‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ที่สวมหน้ากากและดึงผ้าคลุมหัว กลับมาพบกับ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาอีกครั้ง
กึ่งกลางระหว่างทั้งสองมีโต๊ะกั้น นั่งฝั่งตรงข้ามกันโดยไม่มีใครพูดจาเป็นเวลานาน
จนกระทั่ง ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียากล่าว
“ได้ยินข่าวนั้นหรือยัง?”
อัลเจอร์ไม่ตอบทันที แต่ถามยอกย้อน
“ข่าวของเกอร์มัน·สแปร์โรว์?”
แคทลียาเงียบสักพัก ผงกศีรษะ
“เขาเปลี่ยน ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ให้เป็นหุ่นเชิด”
ไม่ว่าจะเหยื่อรายก่อนหน้าอย่าง ‘พลเรือเอกโลหิต’ หรือเหยื่อล่าสุดอย่าง ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ทั้งสองต่างเป็นโจรสลัดที่มีค่าหัวสูงกว่าเธอ ซึ่งไม่ว่าเธอจะมั่นใจในตัวเองมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าคิดว่าผู้วิเศษลำดับ 5 สุดแกร่งทั้งสองคนอ่อนแอกว่าตน!
“คุณได้ข่าวเร็วกว่าที่ผมคิด” อัลเจอร์ยืนยันโดยนัยว่าข้อมูลของ ‘เฮอร์มิท’ นั้นถูกต้อง
ในฐานะส่วนหนึ่งของโบสถ์วายุสลาตันที่ควบคุมท้องทะเล มันย่อมได้รับข่าวสารโดยตรงจากทางการ
แคทลียาขยับปากเล็กน้อยและพูด
“ถ้าอนาคตกาลกำลังแล่นอยู่ในทะเล ฉันคงต้องใช้เวลาอีกสองสามวัน หรืออาจนานเป็นสัปดาห์ แต่พักหลังฉันอยู่ในบายัม”
เธอมิได้เปิดเผยที่มาของข่าวกรอง
หลังจากเว้นวรรคเล็กน้อย พลเรือเอกดวงดาวถามอย่างใจเย็น
“สำหรับเรื่องนี้ คุณรู้อะไรอีกบ้าง?”
‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ส่ายหน้า
“ในตอนที่กำลังจะสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม ผมบังเอิญเห็นสัญญาณติดต่อจากคุณพอดี จึงรีบเข้ามาพบ”
แคทลียาพยักหน้าพลางกล่าว
“เกอร์มัน·สแปร์โรว์และพลเรือเอกขุมนรกไม่ได้ต่อสู้กัน ลูเธอร์ไวล์เองก็มิได้แสดงท่าทีต่อต้าน ทั้งหมดเป็นฝีมือของคนที่ขึ้นเรือทิวลิปดำไปพร้อมกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ชายคนนั้นถูกเรียกว่ากงสุลมรณะ”
กงสุลมรณะ… รูม่านตาของอัลเจอร์ขยายออกเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ได้
ไม่มีครึ่งเทพตนใดกล้าอ้างสมญานามดังกล่าวส่งเดชแน่!
และเหนือสิ่งอื่นใด อีกฝ่ายมิได้อวดอ้างศักดาก่อน แต่เป็น ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์เสียเองที่ริเริ่มให้เกียรติและเลิกต่อต้าน ยอมศิโรราบอย่างไร้เงื่อนไข!
