ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 334

บทที่ 334 ขาดทุน

ถูกก่วนฟางอี๋ลากเดินออกไปต่อหน้าต่อตาทุกคน

ความรู้สึกนั้นดูเหมือนหนิวโหย่วเต้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธได้เลย

ถูกลากเดินออกมาได้ไม่เท่าไรก็ถูกก่วนฟางอี๋คล้องแขนไว้อีกครั้ง เหมือนคู่รักที่สนิทสนมรักใคร่!

ลิ่งหูชิวและหงซิ่วยืนทื่ออยู่ตรงนั้น มองตามหลังไปอยู่ครู่หนึ่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกะทันหันไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองยังคงตะลึงกับเหตุการณ์นี้ คล้ายยังไม่ได้สติกลับมา

ขณะที่เดินไปตามทางเท้าสายเล็กที่มีต้นไม้เรียงราย ก่วนฟางอี๋สังเกตเห็นว่าหนิวโหย่วเต้ามีท่าทีจะชักแขนออก นางจึงรีบรัดไว้แน่น “อะไรกัน รังเกียจหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าหงุดหงิดเล็กน้อย กระซิบถามเสียงเบา “ข้าบอกตอนไหนว่าจะแต่งกับเจ้า? คำพูดนี้กล่าวส่งเดชได้หรือ?”

ก่วนฟางอี๋ยิ้มร่าเอ่ยไปว่า “เจ้าจะแก้ตัวให้กระจ่างก็ได้นี่ ข้าไม่ได้อุดปากเจ้าไว้สักหน่อย เจ้าไม่อธิบายเอง จะมาโทษข้าได้หรือ?”

หนิวโหย่วเต้าย้อนถาม “ข้าจะอธิบายได้อย่างไร?”

เรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เจรจาตกลงกันไว้ จนปัญญาจะอธิบาย หากคนหนึ่งบอกใช่ อีกคนบอกไม่จนเกิดพิรุธขึ้นมา นึกว่าคนเขาจะโง่จนดูไม่ออกหรือ?

ก่วนฟางอี๋กล่าวว่า “รู้ตัวว่าไม่สะดวกจะอธิบายก็ดี ในเมื่อจะแสดงทั้งทีก็ต้องแสดงให้สมจริงหน่อย ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะหวังดีต่อเจ้า จากนี้ไปพี่รองคนนั้นของเจ้าต้องเชื่อแน่นอนว่าพวกเรามีความสัมพันธ์กัน ต่อให้ข้าเพิ่มกำลังคุ้มกันเจ้าเขาก็ไม่มีทางสงสัยแน่ ข้าทุ่มเททำงานเพื่อเจ้าขนาดนี้ เหตุใดเจ้าถึงมีท่าทีเนรคุณไม่ซาบซึ้งเล่า?”

“แบบนี้เรียกว่าหวังดีต่อข้าอย่างนั้นหรือ? วันหน้าถึงข้าแก้ตัวอย่างไรก็คงไม่กระจ่างแล้ว”

“จะแก้ตัวไปไยเล่า? เจ้าไปค้างคืนที่เรือนของข้า เดิมทีก็ไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงอยู่แล้วมิใช่หรือ?”

“เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าขอเตือนเจ้าไว้เลยนะ อย่าทำตัววุ่นวาย!”

“ข้าทำตัววุ่นวายหรือ? ข้าไปหาเรื่องเจ้าหรือไง? พวกเราไร้ความคับแค้นบาดหมาง อยู่ดีๆ ก็มาราวีข้าไม่ยอมปล่อย จะลากข้าไปซวยด้วยให้ได้ ก็ดี เช่นนั้นก็ซวยไปด้วยกันเลย! พอตอนนี้ดันมาโทษข้าอีก ลากข้ามาซวยแล้วยังจะกลัวตัวเองเดือดร้อนอีกหรือ?”

