ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 464

ตอนที่ 464 คลื่นอสูร

แม้ว่าสถานที่ซ่อนตัวจะอยู่ค่อนข้างห่างจากจุดที่ทำการค้นหา แต่สถานที่แห่งนี้เงียบสงัดเป็นอย่างมากจริงๆ ทำให้เสียงคำรามและกรีดร้องจากโพรงไม้ยังคงดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ให้เข้ามาใกล้ทางด้านนี้

“อาจารย์ ทางนั้นมีเสียงความเคลื่อนไหวขอรับ!” ศิษย์คนหนึ่งของหม่าจินทะยานกลับมารายงาน ชี้นิ้วไปทางโพรงไม้ที่อยู่ไกลออกไป

สายตาของทุกคนกวาดมองไป หม่าจินโบกมือส่งสัญญาณ กลุ่มคนจึงมุ่งหน้าไปทางโพรงต้นไม้ทันที

พวกเขายังไม่ทันเข้าใกล้ อสูรโลหิตก็พุ่งออกมาจากโพรงไม้เสียง ร่อนลงบนกิ่งไม้ที่อยู่ตรงปากโพรง สองปีกค่อยๆ กางออก แสงสีแดงเปล่งออกมาจากตามลวดลายปีก

อสูรโลหิต! ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ที่ล้อมวงเข้ามาชะงักไป หม่าจินเผยมีสีหน้าตึงเครียดขึ้นมา คอยเฝ้าระวังอย่างจริงจัง

พรึบ! ปีกผีเสื้อที่ค่อยๆ กางออกพลันกางออกอย่างเต็มที่ แสงสีแดงสาดส่องออกมา อสูรโลหิตกระพือปีกทะยานขึ้นสู่ฟ้า กรีดร้องดัง “กี้ดๆ” ออกมาไม่หยุด

ไม่นานนัก เกิดเสียง “กี้ดๆ” แว่วดังระงมต่อกันเป็นทอดๆ ทั้งในละแวกใกล้เคียงและห่างไกลออกไป ขยายขอบเขตออกไปเป็นวงกว้าง

คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ที่เข้ามาล้วนได้รับการฝึกอบรมรับมือกับสถานการณ์มาก่อน เพียงแค่เห็นก็รู้ทันทีว่าอสูรโลหิตตัวนี้กำลังเรียกระดมเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์อยู่

พอได้ยินเสียงที่แว่วดังเข้าเป็นวงกว้าง แม้แต่ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ที่กำลังปลูกหญ้าขับแสงอยู่ในเขตป่าที่มีควันสีเขียวลอยอบอวลก็ยังเงยหน้ามองไปรอบๆ เช่นกัน แต่ละคนตั้งท่าป้องกันเต็มกำลัง ทุกคนย่นระยะเข้ามาอยู่ใกล้กันอย่างรวดเร็ว

“รวมตัว!” หม่าจินตะโกน

อสูรผีเสื้อหลายสิบตัวที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงบินลัดป่าเข้ามา พุ่งเข้ามาหามนุษย์กลุ่มนี้ ทำการโจมตีทันที

เหล่าศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ดีดเม็ดยาสีเขียวคล้ำหลายต่อหลายเม็ดออกไป ระเบิดใส่อสูรผีเสื้อที่ดาหน้าเข้ามา ควันสีเขียวหม่นที่ระเบิดฟุ้งออกมาทำให้อสูรผีเสื้อกรีดร้องเสียงแหลมกี้ดๆ ขบวนโจมตีปั่นป่วนขึ้นมา บางตัวทนความระคายเคืองไม่ไหวจนบินสะเปะสะปะ บางตัวก็ตื่นตระหนกจนหดกายถอยหลังไป

บนอากาศเหนือผืนป่า สีหน้าของศิษย์ทั้งสี่คนที่ควบคุมวิหคยักษ์บินวนเวียนอยู่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง มองเห็นแสงสว่างจากปีกที่ขยับกระพือปรากฏขึ้นในป่าไม่ขาดสาย พุ่งเข้ามาทางด้านนี้ด้วยความเร็วสูง

ยิ่งไปกว่านั้นคือมีอสูรผีเสื้อพุ่งออกมาจากป่าในละแวกนี้ มุ่งหน้าขึ้นมาหาวิหคยักษ์ทั้งสี่ที่บินอยู่กลางอากาศ วิหคยักษ์ตื่นตระหนกร้องโวยวาย

