ตอนที่ 316 ผู้ดูแลหลวง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะคุยกันมาถึงขั้นนี้ได้ แล้วจะไม่ให้เอ่ยถึงได้อย่างไร? ลิ่งหูชิวรู้สึกอึดอัดที่ถูกพูดดักทางเช่นนี้ ไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ จึงซักไซ้ต่อว่า “ของที่ทำให้จ้าวสยงเกอสนใจได้ เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าคือสิ่งใด?”
หนิวโหย่วเต้าส่ายหน้า “ถูกกักบริเวณไว้ในเรือนดอกท้อนานหลายปี ความรู้สึกเช่นนั้นทำให้เรือนดอกท้อกลายเป็นฝันร้ายของข้า เป็นอดีตที่ไม่อยากหวนนึกถึง ข้าไม่อยากนึกถึงเรื่องเรือนดอกท้อไปมากกว่านี้แล้วจริงๆ เฮ้อ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เหล่าเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้ว่าสำนักหยกสวรรค์จะปล่อยของในมือออกไปได้ทันเวลาหรือไม่ มิเช่นนั้นเกรงว่าเหล่าเฟิงคงต้องตกอยู่ในอันตรายแน่”
ลิ่งหูชิวแทบจะถูกคำพูดเหล่านี้ทำให้อึดอัดตายแล้ว คำว่า ‘เหล่าเฟิ่ง’ ดักทางเขาไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ยากจะซักถามต่อไปได้อีก
เหตุผลก็ง่ายมาก ไม่ว่าจะพูดกันอย่างไร ดีร้ายอย่างไรเฟิงเอินไท่ก็เป็นพี่ชายร่วมสาบานของทั้งคู่ หากไม่สนใจไยดีแม้แต่ความเป็นความตายของพี่ชายร่วมสาบาน ทว่าเอาแต่สนใจของต่างหน้าของคนที่ตายจากไปหลายปี มันเหมาะสมหรือ?
หารู้ไม่ว่าหนิวโหย่วเต้าแค่ต้องการจะรั้งเขาไว้
ตลอดทางมานี้ลิ่งหูชิวตามติดเขาเป็นเงาตามตัว ทำให้เขานึกสงสัยขึ้นมา ช่วงที่อยู่ทางหอไร้ขอบเขต มีคนล่อลิ่งหูชิวออกไปแล้วค่อยลงมือกับเขา แต่การเดินทางในช่วงหลังจนมาถึงตอนนี้ คนของหอจันทร์กระจ่างแทบจะไม่ลงมือกับเขาอีกเลย หอจันทร์กระจ่างจะใจดีขนาดนี้เชียวหรือ?
ปัญหาบางอย่างสำหรับคนทั่วอาจจะไม่เก็บมาคิด แต่สำหรับคนอย่างหนิวโหย่วเต้าแล้ว มีหรือที่เขาจะไม่ระแวดระวังได้
เมื่อคนที่น่าสงสัยมาอยู่ร่วมกับคนอย่างหนิวโหย่วเต้าตลอดเวลาเช่นนี้ การจะหลบเลี่ยงประสาทสัมผัสอันเฉียบไวของหนิวโหย่วเต้านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
อยู่ร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ หนิวโหย่วเต้าพอจะคาดเดาถึงตัวตนของลิ่งหูชิวได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแต่สงสัยว่าลิ่งหูชิวเข้าหาเขาเพราะคันฉ่องของตงกัวเฮ่าหรานบานนั้น เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะเขารู้ว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตงกัวเฮ่าหรานที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญจริงๆ ก็มีเพียงคันฉ่องบานนั้นเท่านั้น นอกเหนือไปจากนี้แล้ว เขาก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับตนและตงกัวเฮ่าหรานที่ควรค่าพอให้ลิ่งหูชิววางแผนเข้าใกล้ได้
ประกอบกับทราบข่าวลือบางอย่างมา เขาจึงสงสัยมานานแล้วว่าคันฉ่องบานนั้นจะใช่คันฉ่องแห่งซางที่เล่าขานกันหรือไม่ แต่ก็มีส่วนที่ขัดกับตำนานเล่าขานอยู่ ในตำนานกล่าวไว้ว่าคันฉ่องแห่งซางเป็นสมบัติชิ้นแรกในแปดของวิเศษครองพิภพ แต่คันฉ่องสัมฤทธิ์ที่เขาแก้กลไกได้ดูเหมือนจะเป็นเพียงอุปกรณ์บันทึกวิชาบำเพ็ญเพียรเท่านั้น แทบจะไม่เข้าข่ายที่เรียกว่าของวิเศษได้เลย
หากว่าเป็นคันฉ่องแห่งซางจริง ในอดีตคันฉ่องแห่งซางก็น่าจะเคยตกอยู่ในมือคนอื่นเป็นระยะเวลานานหลายปีเช่นกัน ไม่เคยมีผู้ใดถอดรหัสเนื้อหาภายในคันฉ่องได้เลยหรือ?
