ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 311

สรุปบท ตอนที่ 311 พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า

ตอน ตอนที่ 311 พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ จาก ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 311 พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 311 พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ

ทันทีที่ฝ่ามือปะทะกัน คุนหลินซู่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว ความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนตอนที่ปะทะกับหนิวโหย่วเต้าก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง รับรู้ได้ว่าพลังฝ่ามือของตนไม่ส่งผลต่อร่างหนิวโหย่วเต้าเลยแม้แต่น้อย ราวกับโจมตีใส่ความว่างเปล่า

เป็นความรู้สึกที่ผิดปกติอย่างยิ่ง!

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าโจมตีโดนแล้ว!

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าอยู่ตรงหน้าตน!

ส่วนพลังที่ไหลเข้ามาทางฝ่ามือของตนกลับกลายเป็นความเยียบเย็นและร้อนลวกผสานปนเปกัน เกิดเป็นความปั่นป่วนอย่างรุนแรง

เขาโคจรพลังสกัดต้านทันที พลังที่ร้อนระอุสายนั้นเขากลับไม่เกรงกลัว เพราะมันถูกวิชาเพลิงนภาของเขาลบล้างไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องใช้วิชาเพลิงนภาสะกดเอาไว้คือพลังเยียบเย็นอันหนาวยะเยือกสายนั้น โชคดีที่หยินหยางต่างข่มกันเอง การรวบรวมความร้อนเพื่อสลายพลังอันเยียบเย็นสายนั้นจึงไม่นับว่าลำบากยากเย็นเท่าไร

ทว่าในช่วงเวลาการต่อสู้อันกระชั้นชิด ไหนเลยจะมีเวลาพอให้เขาค่อยๆ สลายพลังไปได้

คนหนึ่งอยู่ด้านบนอีกคนอยู่ด้านล่าง ขณะที่เคลื่อนตัวสวนเข้าหากัน หนิวโหย่วเต้าจะโจมตีเพียงฝ่ามือเดียวได้อย่างไร ฝ่ามืออีกข้างซัดออกไปพร้อมกัน

คุนหลินซู่ตวัดแขนอีกข้างออกไปปัดป้องอย่างโกรธเกรี้ยว ทว่าฝ่ามืออีกข้างของหนิวโหย่วเต้าก็ยังโจมตีถูกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำอีกครั้ง

แขนของคุนหลินซู่ที่ยังคงโคจรพลังสลายแรงอยู่ข้างนั้นถูกฝ่ามือมหาจักรวาลโจมตีใส่อีกครั้ง ร่างกายแข็งทื่อไปทันที ความเร็วในการตอบสนองไม่อาจตามทันได้ ไหนเลยจะสกัดกั้นฝ่ามือที่สามของหนิวโหย่วเต้าที่ซัดตามมาติดๆ ได้

ผัวะ! หนิวโหย่วเต้าซัดฝ่ามือพุ่งผ่านสองแขนของเขาที่ยังคงตวัดปัดป้องอยู่ โจมตีเข้าที่ทรวงอกของเขา!

คุนหลินซู่เบิกตากว้าง สองแก้มพองขยาย ตัวคนสั่นสะท้านลอยละลิ่วออกไปในอากาศ

ผัวะ! ในเสี้ยวพริบตาที่ทั้งสองฝ่ายเคลื่อนห่างจากกัน หนิวโหย่วเต้าวาดเท้าแหวกอากาศถีบเข้าที่แผ่นหลังของคุนหลินซู่

“ศิษย์พี่!”

ยังไม่ทันที่จะได้เห็นภาพเหตุการณ์ถูกเตะภาพนี้ หั่วเฟิ่งหวงที่อยู่ด้านล่างส่งเสียงหวีดร้องออกมาตั้งแต่ตอนคุนหลิงซู่ถูกโจมตีเข้าที่อกแล้ว

พลังทั้งหมดถูกโคจรมารวมไว้ที่ทรวงอกเพื่อสกัดพลังฝ่ามือจนเต็มกลืนเหลือรับแล้ว ซ้ำแผ่นหลังยังถูกโจมตีเข้ามาอย่างรุนแรงอีก พลังที่คุ้มกายคุนหลินซู่อยู่ถูกโจมตีจนแตกสลาย คล้ายจะได้ยินเสียงกระดูกในร่างตนแตกหักดักกรอบแกรบด้วย เลือดลมได้รับผลกระทบจากพลังอันมหาศาล เอ่อล้นขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

‘พรูด!’ คุนหลินซู่กระอักโลหิตออกมากลางอากาศ ลอยละลิ่วออกไป

การประมือกันของทั้งสองฝ่ายดำเนินไปเร็วอย่างยิ่ง เปลวเพลิงที่กระจายตัวออกเป็นกงจักรเพลิงคราแรกนั้นยังไม่ทันสลายหายไปจนหมดสิ้น คุนหลินซู่ที่กระเด็นออกไปชนเข้ากับสะเก็ดเพลิงที่ยังหลงเหลืออยู่ อาภรณ์ติดไฟลุกไหม้ ถูกเพลิงของตนย้อนกลับมาแผดเผา ให้ความรู้สึกคล้ายเล่นกับไฟ สุดท้ายก็ถูกไฟลวกเอา

