ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 314

ตอนที่ 314 รอ

ปู้สวินเข้าใจเจตนาของเขาว่าอยากให้การสนับสนุนซางเฉาจง แต่หากให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยก็เกรงว่าจะทำให้ซางเจี้ยนสยงลุกขึ้นมาตอบโต้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงคิดจะอ้อมไปลงมือผ่านทางหนิวโหย่วเต้าแทน

“เจ้าคิดว่าคำพูดของหนิวโหย่วเต้าคนนี้จะมีน้ำหนักต่อทางซางเฉาจงหรือไม่?” เฮ่าอวิ๋นถูเอ่ยถามเขาอีกครั้ง

ปู้สวินลองไตร่ตรองตามความคิดของเขาอย่างรวดเร็ว ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า “ตามข่าวที่ได้รับมาจากสายที่อยู่ทางจังหวัดชิงซาน ปัจจุบันนี้ถึงจะอยู่ในจังหวัดชิงซาน แต่หนิวโหย่วเต้าก็แยกตัวออกมาพำนักอย่างสันโดษ น้อยครั้งนักที่จะติดต่อกับซางเฉาจง แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ เมื่อดูจากเบาะแสปัจจัยต่างๆ แล้ว หนิวโหย่วเต้าแทบจะไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทหารและการปกครองของสองจังหวัดเลยพ่ะย่ะค่ะ มองเผินๆ แล้วดูเหมือนหนิวโหย่วเต้าจะไม่มีอิทธิพลอันใดต่อซางเฉาจงเลย แต่ในบริเวณที่พักของเขาห้ามมิให้คนนอกเข้าใกล้ จึงยากจะสืบทราบได้พ่ะย่ะค่ะ”

“แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่ควรค่าพอให้ไตร่ตรองดูพ่ะย่ะค่ะ ซางเฉาจงและน้องสาวอย่างซางซูชิงเป็นพี่น้องที่สนิทสนมปรองดอง ล้วนทราบกันดีว่าซางซูชิงมีอิทธิพลต่อซางเฉาจงผู้เป็นพี่ชายอยู่ ทว่าซางซูชิงก็ได้ย้ายตามไปพำนักอยู่ในเขตที่พักของหนิวโหย่วเต้าเช่นกัน อีกทั้งจากการวิเคราะห์ของหน่วยข่าวกรองพบว่ากิจการค้าสุราอันเป็นช่องทางรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของสำนักหยกสวรรค์ก็ผลิตขึ้นในเขตที่พักของหนิวโหย่วเต้าเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ ที่น่าแปลกคือมองจากเบาะแสปัจจัยต่างๆ แล้ว คล้ายว่าผู้ที่ผลิตสุราขึ้นจะมิใช่ศิษย์จากสำนักหยกสวรรค์ ปัญหาคือเหตุใดสำนักหยกสวรรค์จึงไม่ได้ถือสิทธิ์ในการควบคุมช่องทางรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของตน? หน่วยข่าวกรองสงสัยว่าโรงงานผลิตสุราจะอยู่ในการควบคุมของสามสำนักหรือไม่ก็หนิวโหย่วเต้า หรือไม่ก็อาจจะเป็นทั้งสองฝ่ายควบคุมร่วมกันพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วก็ยังมีเรื่องที่มณฑลจินโจวจับมือเป็นพันธมิตรกับซางเฉาจงอีกพ่ะย่ะค่ะ การร่วมมือเกิดขึ้นหลังจากหนิวโหย่วเต้าปรากฏตัวขึ้นในจินโจวและสังหารราชทูตแคว้นเยี่ยน หนิวโหย่วเต้าสังหารราชทูตแคว้นเยี่ยน แต่กลับรอดตัวจากการควบคุมของมณฑลจินโจวได้ เช่นนี้หากมิใช่เพราะมณฑลจินโจวมีเจตนาจะปล่อยตัว หนิวโหย่วเต้าจะรอดออกมาจากมณฑลจินโจวได้อย่างไร? ดังนั้นการที่มณฑลจินโจวและซางเฉาจงจับมือเป็นพันธมิตรกัน หนิวโหย่วเต้าจะมีบทบาทอย่างไรในเรื่องนี้ อันนี้มันก็น่าครุ่นคิดพ่ะย่ะค่ะ”