หรือว่าคันฉ่องแห่งซางยังมีวิธีใช้อย่างอื่นที่ตนยังไม่รู้อยู่?
ลิ่งหูชิวมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ น่ะหรือ?
จนกระทั่งเมื่อครู่นี้ การหยั่งเชิงของลิ่งหูชิวทำให้เขามั่นใจเต็มที่แล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายจะมาเพราะคันฉ่องบานนั้นจริงๆ
หากว่าเป็นคนอื่น เมื่อตระหนักได้ว่าข้างกายมีตัวอันตรายเช่นนี้อยู่ คาดว่าคงหาวิธีสลัดทิ้ง ทว่าหนิวโหย่วเต้ากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เขาต้องการรั้งลิ่งหูชิวเอาไว้ข้างกายตน ต้องการยึดโยงเขาไว้ ไม่ปล่อยให้ลิ่งหูชิวจากไปได้
เขาทราบชัดเจนดี หากปล่อยให้ลิ่งหูชิวทราบเรื่องราวกระจ่างแล้ว อีกฝ่ายต้องหาโอกาสหรือหาข้ออ้างเพื่อจากไปแน่ ไม่แน่ว่าอาจลงมือสังหารตนทิ้งด้วยก็เป็นได้ หอจันทร์กระจ่างมิใช่ว่าต้องการสังหารเขาอยู่แล้วหรอกหรือ?
ตอนนี้มีจ้าวสยงเกอที่ไม่รู้ข้อมูลชัดเจนปรากฏขึ้นมา หากต้องการยืนยันให้แน่ใจล่ะก็ อีกฝ่ายก็ไม่อาจไปจากเขาได้ จ้าวสยงเกอมิใช่คนที่จั๋วเชาจะเทียบชั้นได้ อีกทั้งเขาก็ไม่เชื่อว่าในสถานการณ์ที่ยังไม่ทราบเรื่องแน่ชัด หอจันทร์กระจ่างจะกล้าทำตัวโอหังใส่จ้าวสยงเกอ ยอดฝีมือที่เป็นรองเพียงขั้นจิตทารกไหนเลยจะหาเรื่องได้ง่ายปานนั้น?