ทั้งสองตกลงกติกาการต่อสู้ไว้เรียบร้อยแล้ว ประกาศชัดเจนก่อนเริ่มแล้วว่าเป็นตายขึ้นอยู่กับชะตา ท้าประลองแบบตัวต่อตัว ว่ากันตามหลักแล้วคนนอกไม่ควรจะเข้ามาแทรกแซง

ทว่าหั่วเฟิ่งหวงที่อยู่ด้านล่างกลับไม่สามารถทนมองเฉยๆ ได้ ทนมองคุนหลินซู่ตายไปต่อหน้าไม่ได้ นางดีดตัวทะยานขึ้นสู่อากาศ พุ่งเข้าไปหาคุนหลินซู่ หมายจะชิงตัวมา

หนิวโหย่วเต้าที่พุ่งออกมาจากในเปลวเพลิงที่กระจายตัวเหมือนระลอกคลื่นกางแขนทั้งสองข้างออก หักเลี้ยวทะยานไปที่ยอดหลังคาของศาลา ตีลังกากลางอากาศ เท้าพลันเหยียบลงบนหลังคาของศาลา จากนั้นดีดตัวพุ่งออกไปอีกครั้ง ทะยานเข้าไปหาคุนหลินซู่อีกครั้ง สายตาจ้องตรงไปยังเป้าหมาย เผยสีหน้าโหดเหี้ยมดุดันออกมาอย่างชัดเจน!

ทุกคนยังไม่ได้สติกลับมาจากอาการตกตะลึง เมื่อเห็นว่าหนิวโหย่วเต้ายังไม่ยอมรามือ หมายจะทำการโจมตีอีกครั้ง ทุกคนก็ล้วนตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว

เห็นๆ อยู่ว่าโจมตีคุนหลินซู่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว แต่ก็ยังต้องการโจมตีอีก เช่นนี้คือหนิวโหย่วเต้ามีใจหมายสังหาร!

ลิ่งหูชิวและเฟิงเอินไท่มีสีหน้าตึงเครียด บ้าไปแล้วหรือ?

วันนี้ทั้งสองได้ตระหนักถึงนิสัยใจคอของน้องเล็กคนนี้แล้ว ตอนที่ยังไม่ลงมือก็ยังพอว่า แต่หากลงมือแล้วต้องจัดการให้ถึงที่สุด

ตอนนี้ทั้งสองถึงได้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดหนิวโหย่วเต้าถึงต้องให้สามสำนักรับรอง เป็นเพราะถูกคุนหลินซู่ยั่วโทสะเข้าแล้ว ทนแล้วทนเล่าจนทนไม่ไหว ต้องการสังหารอีกฝ่ายทิ้งเสีย!

คุนหลินซู่ที่บนร่างมีเปลวเพลิงลุกไหม้ลอยละลิ่วร่วงหล่นลงมาจากอากาศ หั่วเฟิ่งหวงทะยานเข้าอ้าแขนโอบร่างเขาไว้ เปลวไฟบนร่างเขาก็ถูกหั่วเฟิ่งหวงดับลงในชั่วพริบตา

มีเสียงความเคลื่อนไหวแว่วมาจากทางด้านหลังอีกครั้ง หั่วเฟิ่งหวงเหลียวมองทันที เห็นว่าหนิวโหย่วเต้าพุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง บนร่างพลันระเบิดเปลวเพลิงออกมา เปลวเพลิงอันร้อนแรงกลายร่างเป็นวิหคยักษ์ตัวหนึ่ง วิหคยักษ์กระพือปีกเพลิงทั้งสองข้าง โผบินหลบหนีการไล่สังหารอย่างรวดเร็ว!

หนิวโหย่วเต้ากางแขนทั้งสองออก ปีกลมปราณกางสยายเหินร่อนลม เบี่ยงตัวออกด้านข้าง อ้อมวกกลับมาตามล่าอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้เองพลันมีประกายเยียบเย็นพุ่งเข้ามา คมมีดจำนวนนับไม่ถ้วนคล้ายถูกร้อยเรียงด้วยสายลูกปัดที่มองไม่เห็นจนกลายเป็นเหมือนเกราะเกล็ด ก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่หมุนวนอยู่ ราวกับโล่ยักษ์ชิ้นหนึ่งที่หมุนวนอยู่กลางอากาศ คั่นกลางระหว่างหนิวโหย่วเต้าที่กำลังตามไล่ล่าและหั่วเฟิ่งหวงที่กำลังหลบหนี

หนิวโหย่วเต้าเบี่ยงตัวบินอ้อมอย่างรวดเร็ว หลังบินออกออกมาแล้ว ในขณะที่ยังไม่ทราบถึงสถานการณ์ที่แน่ชัด เขาจึงไม่กล้าเข้าปะทะตรงๆ

