ตอนที่ 520 ให้พวกเขาได้เดินเกม
เพราะเหตุใดถึงคิดว่าถูกหลอกแต่ไม่คิดว่าเป็นฝั่งตนเข้าใจผิดไปเองงั้นหรือ?
หลักเหตุผลก็ง่ายดายนัก หนิวโหย่วเต้าวางท่าข่มขู่ต่อหน้าหวงเลี่ย จงใจข่มขวัญคน!
เท่ากับหลอกให้ตระหนกตกใจไปเปล่าๆ อยู่พักหนึ่ง ตื่นตูมไปเอง ควบม้ารอนแรมมาไกลโดยไม่หยุดพักมาถึงที่นี่กลับหลายเป็นการหาเรื่องใส่ตัวโดยแท้ ถูกหลอกสาหัสมากจริงๆ
แม้จะรู้ว่าถูกหลอก แต่ก็ช่วยไม่ได้ ยังคงต้องทำหน้าหนาเจรจาต่อไป ส่งจดหมายไปหาคนเขาแล้วมิใช่หรือ ต่อไปก็ยังต้องไปเจรจาคนเขาอีกอยู่ดี
สิ่งที่โคดีคือเป็นอย่างที่เซ่าผิงปอเคยกล่าวไว้ ถึงเจรจาไม่สำเร็จอย่างมากคงรูปการณ์เดิมไว้ต่อไป ปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลทั้งสองฝ่ายคานอำนาจกันต่อไป
แต่เรื่องที่ชวนให้หงุดหงิดที่สุดคือไม่สามารถบอกหกสำนักได้ว่าพวกเจ้าล้วนถูกหนิวโหย่วเต้าหลอกใช้แล้ว จะบอกไปได้หรือว่าเดิมทีไม่ได้อยากมาเจรจากับพวกเจ้าเลยแต่ถูกหนิวโหย่วเต้าบีบคั้นมา?
พลาดท่าเสียทีไปแล้วจริงๆ ทุกข์ใจก็ไม่อาจบอกออกไปได้
ก็ว่าอยู่แล้ว หนิวโหย่วเต้าจะอาศัยสิ่งใดไปโน้มน้าวให้หกสำนักใหญ่ตัดแบ่งมณฑลเป่ยโจวได้เล่า?
“ดูเหมือนเซ่าผิงปอจะถูกไอ้คนชั้นต่ำหลอกให้กลัวเข้าแล้ว แค่มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ถือเป็นจริงเป็นจังไปแล้ว แต่เซ่าผิงปอกล่าวไว้ไม่ผิดเลย จำเป็นต้องกำจัดไอ้ชั้นต่ำคนนี้ทิ้งจริงๆ อาจจะต้องช่วยสำนักหยกสวรรค์จัดการหน่อนแล้ว…มารนหาที่ตายเองก็อย่างได้แค้นเคืองคนอื่นเลย” หวงเลี่ยเอ่ยลอดไรฟันออกมา
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาสีหน้าของพวกหวงทงที่มาด้วยกันก็ดูไม่ดีเช่นกัน ต่างพยักหน้ารับนิดๆ สื่อว่าเห็นด้วยกับวาจาของเจ้าสำนัก ครั้งนี้ถูกหลอกต้มแล้วจริงๆ จะไม่ให้โกรธได้อย่างไรเล่า
“จะให้ปล่อยทางเซ่าผิงปอออกมาหรือไม่ขอรับ?” หวงทงเอ่ยถาม
หวงเลี่ยแค่นเสียงเย็นชา “หนิวโหย่วเต้าอยู่ว่างเกินไปหรือไง อยู่ดีๆ จะมาเคี่ยวกรำพวกเราทำไม? ข้าว่าคงเป็นเพราะคนผู้นั้นไปหาเรื่องก่อนมากกว่า คุมขังต่อไป! ในเมื่อไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ปล่อยให้เขาลำบากไปสักระยะเถอะ ให้เขาหลาบจำไปอีกนาน!”