เมื่อเห็นแฮงแมนไม่เล่าต่อ แคทลียาเสริม
“ในเส้นทางมรณา ‘กงสุลมรณะ’ เป็นชื่อของลำดับ 2 ไม่ผิดแน่… อย่างไรก็ตาม องค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิไบลัมเองก็สืบทอดชื่อนี้ต่อกันมาทุกรุ่น”
ไม่ผิดแน่ ระดับเทวทูต… เทวทูตในขอบเขตมรณา… อัลเจอร์ตัดความเป็นไปได้ที่กงสุลมรณะบนเรือทิวลิปดำจะเป็นจักรพรรดิแห่งไบลัม พิจารณาจากหลักการสำหรับสวมบทบาท ก่อนจักรวรรดิไบลัมจะล่มสลาย ตำแหน่งจักรพรรดิคงถูกมอบให้เทวทูตลำดับ 2 ตามธรรมเนียม… แต่บุคคลที่สามารถสั่งให้พลเรือเอกขุมนรกยอมเป็นหุ่นเชิดของเกอร์มัน·สแปร์โรว์โดยไม่มีการต่อต้าน ลำพังตำแหน่งจักรพรรดิเปล่าๆ คงไม่เพียงพอ…
ทันใดนั้น อัลเจอร์พลันฉุกคิดถึงบางสิ่ง เป็นสิ่งที่มันยากจะลืมเลือน
หลังจาก ‘พลเรือโทวายุ’ คีลิงเกอร์หลบหนีออกจากคฤหาสน์สำเร็จ ศพของมันกลับถูกพบในสภาพแน่นิ่งข้างทะเลสาบเทียม ใบหน้าของมันเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว เลือดเนื้อค่อยๆ ตกลงมาทีละก้อน กระทั่งดวงตาก็ยังหลุดจากเบ้า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สภาพดังกล่าวเกิดจากขุมพลังระดับสูงของขอบเขต ‘ความตาย’ โดยอัลเจอร์สามารถยืนยันในภายหลังว่า นั่นเป็นฝีมือของหนึ่งในข้ารับใช้เดอะฟูล
สามารถ ‘เก็บ’ นายพลโจรสลัดได้ง่ายดาย แถมยังเป็นนายพลโจรสลัดที่พกพาสมบัติวิเศษทรงพลัง คีลิงเกอร์ต้องตายในสภาพน่าสมเพชอย่างไร้การต่อต้าน จึงจินตนาการได้ไม่ยากว่า อีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งในระดับใด!
อาร์ชบิชอปสเน็ก ‘ผู้ขับขานแห่งเทพ’ ของโบสถ์วายุสลาตัน ประเมินว่าคนที่ลงมือจะต้องเป็นผู้วิเศษลำดับสูงของเส้นทาง ‘มรณา’ และไม่ใช่คนที่มันรู้จัก
อัลเจอร์ไม่เคลือบแคลงในประเด็นดังกล่าว ตอนแรกปักใจเชื่อกันว่าคงเป็นครึ่งเทพลำดับ 4 หรือลำดับ 3 หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง: นักบุญ ขณะเดียวกันก็ทึ่งที่มิสเตอร์ฟูลมีข้ารับใช้เป็นผู้วิเศษลำดับสูง
ปัจจุบัน มันฝืนกลืนน้ำลายลงคออย่างเงียบเชียบ คิดว่าตนยังประเมินมิสเตอร์ฟูลต่ำไปมาก รวมถึงประเมินข้ารับใช้ของท่านผิดไป
อีกฝ่ายไม่ใช่นักบุญ แต่เป็นเทวทูตเดินดิน อยู่ในระดับเดียวกับสามมงกุฎแห่งศาสนจักรใหญ่!
ในเชิงศาสนา สามมงกุฎหมายถึง สันตะปาปา สังฆราช และพระราชาคณะ
มีกงสุลมรณะเป็นข้ารับใช้… แม้ว่ามิสเตอร์ฟูลจะยังคงฟื้นฟูตัวเอง แต่กองกำลังในมือค่อนข้างน่าสะพรึงทีเดียว… สมองอัลเจอร์กำลังเดือดพล่าน ดวงตากะพริบถี่หลายหน หมดคำจะกล่าวไปสักพัก
เมื่อ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาตระหนักว่าอีกฝ่ายเงียบไป เธอจึงเริ่มเปิดปากพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