ตอนที่ 214 แตกตื่น
นับตั้งแต่ที่ออกมาจากสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้บำเพ็ญเพียรอย่างสบายใจเช่นนี้ แล้วก็นานมากแล้วที่ไม่มีสภาพแวดล้อมให้บำเพ็ญเพียรได้อย่างสบายใจเช่นนี้
และแน่นอน สภาพแวดล้อมที่แสนสงบนี้ก็ไม่ได้หล่นลงมาเองจากฟ้า หากแต่เป็นเขาที่สร้างมันขึ้นด้วยมือตนเอง
เขาเปิดประตูออกไป มองเห็นเฮยหมู่ตานค้อมตัวคำนับเล็กน้อย แล้วก็มองเห็นเฟ่ยฉางหลิวเจ้าสำนักเซียนสถิตที่ยืนมือไพล่หลังอยู่ริมหน้าผา หันหลังมาทางด้านนี้
หนิวโหย่วเต้าเดินเข้าไปหา ยืนริมหน้าผาข้างๆ เฟ่ยฉางหลิว
เฟ่ยฉางหลิวหันมองเขาคราหนึ่ง ภายในใจนึกสงสัย หากมิใช่เพราะมีจ้าวสยงเกออยู่ สำนักเซียนสถิตของเขาคงไม่เห็นแม้แต่สำนักสวรรค์พิสุทธิ์อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ศิษย์คนหนึ่งที่ถูกขับออกมาจากสำนักสวรรค์พิสุทธิ์กลับมายืนเคียงข้างอยู่กับเขาได้
อันที่จริงในใจเขาทราบกระจ่างดี ที่บอกว่ายืนเคียงข้างนั้นล้วนเป็นคำพูดตามมารยาท ตอนนี้สำนักเซียนสถิตต้องพึ่งพาอีกฝ่าย
หลายครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขามักจะลอบส่ายหน้าเสียดายแทนสำนักสวรรค์พิสุทธิ์อยู่ร่ำไป คิดไม่ถึงว่าจะขับไล่ไสส่งคนที่มากความสามารถเช่นนี้ออกจากสำนักได้ สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ทำลายรากฐานของตนเสียแล้ว!
หนิวโหย่วเต้าหันมามอง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสำนักเฟ่ยมีธุระใดหรือ?”
เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “ทางหอหิมะเหมันต์มีความเคลื่อนไหวแล้ว”
สีหน้าหนิวโหย่วเต้าพลันจริงจังขึ้นมา “สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
เฟ่ยฉางหลิวตอบว่า “สถานการณ์ไม่ต่างจากที่เจ้าว่าไว้มากนัก มีคนก่อเรื่องขึ้นมาจริงๆ ทางข้าจับกุมมาได้สองคน เพียงแต่ข่าวยังคงแพร่ไปทั่วหอหิมะเหมันต์ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใช้คนแค่คนเดียวในการกระจายข่าวลือ”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “สืบทราบต้นตอหรือยัง?”
เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “สอบสวนไปแล้ว ทั้งสองคนที่จับมาได้ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่งในแคว้นเยี่ยน พวกเขาทราบเพียงว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสำนัก แต่ไม่ทราบถึงตัวผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง”
หนิวโหย่วเต้าถาม “จับได้สองคนหรือ?”
เฟ่ยฉางหลิวพยักหน้า “สองคน”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยเรียบๆ ว่า “เก็บเอาไว้หนึ่งคน ส่วนอีกคนให้ส่งตัวไปที่ร้านค้าของสำนักเขามหาญาณ บอกไปตามคำพูดข้า นี่เป็นฝีมือเซ่าผิงปอ ให้พวกเขาจัดการซะ!”
เฟ่ยฉางหลิวเอ่ยอย่างมีนัย “เจ้าทำเช่นนี้ นี่คิดจะจัดการเซ่าผิงปอให้ถึงตายเลยนี่นา!”
หนิวโหย่วเต้าหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยว่า “แล้วอย่างไรเล่า? เขายุยงให้ตระกูลซ่งส่งพวกท่านไปสังหารข้าที่ภูเขาหิมะ หรือไม่ใช่เพราะคิดจะจัดการข้าให้ถึงตาย? ข้าจำเป็นต้องเกรงใจด้วยหรือ?”
เหตุใดตอนนั้นเขาถึงต้องเชิญหวงเลี่ยที่เป็นเจ้าสำนักของสำนักเขามหาญาณไปคุยกันต่อหน้าฉู่อันโหลวน่ะหรือ? ก็เพื่อนำมาใช้กดดันสำนักเขามหาญาณในวันนี้น่ะสิ!
เฟ่ยฉางหลิวเอ่ยว่า “ข้าเพียงอยากรู้ว่า เรื่องหิมะถล่มทางหอหิมะเหมันต์ใช่ฝีมือของเจ้าหรือไม่”
เฮยหมู่ตานที่อยู่ด้านหลังฟังแล้วตื่นตระหนกขึ้นมา เรื่องที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้ในครั้งนั้นนางก็มีส่วนร่วมเช่นกัน หากถูกจับได้ขึ้นมาล่ะก็ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ไม่อยากจะคิดเช่นกัน
หนิวโหย่วเต้ายักไหล่ ตอบไปว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร? หรือท่านคิดว่าข้าทำเรื่องเช่นนี้จริงๆ?”
เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “เจ้ามีแรงจูงใจที่จะทำเช่นนั้นจริงๆ ไห่หรูเยวี่ยคงไม่ได้ให้การสนับสนุนทางนี้อย่างไม่มีสาเหตุกระมัง?”
หนิวโหย่วเต้าส่ายหน้าพลางตอบว่า “ท่านคิดมากไปแล้ว ไห่หรูเยวี่ยให้การสนับสนุนเพราะสาเหตุอื่น ไม่สะดวกจะเอ่ยถึงมากนัก อีกอย่าง ต่อให้ข้าต้องการผลตะวันชาดก็ทำได้เพียงบากหน้าไปขออย่างเปิดเผยเท่านั้น หาไม่แล้วผู้ใดจะกล้ามอบให้เซียวเทียนเจิ้นใช้เล่า? นั่นไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเลย! หากเปลี่ยนเป็นท่าน ท่านจะกล้าหรือ?”
เรื่องนี้ถึงตีให้ตายเขาก็ไม่ยอมรับ มิเช่นนั้นสำนักเซียนสถิตคงจะตกใจกลัวจนหนีเตลิดไปแน่
เฟ่ยฉางหลิวเงียบไปครู่หนึ่ง คิดๆ ดูก็พบว่าจริงดั่งว่า จิตใจที่ตึงเครียดพลันผ่อนคลายลง เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบอันใดในภายหลังใช่ไหม?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเป็นไปตามที่ข้าคาดการณ์ไว้ จะมีผลกระทบอันใดได้เล่า? มิเช่นนั้นข้าคงหลบซ่อนตัวไปนานแล้ว ไหนเลยจะกล้ามาบำเพ็ญเพียรอย่างสบายใจอยู่ที่นี่ได้”
ก่อนที่เฟ่ยฉางหลิวจะจากไป หนิวโหย่วเต้าไม่วายเอ่ยกำชับอีกประโยคว่า “เจ้าสำนักเฟ่ย อย่าลืมมอบตัวให้ร้านค้าสำนักเขามหายานหนึ่งคน”
“ไม่ลืมแน่นอน” เฟ่ยฉางหลิวโบกมือให้โดยไม่หันกลับมา เดินจากไป จะลืมได้อย่างไร ในเมื่อเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก
เวลานี้ เฮยหมู่ตานเดินเข้ามาหา กระซิบถาม “เต้าเหยี่ยว่า คงไม่เกิดเรื่องอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?”
นางทราบชัดเจนดี เรื่องผลตะวันชาดเป็นฝีมือของทางนี้จริงๆ
หนิวโหย่วเต้าถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เจ้ากลัวหรือ?”
เฮยหมู่ตานถอนหายใจ ตอบไปว่า “นิดหน่อยเจ้าค่ะ แต่ก็ทำลงไปแล้ว มานึกกลัวก็สายไปเสียแล้ว” นางยิ้มขื่นๆ เรียกได้ว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟโดยแท้ ในอดีตต่อให้นอนหลับฝันก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะกล้าทำเรื่องอุกอาจปานนั้น
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ไปตามหยวนฟางมาที”
เฮยหมู่ตานพยักหน้ารับ จากไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก หยวนฟางมาถึง เขายังไม่ทราบว่ามีเรื่องใด จึงเอ่ยถามว่า “เต้าเหยี่ย มีเรื่องใดจะสั่งการหรือขอรับ?”
หนิวโหย่วเต้าตอบอืมคำหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “แจ้งลู่เซิ่งจง ได้เวลาแล้ว ลงมือได้เลย! อีกอย่าง ให้จับตามองทางมณฑลเป่ยโจวอย่างใกล้ชิด มีข่าวอะไรให้รายงานมาทันที”
“ขอรับ!” หยวนฟางรับคำสั่งแล้วจากไป
หยวนฟางเพิ่งจากไปได้ไม่นาน เงาร่างหนึ่งก็โฉบเข้ามาจากอีกฟากหนึ่ง ผ่านองครักษ์ไป เหินตรงมาทางด้านนี้ ร่อนลงบนหน้าผา
ผู้มามิใช่ใครอื่น เป็นไป๋เหยาที่อายุดูเหมือนจะไม่มาก ทว่าผมกลับขาวโพลนไปทั้งศีรษะ จ้องมองหนิวโหย่วเต้าด้วยแววตาเยียบเย็น
หนิวโหย่วเต้าประสานมือเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสไป๋ให้เกียรติมาด้วยตัวเอง มีธุระใดหรือ?”
ไป๋เหยาเอ่ยเสียงตึง “เจ้ายุ่งกับผลตะวันชาดหรือ?”
เมื่อหนิวโหย่วเต้าได้ฟังก็เข้าใจทันที เห็นได้ชัดว่าความเคลื่อนไหวของทางหอหิมะเหมันต์แว่วไปถึงสำนักหยกสวรรค์แล้ว เพราะสำนักหยกสวรรค์ก็มีร้านค้าอยู่ที่นั่นเช่นกัน
ไป๋เหยานั้นได้รับจดหมายด่วนจากทางสำนักจริงๆ จึงมุ่งหน้ามาสอบถาม สำนักหยกสวรรค์รอคำตอบจากเขาอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า