ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 450

ตอนที่ 450 กราบอาจารย์

ถังอี๋จดๆ จ้องๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “หลายปีมานี้ได้รับความเมตตาและเอาใจใส่จากคุณชายใหญ่ สำนักสวรรค์พิสุทธิ์อยู่กินเปล่าๆ ไร้ผลงานช่างน่าละอาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่มีหน้าไปพบบรรพจารย์รุ่นก่อนๆ ของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ได้ ละอายใจต่อคุณชายใหญ่…”

สีหน้าสงบราบเรียบ แต่ภายในใจกลับค่อนข้างประหม่า หลายปีมานี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ผู้บำเพ็ญเพียรอย่างนางถึงได้ค่อนข้างหวาดหวั่นในตัวเซ่าผิงปอที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง นางกังวลใจมาตลอดว่าหากเซ่าผิงปอไม่ยอมปล่อยสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไปล่ะก็ นางสมควรจะทำอย่างไรดี

แววตาเซ่าผิงปอวูบไหว ตระหนักได้ทันทีว่านางกำลังจะพูดอะไร จึงยิ้มแล้วเอ่ยตัดบททันที “ขอเพียงสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ยังอยู่ ก็เป็นการตอบแทนที่ดีที่สำหรับข้าแล้ว ตอนนี้ทำให้สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ต้องลำบาก แต่ข้ายังมีแผนการในระยะยาวอยู่ วันหน้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการกำลังของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ เมื่อถึงเวลานั้นสำนักสวรรค์พิสุทธิ์จะไม่ขาดแคลนทรัพยากรบำเพ็ญเพียรอีก ข้ารับประกันกับท่านได้!”

ถึงแม้สถานการณ์ของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ในยามนี้จะมีผลมาจากสำนักเขามหายาน แต่ก็เป็นเพราะมีเขาคอยกดดันด้วย เดิมทีเขาคิดจะค่อยๆ ต้อนสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ให้เข้าสู่ทางตันอย่างช้าๆ ตั้งใจบีบให้ท้ายที่สุดถังอี๋ยอมประนีประนอมด้วยการแต่งงานด้วย เพียงแต่สำนักสวรรค์พิสุทธิ์รับรู้ไม่ได้ถึงความชั่วร้ายของเขา คิดเพียงแต่ว่าเป็นเพราะสำนักเขามหายานเท่านั้น เขาเองก็ไม่มีทางเผยความเลวร้ายอันใดที่จะทำให้ถังอี๋รังเกียจออกมา โยนความผิดบาปทั้งหมดให้สำนักเขามหายานไป

เขาไม่มีทางปล่อยให้ถังอี๋และสำนักสวรรค์พิสุทธิ์จากไป เขามั่นใจว่าจ้าวสยงเกอยังมีไมตรีกับทางนี้อยู่

ถังอี๋เงียบไปเล็กน้อย หากว่าได้ยินประโยคนี้เร็วกว่านี้สักหน่อย บางทีตัวนางที่กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ควรจะเดินไปทางไหนดีก็อาจจะลองสอบถามดูว่าหลังจากนี้มีแผนการใดที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์บ้าง แต่การที่จ้าวสยงเกอตั้งใจปรากฏตัวขึ้นเพื่อชี้แนะได้ชี้เส้นทางให้แก่ทางนี้แล้ว ตัวนางก็ตัดสินใจไปแล้วเช่นกัน ไม่มีทางคิดจะเสียเวลาอยู่ต่อเพื่อรอคอยอนาคตที่ไม่ทราบแน่ชัดอีกต่อไป

ถังอี๋เอ่ยปฏิเสธอย่างละมุนละม่อม “น้ำใจของคุณชายใหญ่ข้ารับไว้ด้วยใจ นี่คือการตัดสินใจของทุกคนในสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ มาครั้งนี้ก็เพื่อมาอำลาคุณชายใหญ่”

