ตอนที่ 146 ร่วมสาบาน
บรรยากาศภายในตำหนักค่อนข้างแปลกประหลาด อย่าว่าแต่คนอื่นเลย กระทั่งเฮยหมู่ตานก็มองหนิวโหย่วเต้าด้วยสายตาแปลกๆ เช่นกัน
โหวฉิงเทียนมองหนิวโหย่วเต้าแล้วหันไปมองอวิ๋นฮวน ไม่รู้ว่าอวิ๋นฮวนจะตอบตกลงหรือไม่
อวิ๋นฮวนลังเลเป็นอย่างยิ่ง พึมพำอยู่ในใจว่าคนผู้นี้เป็นใครมาจากไหน นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
หนิวโหย่วเต้าเห็นเขาลังเลไม่ตอบรับ จึงเอ่ยด้วยความแปลกใจว่า “หรือว่าท่านผู้ดูแลรังเกียจ?”
อวิ๋นฮวนเอียงศีรษะส่งสัญญาณให้โหวฉิงเทียนเล็กน้อย โหวฉิงเทียนเดินเข้าไปหาหนิวโหย่วเต้าทันที รับตั๋วแลกทองทั้งสิบใบมา หมุนตัวคลี่กางออกแล้วกวาดตามองดู ลอบอุทานจุ๊ๆ อยู่ในใจ หนึ่งแสนเหรียญทองอีกแล้ว!
เขาเดินขึ้นบันไดไป มอบตั๋วแลกทองให้อวิ๋นฮวน เอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบาว่า “หนึ่งแสนเหรียญทองอีกแล้วขอรับ!”
เมื่อรับตั๋วแลกทองมาอยู่ในมือ คิ้วข้างหนึ่งของอวิ๋นฮวนพลันเลิกขึ้นมาเล็กน้อย นี่มิใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย
กระทั่งโหวฉิงเทียนเดินลงไปแล้ว อวิ๋นฮวนที่ถือตั๋วแลกทองยี่สิบใบไว้ในมือพลันเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ” ระหว่างที่หัวเราะก็ก้าวอาดๆ ลงบันไดไป เดินไปหยุดตรงหน้าหนิวโหย่วเต้า ยกมือตบไหล่หนิวโหย่วเต้าแรงๆ “น้ำใจยากจะปฏิเสธได้! น้องชายเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา ดี ข้าชอบ!”
เขาหันกลับไปโบกมือสั่งการโหวฉิงเทียนว่า “ข้ากับน้องเซวียนหยวนถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบ ไปตั้งโต๊ะบวงสรวงสวรรค์ด้านนอกถ้ำ ให้สวรรค์เป็นพยานการสาบานเป็นพี่น้องต่างแซ่ของข้ากับน้องเซวียนหยวนในวันนี้!”
“ขอรับ!” โหวฉิงเทียนหันหลังเดินออกไป
หนิวโหย่วเต้าลูบอก ท่าทางดีใจเป็นอย่างยิ่ง ราวกับความปรารถนากลายเป็นจริงอย่างไรอย่างนั้น
“น้องชายมีสภาวะระดับใด?”
