โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ไคลน์เสริมประโยค
“นอกจากนั้น อย่าไปบอกกับพาลีส·โซโรอาสเตอร์ด้วย อามุนด์อาจทราบว่ามีเทวทูตเส้นทางนักจารกรรมอยู่หนึ่งตนในละแวกใกล้เคียงถนนเบิร์คลุน”
นี่มัน… รูม่านตาเลียวนาร์ดเบิกโพลง
“มันจะรู้ได้ยังไง?”
ขอโทษทีนะสหาย ฉันไม่สะดวกที่จะตอบ… ไคลน์รำพัน ก่อนจะตอบขึงขัง
“ผมไม่ใช่อามุนด์สักหน่อย”
“พฤติกรรมหรือคำพูดใดที่ทำให้คุณได้ข้อสรุปนี้มา?” เลียวนาร์ดถามตามความเคยชิน
เอ่อ… ฉันเป็นคน ‘บอก’ เจ้านั่นเอง… ไคลน์ตอบสนองด้วยการหัวเราะ
งั้นหรือ… เลียวนาร์ดพยักหน้าเล็กๆ
“เข้าใจแล้ว ฉันจะบอกตาแก่ให้”
มันเว้นวรรค
“คุณจะรอให้เขาช่วยวางแผนอย่างละเอียดไหม?”
ไคลน์อืมในลำคอ
“หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับอามุนด์และเส้นทางนักจารกรรม มีน้อยคนนักที่จะรู้มากกว่าท่าน”
กล่าวถึงตรงนี้ เมื่อค่อนข้างแน่ใจว่าอามุนด์คงไม่มาที่ถนนเบิร์คลุนสักระยะ มันกล่าวอย่างใจเย็น
“ยังไม่ต้องลงมือทำอะไร ไว้ค่อยคุยกันในชุมนุมทาโรต์วันพรุ่งนี้”
หืม… เท่าที่ดู เหตุการณ์ไม่ได้เร่งด่วนสินะ… เลียวนาร์ดอ่านความนับแฝงจากประโยค พยักหน้าเล็กๆ และตอบ
“ตกลง ไว้ค่อยคุยรายละเอียดกันในชุมนุมทาโรต์วันพรุ่งนี้”
จัดการเสร็จ ไคลน์ลุกขึ้นยืน หันหน้าทำความเคารพไปยัง ‘ประตูแห่งแสง’
“มิสเตอร์ฟูล พวกเราเสร็จแล้ว”
เลียวนาร์ดลุกขึ้นและเตรียมทำตาม แต่ก่อนจะได้ลงมือ ทัศนียภาพของมันพลันถูกอาบไปด้วยสีแดงเข้ม
จนกระทั่งได้สติกลับมา มันพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในป่าโปร่งเขตชานเมืองทางเหนือ
“มีอะไรจะบอกกับข้าไหม” เสียงค่อนข้างชราของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ดังขึ้น
เลียวนาร์ดกระแอมและตอบ
“ไคลน์บอกว่า เขาเป็นข้ารับใช้ของความลับ จะลองขอความช่วยเหลือให้”
“ข้ารับใช้ของความลับ… อย่างที่คิด…” พาลีสถอนหายใจ “บอกกับเขาว่า หากสามารถวิงวอนขอพรแห่งการปกปิดได้จริง ข้ายินดีช่วยจัดการกับอามุนด์และค้นหาร่างโคลนทั้งหมดของเจ้านั่นในเบ็คลันด์”
เลียวนาร์ดไม่ประหลาดใจกับคำตอบ
“ตาแก่… ไม่เห็นอ่อนแอเหมือนที่ทำตัวก่อนหน้านี้เลย!”
พาลีส·โซโรอาสเตอร์หัวเราะแห้ง
“เจ้าไม่เคยได้ยินคำกล่าวอันโด่งดังของโรซายล์หรือ? อูฐที่อดอยาก ก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า”
“นั่นอยู่กับพันธุ์ของม้าและอูฐ…” เลียวนาร์ดยอกย้อนตามนิสัย หันไปถาม “ตาแก่ คุณจะจัดการกับอามุนด์ยังไง? ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ?”
“แฮ่ม!” พาลีสกระแอมขุ่นเคือง “ถ้าทำแบบนั้น สิ่งที่เราต้องเผชิญคือร่างจริงของอามุนด์ ไม่ใช่ร่างโคลน และถ้าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ทวยเทพจะเสร็จลงมาเยือนจนเกิดเป็นมหาสงคราม… สำหรับข้ายังพอมีทางเอาตัวรอด แต่กับเจ้า คงไม่แคล้วได้เข้าเฝ้าเทพธิดารัตติกาล”
“…” เลียวนาร์ดตอบโต้ได้เพียงภาษากาย
พาลีส·โซโรอาสเตอร์กล่าวต่อ
“แตกต่างจากเส้นทางอื่นที่คล้ายคลึงกัน ร่างโคลนของอามุนด์สามารถเติบโตได้ด้วยการดูดซับตะกอนพลังเส้นทางนักจารกรรม จากนั้นก็แบ่งหนอนกาลเวลาเป็นจำนวนมาก ส่งออกไปเป็นปรสิตในร่างสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ตราบเท่าที่ในละแวกดังกล่าวมีตะกอนพลังมากพอ กระบวนการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่รู้จบ”
“นี่มัน… ฟังดูเหมือนโรคระบาด” เลียวนาร์ดเย็นสันหลังวาบ
หากตะกอนพลังของเส้นทางนักจารกรรมมีมากพอ ร่างโคลนของอามุนด์สามารถเข้าไปเป็นปรสิตในร่างของคนทั้งเมืองได้ไม่ยาก!
“ทำนองนั้น” พาลีสช่วยยืนยันคำพูดเลียวนาร์ด ก่อนจะถอนหายใจ “เพื่อจะจัดการกับอามุนด์ เรามีเพียงวิธีเดียวก็คือ ล่อเจ้านั่นด้วยตะกอนพลังของครึ่งเทพเส้นทางนักจารกรรม ตราบใดที่เราปราบร่างโคลนตัวหนึ่งสำเร็จ โอกาสจัดการตัวที่เหลือก็ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม อามุนด์เป็นปรมาจารย์ด้านการหลอกลวง เราต้องระวังตัวให้มาก ไม่อย่างนั้น ฝ่ายที่คิดว่ากำลังล่อเหยื่ออย่างเรา แท้จริงแล้วอาจกำลังเป็นเหยื่อเสียเอง สำหรับประเด็นนี้ พรแห่งการปกปิดคือกุญแจสำคัญ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