ต่อให้หอจันทร์กระจ่างจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ในสถานการณ์ที่ยังยืนยันแน่ชัดไม่ได้ว่าเป้าหมายคือจ้าวสยงเกอ เขาคาดการณ์ว่าหอจันทร์กระจ่างคงไม่กล้าลงมือกับจ้าวสยงเกอในทันที
เขาเองก็ไม่กลัวเช่นกันว่าจะไปยั่วยุจ้าวสยงเกอเข้า เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเขาล้วนไม่เคยบอกและไม่เคยยอมรับเลยว่าเป็นจ้าวสยงเกอ
ตอนนี้เรื่องเดียวที่เขากังวลคือข้างกายตนไม่มีคนอื่นเลย ด้านอาหารการกินล้วนเป็นทางลิ่งหูชิวที่ดูแลจัดการ เขากังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะลอบเล่นลูกไม้ จากนั้นก็จับเขาไว้ บังคับให้เขาคายความจริงออกมา
ทว่าตัวเขาหนิวโหย่วเต้าคุ้นชินกับวิถีชีวิตที่ต้องเสี่ยงอันตรายทุกย่างก้าวมานานแล้ว พร้อมเผชิญหน้าเสมอ รู้ชัดเจนว่าลิ่งหูชิวอาจจะคุมคามถึงชีวิตเขาได้ แต่เขาก็ยังอยู่ร่วมกับตัวอันตราย ยังคงทำงานร่วมกันอยู่ดี
หากเขายังไม่หลุดพ้นจากอันตรายอย่างแท้จริงจนกลับไปถึงจังหวัดชิงซานได้ เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้ลิ่งหูชิวไปจากข้างกายเขาง่ายๆ
เช่นเดียวกับที่เขาเคยกล่าวกับเฮยหมู่ตานไว้ก่อนหน้านี้ ลิ่งหูชิวลงเรือลำเดียวกับเขาแล้ว ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะลงจากเรือไปได้ง่ายๆ ในความเป็นจริงคือลิ่งหูชิวติดตามเขาออกหน้าอย่างเปิดเผย ค่อยๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของเขาแล้ว นี่ก็คือหนึ่งในวัตถุประสงค์ที่เขาค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอน
ใจร้อนไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ต้องค่อยเป็นค่อยไป สักวันหนึ่งเขาจะทำให้ลิ่งหูชิวถอนตัวกลับไม่ได้อีก!
ลิ่งหูชิวเอ่ยด้วยน้ำเสียงระอา “เหล่าเฟิงหาใช่คนโง่ไม่ พูดกับเขาไปชัดเจนหมดแล้ว เขาน่าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร น่าจะไม่มีอันตรายอะไรร้ายแรงหรอก” ปากพูดไป แต่ในหัวยังคงคิดอยู่ว่าจะวกกลับเข้าประเด็นอย่างไรดี
แต่ในเวลานี้เอง หงซิ่วเร่งฝีเท้าเดินเข้ามา มือถือป้ายคำสั่งชิ้นหนึ่งมาด้วย เอ่ยรายงานว่า “เต้าเหยี่ย ผู้ดูแลหลวงปู้สวินมาเยือนเจ้าค่ะ รออยู่นอกประตู ต้องการพบท่านเจ้าค่ะ”
“ปู้สวินหรือ?” ลิ่งหูชิวแปลกใจ รีบยื่นมือไปหยิบป้ายคำสั่งมาตรวจสอบดู
หนิวโหย่วเต้าสงสัย “ผู้ดูแลหลวงหรือ? ผู้ดูแลหลวงไหน?”
ลิ่งหูชิวพลิกดูป้ายคำสั่งนี้พลางเอ่ยเสียงขรึม “หัวหน้าขันทีที่อยู่ข้างกายเฮ่าอวิ๋นถู รับผิดชอบดูแลจัดการทุกเรื่องภายในวังหลวง จะเรียกว่าเป็นพ่อบ้านของเฮ่าอวิ๋นถูก็ได้ แล้วก็เป็นคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจจากเฮ่าอวิ๋นถูเป็นที่สุด ได้ยินว่าเขายังรับผิดขอบดูแลหน่วยข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพที่สุดในแคว้นฉีด้วย ถึงแม้จะไม่มีอำนาจทางการทหาร แต่ก็กุมอำนาจไว้ไม่น้อยเลย! ร่ำลือกันว่าเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเช่นกัน แต่ไม่มีผู้ใดทราบถึงระดับสภาวะของเขา มีข่าวลือว่าคนที่ทราบถึงระดับสภาวะของเขาล้วนตายไปหมดแล้ว”
หนิวโหย่วเต้าค่อนข้างแปลกใจ เอ่ยถามหงซิ่วว่า “ใช่เขาจริงๆ หรือ? คงมิใช่ว่าเป็นตัวปลอมกระมัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า