ปุ่มที่ 1 ใน 4 สารบัญ

ปุ่มที่ 2 ใน 4 ความคิดเห็น

ปุ่มที่ 3 ใน 4 ตอนก่อนหน้า

ปุ่มที่ 4 ใน 4 ตอนถัดไป

0

“ข้าทำตัววุ่นวายหรือ? ข้าไปหาเรื่องเจ้าหรือไง? พวกเราไร้ความคับแค้นบาดหมาง อยู่ดีๆ ก็มาราวีข้าไม่ยอมปล่อย จะลากข้าไปซวยด้วยให้ได้ ก็ดี เช่นนั้นก็ซวยไปด้วยกันเลย! พอตอนนี้ดันมาโทษข้าอีก ลากข้ามาซวยแล้วยังจะกลัวตัวเองเดือดร้อนอีกหรือ?”

“เจ้าเอาอีกแล้วนะ อย่าออกนอกเรื่อง คุยให้ตรงประเด็น!”

“ได้! คุยให้ตรงประเด็น! มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ข้าติดตามบุกน้ำลุยไฟเพื่อเจ้า? เจ้ากำลังหาประโยชน์จากข้าอยู่ชัดๆ ถ้าเจ้าใช้ประโยชน์เสร็จแล้วถีบหัวส่งข้าจะทำอย่างไรเล่า? เจ้ามีเพียงคำหวานเอาใจไม่กี่ประโยค คำหวานของบุรุษข้าฟังมามากพอแล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดเลย เจ้ามีสิ่งใดเป็นหลักประกันให้ข้าล่ะ? หากทำไม่สำเร็จแล้วข้าซวยไปกับเจ้าด้วยล่ะ? หากทำสำเร็จ ข้าก็ต้องละทิ้งเมืองหลวงแห่งนี้ไป แล้วถ้าเกิดเจ้าถีบหัวส่งขึ้นมา เจ้าว่าข้าควรทำอย่างไรเล่า? คำพูดหวานๆ ไม่กี่ประโยคจะสามารถชดเชยให้ข้าได้หรือ?”

“เจ้าอยากได้หลักประกันอันใดก็มาคุยกันได้ ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล พวกเราเจรจากันดีๆ ได้” หนิวโหย่วเต้าพยายามจะดึงแขนออกจากการกอดรัดของนางอีกครั้ง

“อย่าขยับ!” ก่วนฟางอี๋ออกแรงรั้งไว้ สภาวะของนางสูงกว่าหนิวโหย่วเต้า หนิวโหย่วเต้าออกแรงอยู่หลายครั้งก็ยังชักแขนกลับมาไม่ได้ “ข้าไม่ต้องการหลักประกันอื่น ข้าต้องการเรื่องนี้! เจ้าคิดจะให้ข้าติดตามเจ้าไปบุกน้ำลุยไฟ ได้ ไม่มีปัญหา แต่มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ข้าเดือดร้อน ส่วนตัวเจ้ากลับปลอดภัยไร้ข้อครหา? หากจะซวยก็ต้องซวยไปด้วยกัน ทำให้คนทั่วหล้าได้รู้ว่าเป็นเจ้าที่รับปากว่าจะแต่งกับข้า ข้าถึงได้ยอมติดตามเจ้า ต่อไปหากเจ้ากล้าถีบหัวส่ง กล้าใช้วิธีนี้มาหลอกลวงแม้แต่สตรีอย่างข้า ข้าก็จะทำให้คนทั้งโลกได้เห็นธาตุแท้ของเจ้า! แต่แน่นอน เจ้าวางใจได้ ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาแต่งกับข้าจริงๆ หรอก เรื่องแบบนี้จะมาบังคับใจกันก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

พอใคร่ครวญความนัยที่แฝงอยู่ในวาจานี้แล้ว หนิวโหย่วเต้าพลันขนลุกขึ้นมา

ขณะที่เอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ก่วนฟางอี๋ยังคงยิ้มละไมอยู่ ท่าทางดูใกล้ชิดสนิทสนมเป็นอย่างมาก ในมุมมองของคนนอกที่ไม่ทราบเรื่องราวคงนึกว่าทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันหวานชื่นตามประสาคู่รัก

….

