ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 106

ตอนที่ 106 มีแค้นต้องชำระ

หลังสั่งกำชับอย่างละเอียด หยวนฟางก็เข้าใจเจตนาของเขา แม้จะพยักหน้าเพื่อสื่อว่าจะให้ความร่วมมือ แต่ในใจกลับกลัดกลุ้ม นี่มันหาเรื่องให้หัวขาดชัดๆ!

อันที่จริงหยวนฟางอยากถามหนิวโหย่วเต้ายิ่งนัก ท่านบอกจะออกมาเสาะหาของที่ใช้ในการบำเพ็ญเพียรมิใช่หรือ?

เขาอาศัยในวัดหนานซานที่อยู่ท่ามกลางป่าเขามานานหลายปี เคยชินกับความเงียบสงบ จู่ๆ ก็ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับเรื่องทางโลกเช่นนี้ รู้สึกกะทันหันเป็นอย่างยิ่ง ทำอะไรไม่ค่อยถูก กำลังอยู่ในระหว่างการปรับตัวเสมือนต้อนเป็ดขึ้นคอน[1]

เมื่อทางนี้จัดการเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คนไปรายงานให้ทราบ

ไม่นานนัก มีคนจากทางเรือนหลังมาแจ้งว่าให้ทั้งสองเข้าไปหา มีคนคอยนำทางให้ตลอดทาง

ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้ทำให้หยวนฟางต้องพินิจดูอยู่ครู่ใหญ่ เขาไม่เคยเห็นบ้านเรือนที่งามหรูหราเช่นนี้มาก่อน ภายในหัวนึกถึงชาวบ้านยากไร้ในป่าเขา จากนั้นหันมองดูสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง ต่างกันราวฟ้ากับเหว นึกทอดถอนใจว่าแบบนี้จะไม่ให้คนลุ่มหลงในทรัพย์สินเกียรติยศบนโลกนี้ได้อย่างไร ไม่แปลกเลยที่มนุษย์จะใฝ่หา ได้แต่ท่องอามิตตาพุทธอยู่ในใจ!

ภายในโถงที่ดูโออ่างามสง่า เจ้าบ้านและแขกพบหน้ากัน หยวนฟางยืนนิ่งเฉยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ หนิวโหย่วเต้าทำความเคารพตามมารยาท

ไห่หรูเยวี่ยในชุดกระโปรงงดงามยกมือขึ้นเพื่อบอกว่าไม่ต้องมากพิธี สายตามองไปยังหยวนฟางที่เดินกระเผลกๆ เข้ามา เอ่ยถามว่า “ท่านนี้คือยอดหมอที่จะมารักษาโรคหรือ?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวตอบ “พ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยถามต่อ “ไม่ทราบว่ายอดหมอมีนามว่าอะไร เป็นคนที่ไหน?”

หยวนฟางตอบอย่างไม่ร้อนรน “ฮว่าถัว เป็นเพียงชาวบ้านในป่าเขาเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

ไห่หรูเยวี่ยกล่าวว่า “โอ้ ที่แท้ก็ท่านหมอฮว่า! ดูเหมือนท่านหมอฮว่าจะไม่ค่อยมีความสุขนะ หรือข้าบกพร่องอันใดไป?”

หนิวโหย่วเต้ากลับเอ่ยขึ้นว่า “มิขอปิดบังองค์หญิงใหญ่ พวกกระหม่อมมาที่นี่เพื่อขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”

จูซุ่นที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างเงยหน้าขึ้นมาทันที เผยแววตาดุดันออกมา

ไห่หรูเยวี่ยหรี่ตาลงพลางเอ่ยว่า “เจ้าล้อข้าเล่นอยู่หรือ? ข้ายอมล่วงเกินราชทูตต่างแคว้นอย่างไม่ลังเลเพื่อช่วยเขาออกมา แต่พวกเจ้ายังไม่ทันจัดการเรื่องที่รับปากไว้ก็คิดจะจากไปแล้วอย่างนั้นรึ? คิดว่าหญิงม่ายอย่างข้าจะรังแกและหลอกใช้ได้ง่ายๆ เรอะ? ”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ย “องค์หญิงใหญ่เข้าพระทัยผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านหมอฮว่าเดินทางไกลนับพันลี้เพื่อมาทำการรักษา ไม่คิดเลยว่าเกือบต้องเอาชีวิตมาทิ้ง ดังนั้นจึงไม่กล้ารั้งอยู่ที่นี่ ด้วยเกรงว่าจะตกอยู่ในอันตรายอีกพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยเอ่ยว่า “กังวลเกินไปแล้ว ท่านหมอฮว่าสนใจเพียงเรื่องตรวจโรคก็พอ ข้ารับประกันเจ้าได้ ในเขตมณฑลจินโจวแห่งนี้ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องเจ้าแน่!”