“จากนั้นก็เป็นเรื่องในปัจจุบันนี้ เมื่อหนึ่งปีก่อนสำนักหยกสวรรค์เดินทางมาที่แคว้นฉีเพื่อจัดหาม้าศึกให้ซางเฉาจง หน่วยข่าวกรองทราบเรื่องแต่แรกแล้ว ด้วยการเข้าแทรกแซงของหน่วยข่าวกรองทำให้สำนักหยกสวรรค์คว้าน้ำเหลวอย่างต่อเนื่อง ต่อมาสำนักเซียนสถิต สำนักคีรีพิลาสและสำนักเมฆาล่องที่สวามิภักดิ์ต่อซางเฉาจงก็ได้ส่งคนมาที่นี่เพื่อช่วยเสริมกำลังให้สำนักหยกสวรรค์”

“ตอนนี้ ทางซางเฉาจงก็ได้ส่งหนิวโหย่วเต้ามาอีก ตามหลักแล้ว หนิวโหย่วเต้าเคยสร้างเรื่องไว้มากมาย ไม่ควรปรากฏตัวในที่สาธารณะอีก ดูจากเรื่องที่เขาปะทะกับจั๋วเชาระหว่างทางก็น่าจะทราบแล้ว แต่เขาก็ยังเดินทางมา จากจุดนี้ทำให้เห็นว่าซางเฉาจงให้ความสำคัญและไว้วางใจในความสามารถของเขาพ่ะย่ะค่ะ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ แล้ว หนิวโหย่วเต้าน่าจะมีอิทธิพลต่อซางเฉาจงพ่ะย่ะค่ะ”

เป็นผู้ดูแลหลวงอยู่ภายในวังหลวง แต่กลับสามารถพูดคุยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปนับหมื่นลี้ได้ประหนึ่งคุยเรื่องทั่วไปในครัวเรือน มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะหน่วยข่าวกรองที่รับผิดชอบสอดส่องหาข้อมูลแก่แคว้นฉีอยู่ในการดูแลของเขา ตำแหน่งผู้ดูแลหลวงของเขาก็คือหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองนั่นเอง

ระยะนี้ฝ่าบาทให้ความสนใจหนิวโหย่วเต้าคนนี้ เขาย่อมไปสืบหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหนิวโหย่วเต้ามาทันที เตรียมตัวตอบคำถามของฝ่าบาททุกเมื่อ

ชัดเจนยิ่งนัก การเตรียมตัวล่วงหน้านั่นถูกต้องแล้ว ได้นำมาใช้งานจริง

เฮ่าอวิ๋นถูพยักหน้ารับนิดๆ เอ่ยเนิบๆ ว่า “ในเมื่อเขามีอิทธิพลต่อซางเฉาจง เช่นนั้นก็ไปติดต่อเขาหน่อยเถอะ ซางเฉาจงมีใจทะเยอทะยาน พื้นที่สองจังหวัดเติมเต็มความต้องการของเขาไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วต้องขยายอาณาเขตออกไปแน่ ข้ายังไม่ต้องการให้แคว้นเยี่ยนเกิดความโกลาหลขึ้นในขณะนี้ ไปหาคนที่มีใจเป็นกลางมาสักคน แล้วก็ต้องเป็นคนที่สามารถเจรจากับทางซางเจี้ยนสยงได้ด้วย ส่งไปคุยกับหนิวโหย่วเต้า ช่วยสมานความสัมพันธ์ระหว่างซางเจี้ยนสยงและซางเฉาจงสักหน่อย”

ปู้สวินถาม “แล้วราชทูตแคว้นเยี่ยนที่ประจำการอยู่ในแคว้นฉีล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

เฮ่าอวิ๋นถูกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าราชทูตแคว้นเยี่ยนจะปล่อยให้พวกเราจัดการตามที่ใจคิดได้หรือ?”