“อาจารย์ คลื่นอสูรขอรับ!” ศิษย์คนหนึ่งที่ที่อยู่ในป่าด้านล่างใช้พลังขยายเสียงให้ดังก้อง

หลังจากได้รับรายงาน ทั้งสี่ควบคุมวิหคทั้งสี่บินล่าถอยไปทันที

ช่วยไม่ได้จริงๆ วิหคยักษ์มีมูลค่าแพงลิบลิ่ว เรื่องการต่อสู้กลางอากาศไม่มีทางสู้กับอสูรผีเสื้อได้ พวกเขาแบกรับความเสียหายเช่นนี้ไม่ไหว

ยิ่งไปกว่านั้นคือมองจากสถานการณ์นี้ หากไม่รีบถอยก็จะไม่ทันการแล้ว

ระหว่างที่ล่าถอย ทั้งสี่คนต่างดีดเม็ดยาสีเขียวคล้ำออกไปอย่างต่อเนื่อง อาศัยควันที่ระเบิดออกมาสกัดกั้นอสูรผีเสื้อที่ไล่ตามมา บ้างก็ฟันกำจัดอสูรผีเสื้อที่ขวางทางเพื่อเปิดทางให้วิหคพาหนะ วิหคทั้งสี่ตัวร้องโวยวายด้วยความตื่นตระหนก

คลื่นอสูรหรือ? พอหม่าจินได้ยินเสียงแจ้งเตือนก็เงยหน้าขึ้นทันที สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง ตะโกนอย่างไม่ลังเลว่า “หนี!”

เฉาเซิ่งไหวก็มีสีหน้าตื่นตระหนกเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าจะดึงดูดคลื่นอสูรมา ในฐานะศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์จะไม่ทราบถึงความน่ากลัวของคลื่นอสูรภายในแดนความฝันผีเสื้อได้อย่างไร ความคิดที่จะตามไล่ล่าให้ถึงที่สุดถูกโยนออกไปจากสมองทันที เร่งทะยานขึ้นสู่นภาไปพร้อมกับศิษย์ร่วมสำนักอย่างรวดเร็ว กระโดดไต่ไปตามกิ่งไม้ เหินขึ้นสู่เหนือยอดไม้พร้อมกับทุกคน ต้องการมุดผ่านคาคบไม้หนาทึบเพื่อหนีออกจากป่าแห่งนี้

ทว่าตอนที่อยู่ด้านล่างชักช้าไปหน่อยจึงสายไปเสียแล้ว อสูรผีเสื้อนับร้อยตัวปกคลุมหนาแน่นทั้งด้านบนด้านล่าง พากันมุดเข้ามาในป่าด้านล่างสกัดขวางพวกเขาไว้

ควันที่ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องบีบให้อสูรผีเสื้อที่ดาหน้าเข้ามาต้องถอยห่างออกไป ทั้งกลุ่มพุ่งออกมาจากป่าทะยานขึ้นสู่อากาศ แต่ก็ถูกอสูรผีเสื้อที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มโผเข้ามาหาอีกครั้ง

อสูรโลหิตตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากป่า กระพือปีกลอยค้างอยู่ในอากาศ ชี้กรงเล็บไปทางเฉาเซิ่งไหวและสองพี่น้องสกุลเหอพลางเปล่งเสียง “กี้ดๆ” ไม่หยุด

อสูรผีเสื้อที่ไล่ตามมาเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ทั้งเก้าชีวิตตกอยู่ในความตื่นกลัวเป็นอย่างยิ่ง ยาที่ใช้ระเบิดเปิดทางก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ด้านหน้าถูกบีบเข้ามา ด้านหลังก็มีพวกมันรออยู่ หนีๆ หยุดๆ เป็นระยะ ดูเหมือนจะอยู่ห่างจากแนวป้องกันของหญ้าขับแสงอีกไม่ไกล แต่ความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปใกล้กลับอยู่ห่างไกลเกินเอื้อม ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความสิ้นหวัง

สุดท้ายแล้ว ‘ยาขับไล่’ ที่พวกเขาพกติดตัวมายังคงมีจำนวนจำกัด หากใช้ไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน หลบหนีไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็หมดลงแล้ว

