ตอนที่ 344 ไม่ลงทุนอะไรเลย
“เชิญ!” พวกสวี่เหล่าลิ่วเข้ามาเชิญลิ่งหูชิวออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
ลิ่งหูชิวไม่ยอม พวกสวี่เหล่าลิ่วกรูกันเข้ามาทันที คิดจะบังคับผลักดันให้เขาออกไป ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่กล้าลงไม้ลงมือในเมืองหลวงแห่งนี้
เอาจริงหรือ? ลิ่งหูชิวค่อนข้างร้อนใจขึ้นมาแล้ว
เขาอยากเชือดหนิวโหย่วเต้าทิ้งใจแทบขาด ทว่ายังมีภารกิจอยู่ จำต้องอดทนไว้ก่อน จึงตะโกนขึ้นมาว่า “น้องสาม ข้าสู้ลำบากลำบนช่วยทำงานให้เจ้า เจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้ เจ้ายังมีมโนธรรมอยู่หรือเปล่า!”
เขารู้ดีว่าหนิวโหย่วเต้าให้ความสำคัญกับเรื่องกำจัดเว่ยฉู ตั้งใจเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เป็นอย่างที่คาดไว้ หนิวโหย่วเต้าที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนพลันชูแขนปรามแล้วตะโกนว่า “ช้าก่อน”
พวกสวี่เหล่าลิ่วหันมามอง หนิวโหย่วเต้ารีบเดินเข้าไปหา เอ่ยถามว่า “พี่รอง จัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วจริงๆ หรือ?”
ลิ่งหูชิวชี้พวกสวี่เหล่าลิ่วที่กำลังคุมตัวเขาอยู่พลางเอ่ยเสียงกร้าว “เจ้าจะให้ข้าคุยในสภาพนี้หรือ?”
หนิวโหย่วเต้ายิ้มแห้งๆ เอ่ยไปว่า “ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะกลัวพี่ใหญ่หุนหันพลันแล่นมิใช่หรือ?”
ลิ่งหูชิวกล่าวว่า “ก็แค่สาวใช้สองคนเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าจะเห็นแก่สตรีมากกว่าพี่น้องหรือ?”
หนิวโหย่วเต้าพลันตื่นตัวขึ้นมา ปรบมือพร้อมเอ่ยชื่นชม “พี่รองกล่าวได้ดี สตรีเหมือนอาภรณ์ พี่น้องดั่งแขนขา อาภรณ์ผลัดเปลี่ยนได้แต่แขนขาขาดไม่ได้ ข้าว่าแล้วว่าพี่รองไม่มีทางเข้าใจผิดแน่!”
ลิ่งหูชิวผงะไปเล็กน้อย คำพูดนี้มันอะไรกัน?
“หวา! พูดจากลับกลอกเสียจริง สตรีเหมือนอาภรณ์ ที่แท้ก็พูดได้คล่องปากถึงเพียงนี้!” ก่วนฟางอี๋ที่เดินตามมาหัวเราะหยัน เสียงหัวเราะเย็นชาข่มขวัญคน
ทันทีที่หนิวโหย่วเต้าได้ยินก็เหงื่อตกทันที รีบหันกลับไปอธิบาย “หมายถึงสาวใช้ แค่สาวใช้เท่านั้น”
ก่วนฟางอี๋ถามกลับ “ข้าก็เหมือนลงนามขายตัวให้เจ้าด้วยมิใช่หรือ?”
หนิวโหย่วเต้าขยิบตาเตือนนางทีหนึ่ง “เจ้าต่างจากพวกนาง”
ก่วนฟางอี๋กลับแสร้งไขสือ “เจ้าเตรียมจะแต่งกับข้าเมื่อใดเล่า ไม่มีการระบุเวลาที่แน่ชัดไว้เช่นกัน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าข้าไม่เหมือนพวกนาง มิสู้พวกเรามากำหนดเรื่องวิวาห์กันก่อนเป็นอย่างไร?”
เวลานี้สตรีนางนี้ยังจะมาก่อปัญหาอันใดอีก! หนิวโหย่วเต้าบ่นในใจ ไม่ยอมตอบ หากแต่หันไปผลักตัวพวกสวี่เหล่าลิ่วออกไป “หลีกๆ หลีกไปให้หมด” ช่วยลิ่งหูชิวออกมา
หลังจากพวกสวี่เหล่าลิ่วถอยออกไปแล้ว หนิวโหย่วเต้าเอ่ยถาม “พี่รอง หาคนได้แล้วจริงๆ หรือ?”
ลิ่งหูชิวสะบัดเสื้อผ้าที่ถูกดึงจนยับยุ่งพลางเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย “ก็ต้องจริงน่ะสิ ข้าเคยหลอกเจ้าเสียที่ไหน?”