ปู้สวินค้อมคำนับพลางเอ่ยถามอีกประโยค “ฝ่าบาททรงมีตัวเลือกที่หมายตาไว้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

เฮ่าอวิ๋นถูถามกลับ “เจ้าคิดว่าซางเสวี่ยชายาของหงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”

คนที่เขาเอ่ยถึงคือชายาของเฮ่าหงโอรสลำดับที่สองของเขา ซางเสวี่ยมิได้เป็นเพียงลูกสะใภ้ของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นธิดาของซางเจี้ยนสยงด้วย

หลายปีก่อนยามที่แคว้นเยี่ยนและแคว้นหานทำสงครามกัน เนื่องจากสถานการณ์บีบคั้น ซางเจี้ยนสยงจึงส่งตัวพระธิดาคนหนึ่งมาอภิเษกกับพระโอรสของเฮ่าอวิ๋นถู ใช้การสมรสเชื่อมสัมพันธ์แลกเปลี่ยนกับกำลังสนับสนุนจากแคว้นฉี ปัจจุบันนี้นางได้ให้กำเนิดพระนัดดาชายหญิงคู่หนึ่งแก่เฮ่าอวิ๋นถูแล้ว

ปู้สวินทราบเจตนาของเขาในทันที

ซางเจี้ยนสยงส่งธิดามาอภิเษกที่แคว้นฉี ก็เพราะอยากให้ธิดากลายเป็นกำลังให้แคว้นเยี่ยน ตอนนี้ซางเสวี่ยยังต้องการการสนับสนุนจากทางตระกูลฝ่ายมารดาในการตั้งตัวที่นี่อยู่ เผื่อไว้สำหรับช่วงเวลาที่ซางเจี้ยนสยงต้องการ หากว่ากันในอีกมุมหนึ่งแล้ว ซางเสวี่ยนั้นมีอิทธิพลต่อซางเจี้ยนสยงอยู่พอสมควร อีกทั้งฝ่าบาทก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่งโรจน์ ยังไม่มีการแต่งตั้งรัชทายาทแห่งแคว้นฉีขึ้นมา หากฝ่าบาททรงออกปากทั้งที ซางเสวี่ยจะไม่ทุ่มเทอย่างสุดกำลังได้หรือ? มิใช่เพื่อใครอื่นเลย แต่เป็นการทำเพื่ออนาคตโอรสธิดาของนางรวมถึงตัวนางเองด้วย ซางเสวี่ยต้องทุ่มสุดตัวแน่นอน

เกรงว่าซางเจี้ยนสยงก็คงคาดหวังให้ธิดาตนได้กลายเป็นชายารัชทายาทเช่นกัน เพื่อที่จะได้มีอิทธิพลในแคว้นฉีมากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อแคว้นเยี่ยนเช่นกัน

ปู้สวินยิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชา กระหม่อมจะไปสืบดูลาดเลาของหนิวโหย่วเต้าก่อน หากมีจังหวะเหมาะสมค่อยไปหารือเรื่องนี้กับองค์ชายรองพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าอวิ๋นถูตอบอืมคำหนึ่ง ทอดสายตามองไปทางเหนือของแคว้นเยี่ยนต่อ จ้องมองมณฑลเป่ยโจวพลางเอ่ยถาม “สืบหาข้อมูลของคนที่ช่วยจัดหาม้าศึกให้ทางเป่ยโจวได้หรือยัง?”

ปู้สวินตอบว่า “ภายในเรือนเมฆาขาวมีการป้องกันหนาแน่น ไม่สามารถเข้าไปสืบข่าวด้านในได้เลยพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่จากการวิเคราะห์เบาะแสต่างๆ แล้ว หน่วยข่าวกรองสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับหอจันทร์กระจ่างพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าอวิ๋นถูค่อยๆ หันกลับมา “หอจันทร์กระจ่างอย่างนั้นหรือ?”