หนิวโหย่วเอ่ยต่อว่า “องค์หญิงใหญ่คงยังไม่ทราบ ท่านหมอฮว่ามีกฎข้อหนึ่งในการตรวจรักษา หากอารมณ์ไม่ดีก็ไม่รักษาพ่ะย่ะค่ะ! ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปยั่วยุหาเรื่องผู้ใด แต่กลับถูกคนอื่นมาทำร้าย ท่านหมอฮว่ากล้ำกลืนโทสะนี้ไม่ลงพ่ะย่ะค่ะ อารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง!”

ไห่หรูเยวี่ยร้องอ้ออย่างลุ่มลึกแฝงความนัย “ไม่ทราบว่าต้องทำเช่นไรท่านหมอฮว่าถึงจะคลายโทสะนี้ลงได้?”

หนิวโหย่วเต้าตอบไปสิบพยางค์ “มีคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ!”

ภายในห้องโถงเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ไห่หรูเยวี่ยมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา เอ่ยถามเนิบๆ “ไม่ทราบว่าคิดจะล้างแค้นอย่างไร?”

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง ส่งตัวซ่งหลงให้ท่านหมอฮว่าก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

“ฮ่าๆ…” ไห่หรูเยวี่ยหัวเราะเบาๆ จ้องมองหนิวโหย่วเต้าแล้วกล่าวว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่านี่มิใช่ความคิดของท่านหมอฮว่า แต่เป็นเจ้าที่คิดฉวยโอกาสคิดบัญชีตระกูลซ่งเล่า?”

“นี่คือความคิดที่มาจากการหารือกันของกระหม่อมและท่านหมอฮว่าพ่ะย่ะค่ะ คนซื่อตรงเปิดเผยย่อมไม่พูดลับหลัง มิขอปิดบังองค์หญิงใหญ่ ความคิดของกระหม่อมก็คือความคิดของท่านหมอฮว่าเช่นกัน” หนิวโหย่วเต้ากลับเยือกเย็นเป็นอย่างมาก เอ่ยเสริมไปอีกประโยค “ปมแค้นระหว่างกระหม่อมและตระกูลซ่งไม่มีทางคลี่คลายได้พ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมก็ไม่มีอำนาจพอจะทำให้ตระกูลซ่งยอมละวางปมแค้นนั้นได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มีแต่ต้องตายกันไปข้างพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงใหญ่ก็ทรงเห็นแล้ว ตระกูลซ่งเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ทันทีที่กระหม่อมมาถึงมณฑลจินโจวก็ลงมือกับกระหม่อมเลย เช่นนั้นกระหม่อมก็ทำได้เพียงตอบโต้กลับไปเหมือนอย่างที่เขาทำพะย่ะค่ะ! ขอเพียงองค์หญิงใหญ่ช่วยให้กระหม่อมสมปรารถนาได้ กระหม่อมจะต้องช่วยคลายความกังวลให้องค์หญิงใหญ่แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยเอ่ยอย่างเย็นชา “คิดจะหลอกใช้ข้าสินะ?”