พูดแล้วก็โมโหขึ้นมา เพลิงโทสะถูกสะกดกลั้นไว้มาตลอด เนื่องจากก่อนหน้านี้ต้องเข้าพบหกสำนักใหญ่จึงฝืนตีสีหน้ายิ้มแย้มไว้…
มองเผินๆ เป็นเพียงการมาเยี่ยมคารวะครั้งแรกหลังจากเขาเพิ่งมาถึงเท่านั้น แต่เบื้องหลังยังคงดำเนินการเจรจาต่อไป 艾琳小說
อีกทั้งไม่กล้าเข้าพบอย่างเปิดเผยด้วย ในเมื่อเซ่าผิงปอเตือนไว้แล้วว่าอาจจะมีคนของหนิวโหย่วเต้าอยู่ในสำนักหมื่นสรรพสัตว์ ย่อไม่มีทางยอมพลาดท่าในเรื่องนี้
กลุ่มอิทธิพลทางฝั่งแคว้นเยี่ยนและแคว้นหานต่างไม่กล้าให้อีกฝ่ายทราบเรื่องเช่นกัน ย่อมเป็นเพราะกลัวถูกอีกฝ่ายรบกวนแล้วจะส่งผลกระทบต่อการความราบรื่นในการเข้าครองมณฑลเป่ยโจวของตน
ในฉากหน้าทั้งสองฝ่ายต่างไม่ก่อความเคลื่อนไหวใด แต่ในทางลับกลับส่งคนไปพบปะกันนอกสำนักหมื่นสรรพสัตว์
เจรจาไปเจรจามาก็ปรากฏข้อติดขัดขึ้น สำนักเขามหายานไม่อยากสละผลประโยชน์ในมณฑลเป่ยโจว แต่กลุ่มอิทธิพลทางฝั่งแคว้นเยี่ยนและแคว้นหานก็ไม่มีทางปล่อยให้สำนักเขามหายานครองมณฑลเป่ยโจวเช่นกัน หากเข้าสวามิภักดิ์เพียงในนามจะมีประโยชน์อะไร หากความจริงแล้วอำนาจยังคงอยู่ในมือพวกเจ้าก็อาจจะเกิดการทรยศขึ้นได้ตลอดเวลา
ทั้งสองฝ่าย แต่หากว่ากันตามจริงแล้วคือสามฝ่ายล้วนวนเวียนเจรจาประเด็นนี้อยู่
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเพราะทางสำนักเขามหายานตั้งใจให้เกิดประเด็นขึ้น จงใจปล่อยให้การเจรจาไม่บงตัว ภายหลังมาเมื่อเจรจาไม่สำเร็จก็นับว่าแล้วกันไป กลับไปอยู่ในจุดเดิมเท่านั้น
เมื่อทราบแล้วว่าหนิวโหย่วเต้าตั้งใจหลอกลวง ทางนี้ก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น
….
ณ ธารน้ำในหุบเขา ริมลำธารหน้าซุ้มบุปผา หนิวโหย่วเต้าเดินวนกลับไปกลับมา เอ่ยถามไปว่า “ไม่มีการติดต่ออีกจริงๆ น่ะหรือ?”
เสียงของเฉาเซิ่งไหวแว่วดังออกมาจากหลังซุ้มบุปผา “ไม่มีจริงๆ อย่างน้อยข้าก็ไม่พบเห็นว่าพวกเขามีการติดต่อกันอีก ข้าไปสอบถามศิษย์ร่วมสำนักที่รับผิดชอบดูแลหกสำนักมาหมดแล้ว หวงเลี่ยไปเข้าพบหกสำนักเพียงครั้งเดียว ภายหลังก็ไม่ได้ไปหาอีกและไม่เห็นทางหกสำนักจะส่งคนไปติดต่อกับคนของสำนักเขามหายานเลย”
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “แน่ใจหรือว่าหวงเลี่ยไม่ได้ออกจากสำนักหมื่นสรรพสัตว์เลย?”
