยกิจวัตรประจำวัน ที่ต้องทำมีเพียงการส่งรายงานที่น่าเชื่อถือทุกสัปดาห์ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับ ‘เงินรางวัล’ ได้ตามสัดส่วนงาน ดังนั้น เมื่อนำไปรวมกับงานอื่นที่เคยทำสำเร็จในอดีต ซิลสามารถแลกรับสูตรโอสถนักสอบสวนได้ในอนาคตอันใกล้
“สักทีสินะ…” ฟอร์สดีใจแทนพวกพ้องจากก้นบึ้ง จากนั้นก็เขย่าแก้วไวน์ในมือแผ่วเบาและกล่าว “ดื่มฉลองกันไหม?”
ขณะเดียวกัน เธอหันมาคิดเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง
นี่ถือเป็นข่าวดี หลังจากกลายเป็นลำดับ 7 ซิลน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ ส่งผลให้แผนสำรวจปราสาทโบราณค่อนข้างราบรื่น!
ซิลมองไปยังของเหลวใสในแก้วไวน์ ส่ายหัวเล็กน้อย
“การดื่มไม่ใช่สิ่งที่ดี!”
กล่าวจบ เธอขมวดคิ้ว
“นอกจากนั้น ฉันยังเกลียดกลิ่นของมัน”
โดยไม่รอให้ฟอร์สพูด ซิลนึกบางสิ่งได้กะทันหัน จึงลุกขึ้นยืนและเดินไปทางประตู
“ฉันเห็นกล่องจดหมายเต็ม วันนี้ยังไม่ได้เปิดดูหรือ?”
“ยังไม่มีเวลาเลย” ฟอร์สทำหน้าคล้ายกับตนยุ่งมาก ก่อนจะลุกขึ้นและเตรียมเดินออกไปเปิดกล่องจดหมาย
ซิลที่มีความคล่องตัวสูงกว่า เปิดประตูและหยิบทุกสิ่งในกล่องออกมา
ผ่านไปสิบวินาที หญิงสาวกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกับกองหนังสือพิมพ์และจดหมายสองสามฉบับ กล่าวพลางมองไปยังผู้รับ
“ทั้งหมดเป็นของเธอ! มีสองฉบับจากสำนักพิมพ์ หนึ่งฉบับเป็นคำเชิญสำหรับเสวนาเกี่ยวกับการผ่าตัด และอีกหนึ่งฉบับมาจากท่าเรือพริสต์”
ท่าเรือพริสต์… หัวใจฟอร์สพลันเต้นระรัว รีบวางแก้วไวน์ลงและหยิบจดหมายที่ซิลโยนมาให้
แม้จะอยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิท แต่ฟอร์สก็เปิดอ่านจดหมายทุกฉบับโดยไม่ปิดบัง พบว่าหนึ่งในนั้นถูกส่งมาจากอาจารย์โดเรียน·เกรย์·อับราฮัม
“เมืองกัลเดรอนเป็นสถานที่พิเศษในโลกวิญญาณ ผมไม่สามารถยืนยันต้นกำเนิดของมันได้ ทราบเพียงว่าอันตรายมาก ครั้งหนึ่งเคยมีครึ่งเทพเข้าไปสำรวจ แต่ก็มิได้กลับออกมาอีกเลย… ในตอนที่คุณขายพิกัดของเมืองดังกล่าวให้สมาชิกชุมนุม อย่าลืมเตือนอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องนี้”
เป้าหมายของมิสเตอร์เวิร์ลคือเมืองที่แสนอันตรายในโลกวิญญาณ? ฟอร์สจ้องกระดาษจดหมายในมือด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย
หน่วย ‘ถุงมือแดง’ ที่มาถึงเมืองไบลัมตะวันออกแห่งถัดไป เข้าพบกับเหยี่ยวราตรีท้องถิ่นและยืมใช้ห้องทำงาน
“ทุกคนพักผ่อนได้ พวกเราจะเริ่มงานในตอนเช้า” โซสต์หยิบนาฬิกาพกออกมาตรวจสอบเวลา
ในคราวนี้ พวกมันจะโจมตีฐานลับของนิกายวิญญาณ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการมรณาเทียม ขุดคุ้ยหากลุ่มคนที่แฝงตัวอยู่ในเบ็คลันด์
สำหรับข้อมูลที่ได้รับจากอูลิก้า สิ่งนี้ถูกส่งกลับไปยังเบ็คลันด์ด้วยโทรเลข สำหรับการดำเนินงานขั้นถัดไป พวกมันไม่ต้องกังวล เพราะท้ายที่สุด หน่วยของโซสต์มิใช่ถุงมือแดงเพียงหน่วยเดียว แถมเหยี่ยวราตรีท้องถิ่นของเบ็คลันด์ก็ยังนับว่าทรงพลังมาก
ขณะเลียวนาร์ด ดาลีย์ และคนที่เหลือเตรียมหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหยี่ยวราตรีท้องถิ่นที่มีเชื้อสายไบลัมตะวันออกเดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่งและกล่าว
“มีโทรเลขใหม่ครับ… จากเบ็คลันด์”
โซสต์เหยียดแขนออกไปหยิบกระดาษ คลี่ออกและกวาดสายตาอ่าน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“เกอร์มัน·สแปร์โรว์ปรากฏตัวอีกครั้ง… สามารถยืนยันว่าเป็นตัวจริงด้วยเทคนิคการทำนาย”
เกอร์มัน·สแปร์โรว์… เลียวนาร์ดไม่ประหลาดใจกับข่าวใหม่สักเท่าไร เพราะมันทราบจากดอน·ดันเตสแล้วว่า อดีตเพื่อนร่วมงานของตน ไคลน์·โมเร็ตติ ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