ปู้สวินตอบกลับ “พ่ะย่ะค่ะ! เคยมีคนของหอจันทร์กระจ่างเข้าไปยังส่วนในของเรือนเมฆาขาว แต่ก็มีเพียงเท่านี้ ยังไม่มีหลักฐานมากไปกว่านี้พ่ะย่ะค่ะ แต่มองจากแนวทางในการจัดการเรื่องราวตามวิสัยของหอจันทร์กระจ่างแล้ว เรือนเมฆาขาวก็เข้าเค้าเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ หน่วยข่าวกรองวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เรือนเมฆาขาวจะเป็นฐานลับแห่งหนึ่งของหอจันทร์กระจ่างพ่ะย่ะค่ะ หอจันทร์กระจ่างกระทำการใดล้วนปกปิดลึกลับ มีความระมัดระวังตัวสูงมาก หน่วยข่าวกรองไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นจึงหาโอกาสเข้าไปสืบค้นเจาะลึกไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ข้อมูลที่ทราบในตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ”

ถึงแม้หอจันทร์กระจ่างจะลึกลับ แต่เครือข่ายข่าวกรองของแคว้นฉีก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคืออยู่ในเขตพื้นที่แคว้นฉีด้วย เมื่ออยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เครือข่ายข่าวกรองอันทรงประสิทธิภาพของแคว้นฉีจะจับพิรุธคนของหอจันทร์กระจ่างไม่ได้เลยสักคน คนที่เข้าไปติดต่อข้องแวะกับเรือนเมฆาขาวล้วนถูกหน่วยข่าวกรองจับตามองทั้งสิ้น ย่อมพบเห็นเบาะแสร่องรอยเป็นธรรมดา

นั่นเป็นเพราะเหตุผลเดียวกัน ม้าศึกเป็นทรัพยากรทางการศึกของแคว้นฉี ย่อมถูกเฮ่าอวิ๋นถูจำกัดควบคุมอย่างเข้มงวด ในลานเลี้ยงม้าขนาดใหญ่แทบทั้งหมดล้วนมีสายลับของหน่วยข่าวกรองปะปนอยู่ เมื่อมีการค้าขายม้าศึกจำนวนมากย่อมไม่อาจรอดพ้นสายตาของหน่วยข่าวกรองไปได้

ส่วนที่ว่าควรจะขัดขวางผู้ใดหรือไม่ขัดขวางผู้ใดนั้น นั่นล้วนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเฮ่าอวิ๋นถู และเป็นเพราะเหตุนี้ จึงทำให้เขาสามารถรักษาสมดุลระหว่างสำนักบำเพ็ญเพียรขนาดใหญ่ภายในแคว้นได้

เรือนเมฆาขาวคิดว่าตนจัดการปกปิดเรื่องม้าศึกเป็นความลับ แต่กลับไม่ทราบเลยว่าถูกหน่วยข่าวกรองจับได้แล้ว ลอบสังเกตการณ์อยู่นานแล้ว เรื่องที่ซูจ้าวออกจากแคว้นฉีไปติดต่อกับตระกูลเซ่าแห่งเป่ยโจวก็อยู่ในสายตาของหน่วยข่าวกรองแคว้นฉีเช่นกัน

ความสามารถในการสืบข่าวคราวของแคว้นแคว้นหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่สำนักบำเพ็ญเพียรทั่วไปจะเทียบชั้นได้ ซึ่งในจุดนี้หนิวโหย่วเต้าก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว

“หึๆ!” เฮ่าอวิ๋นถูหัวเราะหยัน “หลายปีมานี้น้องห้าแสร้งทำตัวโง่เขลาบ้าบอได้แนบเนียนเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะลอบรวมหัวสมคบกับคนของหอจันทร์กระจ่างอย่างลับๆ น้องห้าหนอน้องห้า เจ้ารู้จักประเมินตนไว้จะดีที่สุด มิเช่นนั้นก็อย่าได้นึกเคืองพี่ชายอย่างเราเลย!

น้องห้าที่เขาเอ่ยถึงก็คือเฮ่าอวิ๋นเซิ่ง ซีย่วนต้าอ๋องแห่งแคว้นฉี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า