เฉาเซิ่งไหวตอบว่า “หนิวโหย่วเต้า ข้าจำเป็นต้องหลอกเจ้าด้วยหรือ? ช่วงนี้มีหลายสำนักที่เข้ามาพักในสำนักหมื่นสรรพสัตว์เราเนื่องด้วยเรื่องของแดนผีเสื้อฝันมายา สถานการณ์เช่นนี้นับว่าปกติมาก อีกอย่าง ตอนนี้หวงเลี่ยเองก็กำลังไปเยี่ยมเยือนสำนักอื่นๆ ด้วยเช่นกัน”
เขาหงุดหงิดเพราะไม่ทราบว่าหนิวโหย่วเต้าต้องการจะทำอะไร
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยไปว่า “ดี! ทันทีที่ทราบว่าหวงเลี่ยออกไปต้องรีบมาแจ้งข้าทันที”
เฉาเซิ่งไหวกล่าวว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? ข้าขอเตือนเจ้าไว้ว่าอย่าได้ก่อปัญหาอีก”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “เขากำลังติดหนี้ข้าสี่ล้านเหรียญทองพอดี ข้าต้องหาวิธีทวงคืนจากเขา ไหนเลยจะปล่อยให้เขาหนีไปง่ายๆ ได้ จับตามองเขาให้ข้าซะ รอเขาจัดการธุระเสร็จข้าจะคิดบัญชีกับเขา”
เฉาเซิ่งไหวพูดไม่ออกอย่างสิ้นเชิงแล้ว ตระหนักได้ว่าดูเหมือนตนจำเป้นต้องช่วยเขาจับตามองอย่างเสียไม่ได้แล้ว
หลังจากไล่คนผู้นี้กลับ หนิวโหย่วเต้านั่งเล่นอยู่ริมลำธารอีกพักใหญ่ถึงได้กลับเรือนรับรอง
พอขึ้นมาถึงริมขอบผา หยวนกังที่เฝ้ารออยู่ริบขอบผามองไปทางซุ้มบุปผาเล็กน้อย กระซิบถามไป “เป็นยังไงบ้างครับ?”
หนิวโหย่วเต้าบอกเล่าสถานการณ์ที่ฟังมาจากเฉาเซิ่งไหวออกมาคร่าวๆ
หยวนกังเอ่ยด้วยความฉงน “หากรอจนพบว่าเขาจากไปแล้ว รอจนกว่าเฉาเซิ่งไหวมาแจ้งจะไม่สายไปหน่อยเหรอครับ จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นไหมครับ?”
หนิวโหย่วเต้าหัวเราะฮ่าๆ “ติดเบ็ดแล้วจะหนีรอดอีกหรือ? ถึงหนีไปก็ลากตัวเขากลับมาได้”
หยวนกังเอ่ยถาม “คุณคิดว่าพวกเขาลอบเจรจาอย่างลับๆ เหรอครับ?” ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “นายคิดว่าพวกเขารั้งอยู่ที่นี่เพื่ออะไรละ? ฮ่าๆ ยังมีสำนักหยกสวรรค์อีก อืดอาดไม่ยอมจากไป พูดอะไรทำนองว่ารอคนมาหาอยู่ ฉันว่าแต่ละฝ่ายมีแผนร้ายอยู่ในใจกันทั้งนั้น”
หยวนกังถามต่อ “แต่ถ้าไม่ได้ไปเจรจาจริงๆ ละครับ? ถ้าเกิดไหวตัวทันก่อนแล้วยับยั้งไปแล้วละครับ?”
“ส่งจดหมายทั้งหมดออกไปแล้ว จะเจรจาหรือไม่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาอีกต่อไป ต่อให้ไหวตัวทันก็ไม่มีประโยชน์ เว้นแต่พวกเขาจะรู้ว่าจดหมายของทางแคว้นหานไม่ได้ถูกส่งไปถึงจะยอมยุติไว้…” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็หยักหน้าเล็กน้อย “แต่ก็รับประกันไม่ได้เหมือนทางว่าทางฝั่งสามสำนักจะไม่มีหนอนบ่อนไส้…เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้ เอาละ เพื่อความแน่ใจดูเหมือนจะต้องเชิญแขกมาซะแล้ว!”
หยวนกังไม่เข้าใจ “เชิญใครครับ?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยยิ้มๆ “แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าสำนักหวงคนนั้น มีการเจรจากันลับหลังพวกเราหรือไม่ ลองหยั่งเชิงดูเดี๋ยวก็รู้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า