เซ่าผิงปอไม่ยอมรับเรื่องกล่าวอำลา เขายิ้มน้อยๆ เอ่ยไปว่า “ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของทุกคนในสำนัก เช่นนั้นข้าจะไปพบกับฝ่าซือทุกท่าน เรื่องพูดโน้มน้าวยกให้เป็นหน้าที่ให้ข้าเถิด ไม่มีทางปล่อยให้ท่านลำบากใจแน่” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน ผายมือเชิญถังอี๋ให้กลับไปที่สำนักสวรรค์พิสุทธิ์พร้อมกัน

ถังอี๋ก็ลุกตามขึ้น เอ่ยอย่างค่อนข้างลำบากใจ “คุณชายใหญ่…”

ขณะเพิ่งจะเอ่ยปากก็มีเสียงเรียก “คุณชายใหญ่” แว่วเข้ามาพร้อมกัน เซ่าซานเสิ่งเดินกระวีกระวาดเข้ามา ยืนอยู่นอกศาลาแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

“รอสักครู่” เซ่าผิงปอเอ่ยอย่างสุภาพ รู้ดีว่าเซ่าซานเสิ่งไม่มีทางเข้ามารบกวนอย่างไร้เหตุผลในสถานการณ์เช่นนี้ เขาหันหลังเดินออกไปภายใต้สายตาของถังอี๋

สองนายบ่าวเลี่ยงออกไปพบกันด้านข้าง เซ่าซานเสิ่งกระซิบกระซาบอยู่ข้างหูเซ่าผิงปอครู่หนึ่ง

พอได้ฟังรายงาน สีหน้าเซ่าผิงปอแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เหลือบตามองร่างอ้อนแอ้นเพรียวบางที่อยู่ในศาลาทันที มุมปากกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย

ข่าวที่เซ่าซานเสิ่งมารายงายเป็นรายงานด่วนจากกองทัพนอกเมือง บอกว่ามีทหารอยู่ในป่าที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ เจอสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง สัตว์ร้ายบุกเข้ามาในค่ายทหาร อาวุธฟันแทงไม่เข้า ทำให้ทหารบาดเจ็บไปไม่น้อย ศิษย์สำนักเขามหายานที่มุ่งหน้าไปจัดการก็ทำได้เพียงขับไล่สัตว์ร้ายออกไปเท่านั้น ไม่กล้าทำอะไรสัตว์ร้าย บอกเพียงว่าสัตว์ร้ายตัวนี้คือโห่วขนทอง เจ้าของที่อยู่เบื้องหลังไม่ธรรมดา ไม่สมควรล่วงเกิน!

พอได้ยินว่าโห่วขนทอง เซ่าผิงปอก็นึกเชื่อมโยงไปถึงใครบางคนทันที เขาให้ความสนใจจ้าวสยงเกอ จะไม่ทราบได้อย่างไรว่าสัตว์พาหนะของจ้าวสยงเกอคือโห่วขนทอง

……

ณ ประตูตะวันออกของเมืองเป่ยโจว ขบวนคนหลายร้อยชีวิตมุ่งหน้าออกจากเมือง เดินทางจากไป

สำนักสวรรค์พิสุทธิ์จากไปแล้ว ในที่สุดก็ได้ออกจากเมืองเป่ยโจวที่ติดอยู่มานานหลายปี

หลังบานหน้าต่างของหอคอยบนกำแพงเมืองที่ปิดไว้ครึ่งหนึ่ง เซ่าผิงปอที่สวมเสื้อคลุมกันลมเฝ้ามองคณะเดินทางอย่างเงียบๆ

ไม่ใช่ว่าเขาอยากปล่อยสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไป แล้วก็มิใช่เพราะเขาไม่มีวิธีรั้งถังอี๋ไว้ หากแต่เป็นเพราะเขาไม่กล้าหน่วงเหนี่ยวไว้ แล้วก็ไม่กล้ายื้อให้อยู่ต่อ