“สร้างฐาน”
มุมปากอวิ๋นฮวนกระตุกเล็กน้อย สภาวะของเขาอยู่ในระดับโอสถทอง คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับคนที่อยู่ในระดับสร้างฐาน พบว่าเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ช่างกล้าเอ่ยปากโดยแท้
“น้องชายดูอ่อนเยาว์ แต่บุคลิกท่าทางกลับดูสูงส่งองอาจ…”
“ท่านผู้ดูแลต่างหากที่ดูห้าวหาญไม่ธรรมดา น่าเกรงขามดั่งพยัคฆ์หมอบ…”
เพียงพริบตาเดียวทั้งสองก็พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ต่างฝ่ายต่างเยินยอกันไปมาไม่หยุด ราวกับเป็นพี่น้องแท้ๆ ก็มิปาน ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอย่างเป็นห่วงเป็นใย
เฮยหมู่ตานที่อยู่ด้านข้างเรียกได้ว่าตกตะลึงอย่างแท้จริง สมองขาวโพลนไปหมด เดิมทีนึกว่าหนิวโหย่วเต้ากินยาผิดสำแดงมา ผลปรากฏว่าอวิ๋นฮวนก็กินยาผิดสำแดงมาเหมือนกัน เป็นไปได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อเลย ต่อให้อยู่ในความฝันก็ไม่มีทางคิดถึงว่าผู้ดูแลแห่งเขาข้ามเมฆาจะตอบตกลงร่วมสาบานเป็นพี่น้องต่างแซ่กับคนที่เพิ่งพบหน้าค่าตาได้ง่ายๆ เพิ่งจะพูดคุยกันได้ไม่กี่ประโยคเอง แม้แต่ประวัติความเป็นมาก็ไม่ทราบเลยด้วยซ้ำ
นางยอมรับว่าเงินสองแสนเหรียญทองเป็นเงินก้อนโต ทว่ามันมีอานุภาพถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
ติดตามหนิวโหย่วเต้ามาจนถึงตอนนี้ หนิวโหย่วเต้าใช่คนโง่หรือ? ไม่ใช่!
คนที่เป็นผู้ดูแลเขาข้ามเมฆาได้ ใช่คนโง่หรือ? ย่อมไม่ใช่เช่นกัน!
ดังนั้นภาพที่อยู่ตรงเบื้องหน้าเริ่มทำให้เฮยหมู่ตานนึกสงสัยขึ้นมาแล้วว่าใช่สมองตนมีปัญหาหรือไม่ หรือว่าความรู้ของตนจะตื้นเขินเกินไป?
เจ้าบ้านและอาคันตุกะยิ้มแย้มพูดคุยกันอย่างมีความสุข หลังจากพูดคุยกันไปได้สักพัก อวิ๋นฮวนอ้างว่าต้องไปจัดเตรียมเรื่องพิธีสาบานเล็กน้อย หนิวโหย่วเต้าจึงรีบบอกว่าตนเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ต้องการออกไปชมทิวทัศน์ด้านนอกเสียหน่อย อวิ๋นฮวนจึงให้คนพาหนิวโหย่วเต้าไปเดินเล่นด้านนอกทันที
หลังภายในตำหนักเหลืออวิ๋นฮวนเพียงคนเดียว อวิ๋นฮวนก็หยิบตั๋วแลกทองยี่สิบใบนั้นออกมาอีกครั้ง ตรวจสอบดูอย่างละเอียด แม้แต่ตัวเขาก็ยังนึกสงสัยอยู่บ้างว่าตั๋วแลกทองนี้จะเป็นของปลอมหรือไม่
โหวฉิงเทียนที่ออกไปจัดการเรื่องราวตามคำสั่งเสร็จเรียบร้อยเดินกลับเข้ามา ขยับมาอยู่ตรงหน้าเขา เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านผู้ดูแลขอรับ ท่านจะร่วมสาบานกับเขาจริงๆ หรือขอรับ?”
อวิ๋นฮวนเอ่ยว่า “อีกฝ่ายให้มาตั้งสองแสนเหรียญทองแล้ว ตั้งโต๊ะพิธีจะเสียเงินสักเท่าไรกันเชียว?”
โหวฉิงเทียนเอ่ยว่า “แต่เห็นๆ อยู่ว่าคนผู้นี้มิได้พูดความจริง พวกเราไม่ทราบตื้นลึกหนาบางของเขาเลยสักนิดนะขอรับ เกรงว่าจะมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่ ท่านผู้ดูแลโปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วนด้วยเถิดขอรับ!”
อวิ๋นฮวนปรายตามองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า “ข้าไม่ได้ตาบอด เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้าเตือนอีกหรือ? เอาเงินมาส่งให้ถึงที่ทำไมจะไม่รับไว้เล่า? เรื่องราวมันต้องว่ากันเป็นเรื่องๆ ไป เรื่องราววุ่นวายของคนอื่นมันไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับพวกเราหรือเปล่า?”