พอกลับมาถึงเรือนพำนัก ลิ่งหูชิวก็ส่ายหน้าทันที “ยังหนุ่มยังแน่น เหตุใดถึงทำเช่นนี้กัน? น่าอับอาย!”

หงฝูที่อยู่เฝ้าปีกทองเดินเข้ามาหา พอเห็นเขามีท่าทีเช่นนี้ก็อดถามไม่ได้ “นายท่าน เหตุใดจึงโมโหคับข้องใจเช่นนี้ล่ะเจ้าคะ?”

หงซิ่วยิ้มเจื่อนเอ่ยไปว่า “หนิวโหย่วเต้าจะแต่งกับก่วนฟางอี๋!”

“ห๊า!” หงฝูตกใจไม่เบา สีหน้าเหลือจะเชื่อ “เขาเพียงอยากเล่นสนุกมิใช่หรือ? เหตุใดถึงจริงจังขึ้นมาได้?”

ตอนนี้แม้แต่ตัวนางที่เป็นสตรีคนหนึ่งก็ยังคิดว่าหนิวโหย่วเต้าแค่เล่นสนุกกับก่วนฟางอี๋เท่านั้น จะแต่งเป็นภรรยาได้อย่างไร?

“เฮ้อ! ปัญหาสำคัญคือก่วนฟางอี๋เห็นหนิวโหย่วเต้าเป็นแก้วตาดวงใจไปแล้ว กลัวว่าทางฝั่งจินอ๋องจะลงมือกับเขา ส่งลูกน้องมาคอยติดตามคุ้มกันหนิวโหย่วเต้า…” หงซิ่วบอกเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด

หงฝูตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องราวได้ทันที เรื่องที่จะลงมือสังหารในเมืองหลวงอย่างโจ่งแจ้งแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลย หากหนิวโหย่วเต้ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายตลอด เช่นนั้นก็แปลว่าทางนี้จะไม่มีโอกาสลงมือกับหนิวโหย่วเต้าเลยมิใช่หรือ? “เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”

หงซิ่วอดไม่ได้ที่จะกระซิบด่าเสียงเบา “นังหญิงชั้นต่ำก่วนฟางอี๋ สู้อุตส่าห์วางแผนเตรียมการไว้หลายตลบ แต่ต้องมาเกิดปัญหาเพราะไม่คิดว่าหญิงชั้นต่ำส่ำส่อนอย่างนางจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้! หนิวโหย่วเต้าคนนั้นก็ยิ่งไม่ได้เรื่อง ไม่น่าเชื่อว่าสตรีเหลวแหลกเช่นนี้ก็ยังจะเอา!”

“เฮ้อ!” ลิ่งหูชิวส่ายหน้าทอดถอนใจ “ถึงแม้จะรู้ดีว่าบนโลกนี้มีคนบางส่วนที่มีรสนิยมความชอบค่อนข้างพิเศษ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่ใกล้ตัวข้าด้วย หนำซ้ำข้ายังไปสาบานเป็นพี่น้องกับเขาอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน!”

หงซิ่วเอ่ยว่า “นายท่าน นั่นเป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับพวกเรา ประเด็นสำคัญคือ พอก่วนฟางอี๋สอดมือเข้ายุ่งเช่นนี้ พวกเราจะไม่สามารถทำภารกิจที่เบื้องบนมอบหมายมาได้สำเร็จนะเจ้าคะ!”

ลิ่งหูชิวยกมือนวดหน้าผาก เรื่องนี้ทำให้เขาปวดหัวจริงๆ ถึงหลับฝันก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เขายกมือออกแล้วกล่าวว่า “รอดูสถานการณ์ไปก่อน ดูว่าจะมีโอกาสลงมือหรือไม่ หากว่าไม่ได้จริงๆ ก็รายงานขึ้นไป ดูว่าเบื้องบนจะตัดสินใจอย่างไร!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า