หนิวโหย่วเต้ากล่าวไปว่า “พี่รอง เรื่องนี้เกรงว่าคงทำให้ท่านต้องเหนื่อยเปล่าเสียแล้ว เรื่องเว่ยฉูพอเท่านี้เถิด ไปยกเลิกงานกับผู้ลงมือเสีย ถือเสียว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น”
ลิ่งหูชิวตะลึงงัน เอ่ยด้วยความฉงน “เพราะเหตุใด? เจ้าก็รู้มิใช่หรือว่าหากเว่ยฉูไม่ตาย เจ้าก็ยากจะไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ได้?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “หลายวันมานี้ได้หงเหนียงคอยเกลี้ยกล่อม ข้าเก็บมาคิดๆ ดูแล้ว เรื่องทางจังหวัดชิงซานข้าไม่อยากยุ่งแล้ว นับจากนี้ไปข้าอาศัยอยู่ในเมืองหลวงแคว้นฉีคงดีกว่า”
ลิ่งหูชิวมองก่วนฟางอี๋ด้วยความตกตะลึง ไม่รู้เลยว่าสตรีนางนี้ไปพูดหว่านล้อมเช่นไร
ก่วนฟางอี๋โบกพัดกลมกล่าวไปว่า “ข้าบอกเขาไปชัดเจนแล้วว่าขอเพียงเขาแต่งกับข้า คนของข้าก็จะเป็นคนของเขา ทรัพย์สินทั้งหมดของข้าก็จะเป็นทรัพย์สินของเขาด้วยเช่นกัน สิ่งที่ซางเฉาจงมอบให้เขาอาจจะสู้ข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ หากกลับไปทำธุรกิจแบบเดิมอีกครั้ง วันหน้าย่อมไม่ขาดแคลนทรัพยากรบำเพ็ญเพียร อีกอย่างจังหวัดชิงซานก็เป็นเขตชนบทแร้นแค้นมีอะไรน่าไปอยู่กัน ข้าเคยชินกับความเจริญในเมืองหลวงแคว้นฉีแล้ว สถานที่กันดารเช่นนั้นข้าอยู่ไม่ได้แน่ ดังนั้นไม่ไปเสียก็จบ”
ที่แท้ก็เป็นฝีมือของสตรีนางนี้! ลิ่งหูชิวโมโหเล็กน้อย เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไหนเลยจะยอมปล่อยให้หนิวโหย่วเต้ารามือได้ เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “น้องสาม เจ้าหลอกข้าเล่นกระมัง ข้าหาคนได้แล้ว เงินข้าก็จ่ายไปแล้ว ตอนนี้เจ้ากลับไม่เอาแล้วอย่างนั้นหรือ?”
หนิวโหย่วเต้าถาม “ท่านจ่ายไปแล้วหรือ? เป็นเงินเท่าไร?”
ลิ่งหูชิวตอบว่า “ต่อรองเรื่องราคามาแล้ว ตกลงกันที่หนึ่งล้านเหรียญทอง!”
หนิวโหย่วเต้าถามด้วยความตกใจ “งานยังไม่ทันสำเร็จท่านก็จ่ายเงินหนึ่งล้านเหรียญทองให้แล้วหรือ?”
ลิ่งหูชิวตอบว่า “มัดจำก่อนครึ่งหนึ่ง หลังเสร็จงานค่อยจ่ายอีกครึ่งที่เหลือ ซึ่งข้าจ่ายเงินมัดจำครึ่งหนึ่งไปแล้ว!”
หนิวโหย่วเต้าเงียบไปครู่หนึ่ง หันกลับไปเอ่ยกับก่วนฟางอี๋ “หงเหนียง จะปล่อยให้พี่รองเสียเงินนี้ไปไม่ได้ เอาเช่นนี้แล้วกัน เจ้าออกเงินห้าแสนเหรียญทองให้พี่รองไปก่อน!”
“ข้าต้องให้เงินเขาหรือ? เขาจะได้เอาเงินไปให้นังแพศยาสองคนนั้นน่ะหรือ? ฝันไปเถอะ!” ก่วนฟางอี๋แค่นเสียงเหอะพลางสะบัดหน้าหนี
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ถือว่าข้ายืมเจ้าแล้วกัน! ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้แล้วมิใช่หรือ?”
ก่วนฟางอี๋พูดอย่างไม่ไว้หน้า “ก่อนหน้านี้คือก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่นับแล้ว!”
นางแสดงออกชัดเจนว่าขุ่นเคืองหงซิ่วหงฝู
“น้องหนิว ขอคุยกับแบบส่วนตัวหน่อย!” ลิ่งหูชิวเชิญหนิวโหย่วเต้าออกมาคุยกันด้านข้าง กระซิบถามว่า “เจ้าคิดจะเกาะสตรีกินอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
หนิวโหย่วเต้าถามกลับ “ไยจึงพูดจาน่าเกลียดเช่นนี้เล่า คิดว่าวันหน้าข้าจะหาเลี้ยงนางไม่ได้หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า