หนิวโหย่วเต้าตอบกลับว่า “มิใช่การหลอกใช้ แต่เป็นการต่อรองพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยเอ่ยว่า “เห็นทีซางเฉาจงคงไม่อยากได้ความร่วมมือแล้วกระมัง”

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “หากแม้แต่ชีวิตของกระหม่อมก็หาไม่แล้ว เช่นนั้นเรื่องที่ยงผิงจวิ้นอ๋องและองค์หญิงใหญ่จะร่วมมือกันหรือไม่ยังจะเกี่ยวข้องอันใดกับกระหม่อมอีกล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

ไห่หรูเยวี่ยกล่าว “เจ้าอยู่ในกำมือข้าแล้ว คิดว่ายังเหลือช่องให้เจ้าต่อรองอีกหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ชีวิตของบุตรชายพระองค์อยู่ในกำมือของกระหม่อมเช่นกัน องค์หญิงใหญ่ก็ไม่เหลือช่องให้ต่อรองเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยยิ้มเยียบเย็นพลางเอ่ยว่า “พูดจาน่าขัน ดูเหมือนเจ้าคงเบื่อจะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ สินะ!”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “จะบังคับให้ตรวจโรคหรือพ่ะย่ะค่ะ? ผลลัพธ์มีอยู่สองอย่างเท่านั้น รักษาไม่หายกับรักษาแล้วตายทันที องค์หญิงใหญ่กล้านำชีวิตของผู้ป่วยมาเสี่ยงหรือไม่ล่ะพ่ะย่ะค่ะ? เอาเป็นว่าไม่มีทางทำการรักษาให้ดีได้ด้วยการบังคับขู่เข็ญพ่ะย่ะค่ะ! แน่นอนว่าองค์หญิงใหญ่จะสังหารพวกกระหม่อมทิ้ง แล้วปล่อยให้ผู้ป่วยรอคอยความตายต่อไปก็ได้พ่ะย่ะค่ะ! ไม่ทราบว่าองค์หญิงใหญ่อยากเลือกผลลัพธ์แบบไหนพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมขอย้ำอีกครั้ง นอกจากกระหม่อมและหอหิมะเหมันต์แล้ว ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าขององค์หญิงใหญ่ได้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เพลิงโทสะลุกโชนอยู่ในแววตาของไห่หรูเยวี่ย คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ใจกล้าเช่นนี้อยู่จริงๆ หลอกใช้ประโยชน์จากนางแล้วยังกล้าข่มขู่นางอีก แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีความมั่นใจในฝีมือการรักษาของตนถึงขนาดนี้ สุดท้ายนางจึงต้องฝืนข่มโทสะนี้ไว้ แค่นเสียงอย่างเย็นชา “เจ้าว่าอย่างไรข้าก็ต้องเชื่อตามนั้นเรอะ?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ยงผิงจวิ้นอ๋องทราบถึงอาการของผู้ป่วยแต่ก็ยังส่งพวกกระหม่อมมา องค์หญิงใหญ่ทรงใคร่ครวญถึงเหตุผลด้วยพระองค์เองเถิดพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างพวกกระหม่อมก็อยู่ในกำมือขององค์หญิงใหญ่แล้ว หากไม่สามารถคลายความทุกข์ให้องค์หญิงใหญ่ได้ อีกทั้งก่อเรื่องจนเป็นเช่นนี้ พวกกระหม่อมยังจะมีชีวิตรอดไปได้อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ? ถึงแม้ชีวิตของซ่งหลงจะมีค่า แต่กระหม่อมก็ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตของตนมาแลกกับชีวิตของเขาเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ภายในห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง ไห่หรูเยวี่ยและจูซุ่นสบตากันอยู่สักพัก

สุดท้ายเป็นจูซุ่นที่เอ่ยขึ้นมาว่า “องค์หญิงใหญ่ไม่อาจสังหารราชทูตต่างแคว้นส่งเดชได้ พอถึงเวลานั้นหากแคว้นจ้าวไม่สามารถมอบคำอธิบายให้แคว้นเยี่ยนได้ แคว้นเยี่ยนจะต้องสังหารราชทูตแคว้นจ้าวเพื่อล้างแค้นแน่ ถึงแม้แคว้นจ้าวจะไม่กลัวแคว้นเยี่ยน แต่ถ้าต้องก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา…ผู้ที่อยู่เบื้องหลังมณฑลจินโจวก็คงไม่มีทางเห็นด้วยเช่นกัน!” ผู้ที่อยู่เบื้องหลังมณฑลจินโจวย่อมหมายถึงสำนักบำเพ็ญเพียรที่คอยควบคุมมณฑลจินโจว

ความหมายในวาจานี้คือ ทางนี้ไม่สามารถช่วยเขาสังหารราชทูตแคว้นเยี่ยนได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า