ขณะที่ถังอี๋มากล่าวอำลาในจวนผู้ว่าการมณฑล โห่วขนทองของจ้าวสยงเกอก็ปรากฏตัวขึ้นนอกเมือง นี่จะใช่เรื่องบังเอิญหรือ? โห่วขนทองบุกเข้าไปในค่ายทหารทำร้ายไพร่พลในสังกัดเขา นี่ไม่ใช่เจตนาดีแน่นอน เขารับรู้ได้ถึงคำเตือนที่แฝงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

จ้าวสยงเกอมิใช่ถังอี๋ แล้วก็ไม่ใช่คนที่เขาจะจัดการได้ด้วยกำลังที่มีอยู่ในขณะนี้ แม้แต่สำนักเขามหายานก็ยังไม่กล้าล่วงเกินจ้าวสยงเกอ แผนการที่วางมานานหลายปีเมื่อเผชิญกับพลังที่แข็งแกร่งก็สลายหายวับไปในชั่วพริบตา

“แค่กๆ…” เซ่าผิงปอที่ทอดตามองออกไปไกลพลันไอแค่กๆ ขึ้นมา กำมือป้องปากไว้

เซ่าซานเสิ่งก้าวเข้ามาลูบหลังให้เขาทันที

หลังจากลมหายใจปลอดโปร่งแล้ว เซ่าผิงปอที่โก่งหลังไออยู่ก็เหยียดเอวขึ้นมา เอ่ยว่า “ส่งลู่เซิ่งจงไปจับตามอง ดูว่าสำนักสวรรค์พิสุทธิ์จะไปที่ใด”

เขาอยากรู้ว่าสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ยังจะไปไหนได้ จ้าวสยงเกอที่มีสถานะชวนกระอักกระอ่วนเช่นนั้นจะช่วยสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไปที่ไหนได้ไอรีนโนเวล

“ขอรับ” เซ่าซานเสิ่งตอบรับ

ฝุ่นฟุ้งตลบไปตลอดเส้นทางหลวง ถังอี๋ที่ควบม้านำหน้าอยู่รู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง ในที่สุดก็รอดพ้นจากสถานที่ที่ทำให้นางรู้สึกอับจนหนทางแห่งนี้แล้ว ราวกับหลุดพ้นออกมาจากบึงโคลน แม้เส้นทางเบื้องหน้าจะยังพร่ามัว แต่กลับสบายตัวขึ้นมาก

เรื่องค่ายทหารนอกเมืองถูกสัตว์ร้ายเข้าโจมตีตัวนางก็ได้ทราบในภายหลังเช่นกัน หลังจากทราบว่าเป็นโห่วขนทอง ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเมื่อวานจู่ๆ เซ่าผิงปอก็เปลี่ยนท่าทีไปอย่างกะทันหัน ไม่ฝืนรั้งตัวนางไว้อีก ที่แท้อาจารย์อาออกโรงแล้ว!

เรื่องนี้ทำให้นางค่อนข้างตื่นเต้นอยู่ภายในใจ ศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกาลก่อนของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ยังไม่ทอดทิ้งสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไป หาได้ปล่อยให้สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังโดยไม่เหลียวแล

ในอดีตสำนักเซียนสถิตบุกโจมตีกะทันหัน ขณะที่สำนักกำลังจะถูกกวาดล้าง โห่วขนทองก็ปรากฏตัวขึ้นข่มขวัญศัตรูให้ล่าถอยไป!

ยามนี้ก็ใช้โห่วขนทองดึงดูดนางไปพบเพื่อชี้ทางให้นาง!

หลังจากนั้นก็ส่งโห่วขนทองไปปรากฏตัวข่มขวัญเซ่าผิงปอ!

เมื่อตระหนักได้ว่าเบื้องหลังสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ยังมีที่พึ่งอันยิ่งใหญ่เช่นนี้อยู่ จิตใจถังอี๋จึงเปี่ยมด้วยความฮึกเหิม มีความมั่นใจพร้อมจะเผชิญหน้ากับปัญหายากลำบากทุกอย่าง!

….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า