ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 394

ตอนที่ 394 ความแตก

องครักษ์ติดตามที่อยู่ด้านนอกรถม้ารีบตามไปทันที

เด็กสาวกระโดดลงมาจากรถม้าเช่นกัน ไล่ตามไปด้วยสีหน้าร้อนใจ นึกเสียใจว่าไม่ควรบอกความจริงเลย

พื้นที่รอบร้านเต้าหู้ถูกฮูเหยียนเวยกว้านซื้อไว้หมดแล้ว ตั้งเป็นสถานที่ดำเนินการของร้านเต้าหู้ ตรอกตรงกลางเส้นหนึ่งที่ทอดตัวเข้ามาในพื้นที่แถบนี้มีคนคอยเฝ้าอยู่

“ท่านลูกค้า ไม่ทราบว่าตามหาผู้ใดอยู่หรือขอรับ?” คนเฝ้าตรอกเข้ามาขวางไว้

ผัวะ! เฮ่าชิงชิงไม่พูดไม่จา ยกเท้าถีบออกไป ถีบจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไป

…..

ภายในป่าเล็กๆ หยวนกังถือดาบง้าวเล่มหนึ่งเอาไว้ เป็นดาบที่ฮูเหยียนเวยช่วยหามาให้เขา แล้วก็เป็นสิ่งที่เขาขอร้องให้ฮูเหยียนเวยช่วยเป็นธุระจัดหาให้

หลังจากที่ดาบหักไปในครั้งก่อน เขาก็อยากได้ดาบดีๆ สักเล่ม ฮูเหยียนเวยมาครั้งนี้ก็ถือโอกาสนำดาบมาส่งให้ด้วย

ดาบง้าวเล่มนี้ดูไม่ธรรมดา ดูเก่าแก่มีความขลัง น้ำหนักตึงมือ คาดว่าจะหนักกว่าดาบเล่มเก่าที่เขาเคยประมาณสามเท่า

สันดาบก็กว้างกว่าเล็กน้อย บนสันดาบมีลวดลายพยัคฆ์เพรียวยาวสามตัวเรียงเชื่อมจากโคนจรดปลาย ตัวหนึ่งอยู่ในท่าปีนป่ายอ้าปากคำรามอย่างเกรี้ยวกราด อีกตัวหนึ่งสี่ขาอ้ากางเหินทะยาน ส่วนตัวที่อยู่ชิดกับด้ามดาบอยู่ในท่าพยัคฆ์หมอบคล้ายกำลังนอนหลับอยู่

ตามคำบอกเล่าของฮูเหยียนเวย ดาบเล่มนี้มีนามว่า ‘ดาบสามคำราม’ หากฟันออกไปด้วยพละกำลังที่มากพอจะทำให้เกิดเสียงพยัคฆ์คำรามขึ้น โดยสามารถทำให้เกิดเสียงพยัคฆ์คำรามแตกต่างกันไปสามระดับตามพละกำลังที่ใช้ ยามที่ใช้ต่อสู้ในสนามรบจะทรงพลังน่าครั่นคร้ามเป็นยิ่งนัก!

ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นเป็นแม่ทัพใหญ่ ในบ้านมีอาวุธดีๆ เก็บสะสมไว้ไม่น้อย ดาบเล่มนี้เป็นหนึ่งในดาบล้ำค่าที่ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นเก็บสะสมไว้ พอได้ยินว่าหยวนกังต้องการดาบดีๆ สักเล่มหนึ่ง ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นก็สั่งให้ฮูเหยียนเวยนำดาบเล่มนี้มาส่งให้เขา

“เหมาะมือหรือไม่? ข้าถือแล้วรู้สึกว่าหนักเกินไป” ฮูเหยียนเวยเห็นหยวนกังดูชื่นชอบจนไม่ยอมวางก็ถามออกไป

หยวนกังลูบดาบแล้วพยักหน้ารับ “ดาบดี!”

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ พลันมีเสียงต่อสู้อึกทึกครึกโครมแว่วเข้ามาจากด้านนอก ตามมาด้วยเสียงนกหวีดดัง ‘ปี๊ดๆ’ ขึ้นมา นี่คือสัญญาณเตือนภัยของทางนี้ หยวนกังหันขวับไปในทันใด พุ่งตัวออกไปทันที

ฮูเหยียนเวยย่อมได้ยินเสียงต่อสู้ด้วยเช่นกัน เขาลุกขึ้นมาพลางหัวเราะเฮอะๆ “เวรเอ้ย ผู้ใดกันที่หน่ายจะมีชีวิตแล้ว ถึงได้มาสร้างปัญหาที่นี่?”

เขาถลกแขนเสื้อสองข้างขึ้น เดินอาดๆ ออกไป ท่าทางองอาจฮึกเหิม

ภายในตรอก คนกลุ่มหนึ่งถือท่อนไม้กรูเข้ามาขัดขวางไว้ มีหลายคนล้มกองอยู่บนพื้น

เฮ่าชิงชิงถือกระบี่ทาบจ่อคอคนงานคนหนึ่งของร้านเต้าหู้ไว้ บังคับถามว่าฮูเหยียนเวยอยู่ที่ใด ที่นี่มีบ้านเรือนห้องหับมากมายปานนี้ นางเองก็ไม่รู้ว่าฮูเหยียนเวยอยู่ที่ไหนกันแน่

ฝ่าซือติดตามของฮูเหยียนเวยเองก็เข้าขัดขวางเช่นกัน โน้มน้าวไม่ให้เฮ่าชิงชิงก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่

ฝ่าซือติดตามของเฮ่าชิงชิงก็กำลังโน้มน้าวไม่ให้นางก่อเรื่องขึ้นเช่นกัน มีคนเอ่ยเตือนนางเป็นนัยๆ ว่าแม่ทัพฮูเหยียนอู๋เฮิ่นให้ความสำคัญกับเถ้าแก่ร้านเต้าหู้แห่งนี้มาก

แต่เฮ่าชิงชิงกลับไม่นำพา ทำตามอำเภอใจตน กระบี่ในมือกดลงไปบนลำคอของคนงานคนนั้นจนปรากฏรอยเลือด นางมองคนที่รุมล้อมอยู่รอบๆ ด้วยสายตาเย็นชาพลางเอ่ยข่มขู่ “หากยังไม่ยอมพูดข้าจะตัดหัวเขาซะ!”