เสียงต่อสู้ดุเดือดแว่วดังขึ้นมา ทั้งเก้าคนจำเป็นต้องชักอาวุธออกมาต่อสู้เอาชีวิตรอดจากอสูรผีเสื้อ มีอสูรผีเสื้อถูกฟันจนมีหยาดโลหิตโปรยปรายลงมาเหมือนหยาดฝนอย่างต่อเนื่อง แต่กลับสังหารไม่หมดไม่สิ้นเสียที แสงสว่างจากปีกนับไม่ถ้วนที่ขยับกระพืออยู่รอบข้างโฉบวนกลับเข้ามาโจมตีไอรีนโนเวล

“อ๊าก…” เสียงโหยหวนเสียงหนึ่งแว่วดังขึ้นมา ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์คนหนึ่งถูกรัดคอจากด้านหลังแล้วลากออกไป พริบตาเดียวก็ถูกอสูรผีเสื้อหลายตัวรุมฉีกทึ้งกลางอากาศ เลือดเนื้อสาดกระจาย

เฉาเซิ่งไหวที่เหลือบไปเห็นเข้าก็อกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา ไม่ทันระวังถูกกรงเล็บข้างหนึ่งยื่นเข้ามาคว้าไหล่กระชากร่างให้ล้มหงาย ความเจ็บแปลบตรงไหล่นั่นไม่เท่าไร แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือถูกกรงเล็บนับไม่ถ้วนยื่นเข้ามาจับไว้ ชนกระแทกกิ่งก้านไม้ไปตลอดทางจนถึงด้านล่าง เรียกได้ว่าตกใจกลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างอย่างแท้จริง ไม่ทันให้ได้รู้สึกนึกเสียใจด้วยซ้ำ

ฝูงอสูรผีเสื้อไล่ตามลงมา วิหคสี่ตัวที่อยู่ภายใต้การปกป้องของ ‘ยาขับไล่’ หนีรอดไปถึงฝั่งหน้าผาได้อย่างราบรื่น เข้าสู่แนวป้องกันของหญ้าขับแสงแล้ว

อสูรผีเสื้อที่ไล่ตามมาเข้าไปในแนวป้องกันได้เพียงระยะหนึ่งก็ทนรับกลิ่นฉุนรุนแรงนั้นไม่ไหว จนต้องหักเลี้ยวบินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ล้มเลิกการตามล่า

มนุษย์สี่คนที่อยู่บนหลังวิหคหันกลับไปมอง เห็นจุดแสงที่บินฉวัดเฉวียนเนืองแน่นอยู่เหนือผืนป่าแถบนั้น ในใจนึกหวาดหวั่นขึ้นมา ทราบดีว่าหากไม่ตัดสินใจล่าถอยในทันที หากรั้งอยู่ต่อแม้แต่ครู่เดียว เกรงว่าพวกเขาก็อย่าหวังจะหนีรอดออกมาได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าอยู่ดีๆ พวกหม่าจินเข้าไปทำอะไรกัน ดันไปทำให้เกิดคลื่นอสูรขึ้นมาได้

พวกเขาไม่เชื่อว่าหม่าจินจะไม่ทราบถึงคำสั่งของทางสำนักที่ว่าหากไม่จำเป็นก็ห้ามก่อเรื่องที่จะเป็นการยั่วยุโทสะของอสูรผีเสื้อจนเกินไป มิเช่นนั้นจะไม่ส่งผลดีต่อผู้ใดเลย

“พวกเจ้ารีบไปขอกำลังเสริมเร็ว!” ศิษย์คนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

ทำได้เพียงไปขอกำลังเสริมเท่านั้น เพราะพวกเขาไม่กล้าย้อนกลับไปอีก

เขาบังคับวิหคยักษ์รั้งอยู่สังเกตสถานการณ์ที่นี่ ส่วนอีกสามคนที่เหลือบังคับวิหคยักษ์บินออกไปอย่างรวดเร็ว

กลุ่มสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังชะง่อนหินท่ามกลางความมืดมิดก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกันเมื่อได้เห็นฉากเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นเหนือผืนป่า ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

“นี่ก็คือคลื่นอสูรที่เล่ารือกันอย่างนั้นหรือ?” หลัวหยวนกงพึมพำกับตัวเองดฮณ๊ฯดฯฌซ,

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า