ฝ่ายหั่วเฟิ่งหวงก็โอบคุนหลินซู่ร่อนลงสู่พื้น ร่อนลงตรงด้านนอกศาลา

หูเทียนหานที่ปลดผ้าคลุมกันลมสีดำที่อยู่บนร่างออกไปแล้วประกบฝ่ามือขึ้นมา ค่ายกลเกราะใบมีดขนาดใหญ่ที่หมุนวนอยู่กลางอากาศพลันหมุนควงเร็วขึ้น จากนั้นก็ถูกดึงสายลูกปัดกลับมาจากกลางอากาศ

“ศิษย์พี่!” หั่วเฟิ่งหวงเอ่ยปลอบด้วยเสียงโศกหมอง น้ำตาไหลรินดุจสายพิรุณ

หนิวโหย่วเต้าเงยหน้ามองคนของสำนักมหาบรรพตและสำนักศาสตราลึกล้ำ เอ่ยถามว่า “ข้าไปได้หรือยัง?”

“ไอ๊หยา มัวพูดเหลวไหลอะไร ไปไหนก็ไป” หูเทียนหานโบกมือไล่ให้เขาจากไป เรื่องในวันนี้ช่างกวนใจเสียเหลือเกิน หากรู้แต่แรกว่าคุนหลินซู่สู้ไม่ไหวขนาดนี้ คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะตกลงเป็นพยานให้ อีกเดี๋ยวเกรงว่าคงต้องมอบคำอธิบายดีๆ แก่ทางสำนักแล้ว เผลอๆ อาจจะถูกตำหนิทั้งๆ ที่ไม่มีความผิดด้วยก็ได้

“ลาก่อน!” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยทิ้งท้ายไว้ สะบัดแขนสองข้าง สลัดลิ่งหูชิวและเฟิงเอินไท่ที่รั้งแขนไว้ออก ฉวยกระบี่กลับมาจากมือลิ่งหูชิว หันหลังเหินทะยานข้ามหัวทุกคนไป จากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากลิ่งหูชิวและเฟิงเอินไท่ประสานมือคำนับคนของสามสำนักแล้วก็รีบไล่ตามออกไปเช่นกัน

ผู้ชมที่เหลือล้วนลอบทอดถอนใจอยู่ พบว่าพลังของหนิวโหย่วเต้าค่อนข้างลึกล้ำเกินหยั่งวัด คุนหลิงซู่ผู้นี้เพียงเผชิญหน้าก็พ่ายแพ้ให้แก่หนิวโหย่วเต้า ไร้ซึ่งกำลังจะตอบโต้หนิวโหย่วเต้าได้ เช่นนี้แล้วยังกล้ามาบีบให้หนิวโหย่วเต้ารับคำท้าประลอง พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ กลายเป็นเรื่องตลกฉากหนึ่งอย่างแท้จริง!

ในเวลานี้ทุกคนอดไม่ได้ที่นึกเชื่อมโยงไปถึงการตายของจั๋วเชาที่ร่ำลือกัน มองจากเรื่องในวันนี้แล้ว หากบอกว่าจั๋วเชาตายด้วยน้ำมือของหนิวโหย่วเต้า เกรงว่าจะมิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว

“ดูอะไรกัน ยังไม่ไสหัวไปอีก!” หูเทียนหานตวาดกร้าว

กลุ่มคนที่มุงดูอยู่แตกฮือไปทันที พากันเหินทะยานจากไป

สายพิรุณโปรยปรายจากฟากฟ้า พวกหั่วเฟิ่งหวงพาคุนหลินซู่เข้าไปในศาลาเพื่อเร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน

……

ณ ทะเลสาบส่องนภา เงาร่างคนสามคนร่อนโฉบผ่านผิวทะเลสาบไปอย่างเร่งร้อน

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ลิ่งหูชิวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “น้องสาม พลังของเจ้าไม่ธรรมดาเลย ข้าเคยได้ยินเรื่องของคุนหลินซู่ผู้นี้มาก่อน เป็นหัวกะทิในบรรดาศิษย์รุ่นนี้ของสำนักเพลิงนภา ผลปรากฏว่าเพียงปะทะกันก็พ่ายแพ้ให้เจ้าอย่างหมดท่า คาดว่าครานี้เจ้าไม่เพียงแต่จะสร้างชื่อเสียงเลื่องลือเท่านั้น แต่เกรงว่าจะดึงดูดความสนใจจากสำนักใหญ่เหล่านั้นเข้าจริงๆ แล้ว!”

“ข้ายอมไม่มีชื่อเสียงนี้เสียดีกว่า!” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยหยันตัวเอง จากนั้นหันไปมองเฟิงเอินไท่ “พี่ใหญ่ ท่านจากไปแล้วมิใช่หรือ?”

ลิ่งหูชิวก็หันไปมองเช่นกัน “ใช่แล้ว ท่านมาที่นี่ทำไมอีก?”

เฟิงเอินไท่ถอนหายใจเอ่ยไปว่า “ข้าต้องมอบคำอธิบายเรื่องม้าศึกให้แก่ทางสำนักใช่ไหมล่ะ เมื่อมีการประมูลเช่นนี้ ข้าจะไม่มาดูสักหน่อยได้หรือ?”

………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า