จู่ๆ กลุ่มคนที่ขวางทางอยู่ก็แยกตัวออกไปยืนสองฝั่งซ้ายขวา หยวนกังที่ถือดาบง้าวไว้ในมือปรากฏตัวขึ้นมาจากด้านหลังของกลุ่มคน

เฮ่าชิงชิงที่ถือกระบี่จ่อคอคนงานอยู่เงยหน้ามองออกไป สีหน้าแข็งค้างขึ้นมาทันที ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออ้าเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ จ้องหยวนกังเขม็ง

เมื่อหยวนกังเห็นนางก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน ขมวดคิ้วนิดๆ อุทานในใจว่าแย่แล้ว เขามองไปยังร่างของเหล่าลูกน้องหลายคนที่ล้มคว่ำอยู่บนพื้น หันไปเอ่ยสั่งการเล็กน้อย “ถอยไปให้หมด หมดหน้าที่ของพวกเจ้าแล้ว”

“ผู้ใดกันที่หาญกล้าโอหัง กล้ามา…” ฮูเหยียนเวยที่เดินอาดๆ เข้ามาร้องตะโกนเสียงดัง ทว่าหลังจากเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครเสียงก็ขาดหายไปทันที ใบหน้ากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย แต่หลังจากมองไปที่หยวนกังก็เกิดความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง ทราบดีว่าบิดาตนให้ความสำคัญกับหยวนกัง จึงถือโอกาสระบายความแค้นทันที ชี้หน้าเฮ่าชิงชิงแล้วเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าทำอะไรน่ะ?”

เฮ่าชิงชิงเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมลดดาบออกจากลำคอของคนงาน เหลือบมองไปที่หยวนกังด้วยสายตาซับซ้อนเป็นครั้งคราว

เมื่อเหล่าคนงานได้ยินคำสั่งของหยวนกังก็พากันล่าถอยกลับไป สถานที่เกิดเหตุที่มีคนเนืองแน่นดูโปร่งขึ้นมาไม่น้อยทันที

“อันซยง นี่คือนางมารร้ายที่ทำตัวเกเรมาแต่เล็กจนติดเป็นนิสัย ชอบก่อเรื่องวุ่นวายเสมอ เจ้าอย่าได้ถือสาเลย” ฮูเหยียนเวยทำทีคล้ายจะช่วยขออภัยแทนภรรยาของตนอย่างใจกว้าง แต่ความจริงแอบด่าเหน็บแนมไปยกใหญ่

เฮ่าชิงชิงแยกเขี้ยวทันที ยกดาบจ่อชี้ “เจ้าว่าใครเป็นนางมารร้าย? ไหนเจ้าลองพูดอีกทีสิ!” นางเดินอาดๆ เข้ามา ยกกระบี่ขึ้นมาทำท่าเหมือนจะฟันเขา

“ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าก่อเรื่องจะดีกว่า!” ปากฮูเหยียนเวยร้องตะโกนออกไป ทว่าตัวคนกลับลนลานรีบหดไปหลบด้านหลังหยวนกัง

สามีภรรยาคู่นี้ช่างทำให้คนทนไม่ได้เสียจริง!

ฝ่าซือติดตามของทั้งสองฝ่ายก็ปวดหัวเช่นกัน แต่ไม่อาจปล่อยให้นางทำอะไรฮูเหยียนเวยได้ จึงพากันเข้าไปยืนขวางคั่นกลางไว้พลางขอให้องค์หญิงท่านนี้คลายโทสะลง

หยวนกังลดดาบในมือที่ยกตั้งขึ้นมาลงไป ไม่สนใจเช่นกันว่าฮูเหยียนเวยที่อยู่ด้านหลังจะเป็นอย่างไร หันหลังเดินจากไปอย่างเชื่องช้า

เสียงทะเลาะต่อเถียงดังลั่นตรอกอยู่พักหนึ่ง ฮูเหยียนเวยตะโกนว่าจะกลับไปฟ้องเรื่องนาง จากนั้นก็ไถลตัวเลาะกำแพงแล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ฝ่าซือติดตามของฮูเหยียนเวยก็จากไปเช่นกัน

“องค์หญิง พวกเราก็กลับกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ฝ่าซือติดตามของทางนี้ก็เอ่ยโน้มน้าวเช่นกัน

ฉึบ! กระบี่ถูกสอดกลับเข้าฝัก เฮ่าชิงชิงหันหลังเดินมุ่งหน้าไปทางเรือนที่หยวนกังเดินเข้าไปหลังนั้น

ฝ่าซือติดตามคนหนึ่งยื่นมือออกไปขวางทันที “องค์หญิง จะหาเรื่องเจ้าของที่นี่ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ หากทำให้ท่านแม่ทัพใหญ่โมโหขึ้นมา เกรงว่าแม้แต่ฮองเฮาก็ช่วยพูดให้พระองค์ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

เฮ่าชิงชิงกล่าวว่า “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่จะไปถามเจ้าของที่นี่ว่าไอสารเลวคนนั้นมาทำอะไรอยู่ที่นี่…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า