โหวฉิงเทียนกระจ่างขึ้นมาทันที เข้าใจความหมายของเขาแล้ว รับเงินแต่ไม่รับงาน ไม่เข้าไปข้องแวะกับข้อพิพาทใดๆ จึงประสานมือกล่าวชื่นชมว่า “ท่านผู้ดูแลปราดเปรื่องยิ่งนัก!”
หนิวโหย่วเต้าและเฮยหมู่ตานที่อยู่ด้านนอกถ้ำถูกผนึกพลังเอาไว้ แม้นอยากจะชมทิวทัศน์ของเขาข้ามเมฆาก็ไปไหนไม่ได้ไกล ทำได้เพียงเดินเล่นอยู่ด้านนอกถ้ำเท่านั้น
แต่ลานด้านนอกถ้ำกลับคึกคักขึ้นมา กำลังตั้งโต๊ะสำหรับทำพิธีร่วมสาบานอยู่
เฮยหมู่ตานเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเล็กน้อย ฉวยโอกาสตอนที่รอบข้างปลอดคนขยับเข้าไปใกล้หนิวโหย่วเต้า กระซิบเตือนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เต้าเหยี่ยเจ้าคะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่คลายผนึกบนร่างให้พวกเราเลย เกรงว่าอวิ๋นฮวนคงมิได้อยากร่วมสาบานกับเต้าเหยี่ยด้วยใจจริง”
หนิวโหย่วเต้าหันกลับมาอย่างช้าๆ สายตาที่มองนางคล้ายกำลังมองดูคนโง่ไม่มีผิด ราวกับกำลังถามว่า หรือเจ้าคิดว่าข้าอยากร่วมสาบานด้วยใจจริง?
เฮยหมู่ตานอ่านสายตาของเขาออก เก้อกระดากเล็กน้อย รู้สึกว่าไม่ควรพูดอะไรปัญญาอ่อนเช่นนี้เลย
แต่มีเรื่องหนึ่งที่นางไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามหยั่งเชิงอีกครั้ง “เหตุใดอวิ๋นฮวนถึงตอบตกลงร่วมสาบานกับท่านง่ายๆ เช่นนี้ล่ะเจ้าคะ?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “ชัดเจนว่าเห็นแก่เงิน”
เฮยหมู่ตานสังเกตการณ์รอบข้างเล็กน้อย เอ่ยถามอีกครั้งด้วยความสงสัย “ตกลงร่วมสาบานเป็นพี่น้องเพื่อเงินเพียงสองแสนเหรียญทองน่ะหรือเจ้าคะ?”
สองแสนเหรียญทองอย่างนั้นหรือ? หนิวโหย่วเต้ายิ้มเยาะมุมปาก อีกฝ่ายไหนเลยจะทำไปเพราะเงินสองแสนเหรียญทอง อีกฝ่ายทำเช่นนี้เพราะเห็นว่าเขาควักเงินสองแสนเหรียญทองออกมาเป็นของขวัญพบหน้าได้ง่ายๆ ต่างหากล่ะ คงคาดหวังกับของขวัญชดเชยในวันหน้าที่เขาเอ่ยถึง!
แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอธิบายออกไป ปล่อยให้เฮยหมู่ตานคิดเอาเอง
เมื่อเห็นเขาไม่พูด เฮยหมู่ตานก็ไม่ซักถามต่ออีก หากแต่ยังคงเอ่ยเตือนอีกประโยคว่า “เขาข้ามเมฆาแห่งนี้มิใช่สถานที่ที่ดีเด็ดขาด เต้าเหยี่ยเผยความมั่งคั่งออกมาเช่นนี้ ต้องระวังอีกฝ่ายคิดไม่ซื่อเพราะเห็นแก่ทรัพย์นะเจ้าคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า