ตอนที่ 527 สีหน้ามืดมน
“แม่ทัพใหญ่เซ่าช่างยอดเยี่ยมนัก!” จงหยางซวี่แค่นหัวเราะดังเฮอะๆ หันมองไปทางห้องโถงที่ถูกศิษย์ในสำนักเฝ้าคุมเข้มอยู่
เหล่าแม่ทัพปฏิเสธไม่ทำตามที่สั่ง นี่มิใช่เรื่องที่เหนือไปจากความคาดหมายอันใดเลย ไพร่พลของมณฑลเป่ยโจวต่างเป็นกองกำลังหลักที่เซ่าเติงอวิ๋นก่อตั้งขึ้นมา ในยุคที่โลกโกลาหลเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงขึ้นในแต่ละเมือง จะรุ่งโรจน์หรือตกอับล้วนขึ้นอยู่กับตระกูลเซ่า ปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ไม่น่าแปลกใจ
เข้าใจหลักการมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ สถานการณ์ในมณฑลเป่ยโจวกลายเป็นเช่นนี้ จะรอบกับภายนอกก็ต้องสงบศึกในให้ได้รวมกำลังให้เป็นหนึ่งเดียว
ต่อให้รู้แต่แรกว่าหลักการเช่นนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่พอข้อเสียปรากฏขึ้นมาต่อหน้าจริงๆ ก็ยังยากจะทำให้ทนรับได้
มีศิษย์อีกคนรีบเข้ามารายงาน “อาจารย์ จู่ๆ ปีกทองกลุ่มหนึ่งในห้องส่งสารก็ตายลงพร้อมกัน น่าจะถูกคนวางยาพิษสังหารขอรับ!”
จงหยางซวี่ฟังแล้วเข้าใจทันที ปีกทองกลุ่มนี้น่าจะส่วนที่เซ่าผิงปอใช้ติดต่อกับโลกภายนอก เซ่าผิงปอเกรงว่าจะมีปัญหาตามมาพอหนีออกไปก็จัดการเก็บกวาดทันที
ไม่มีทางที่เซ่าผิงปอจะลงมือเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ แปลว่ามีการจัดเตรียมการไว้แต่แรกเริ่มแล้ว
“ตรวจสอบซะ ดูว่าเป็นฝีมือผู้ใด” จงหยางซวี่เอ่ยเสียงเครียด
ภายในห้องโถง สองฝั่งมีชั้นวางอาวุธตั้งเรียงรายเป็นแถว โต๊ะยาวตัวหนึ่งตั้งอยู่กลางห้องโถง มีเอกสารกองหนึ่งตั้งอยู่หัวโต๊ะ
ฟ้าสว่างแล้ว ตะเกียงน้ำมันสองแถวที่อยู่ภายในห้องโถงกลับยังคงส่องวูบไหวอยู่แล้ว
เซ่าเติงอวิ๋นที่ผมหงอกขาวนั่งอยู่หลังโต๊ะ ถือผ้าไหมขาวผืนหนึ่งเช็ดถูดาบง้าวเล่มหนึ่งอยู่ ท่าทางสงบสุขุม
ด้านหลังเขามีชุดเกราะเงาวับที่ผ่านการเช็ดถูแล้วแขวนอยู่
คนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเปิดประตูออก จงหยางซวี่เดินเข้ามา เข้ามาหยุดตรงหน้าโต๊ะ จ้องมองเซ่าเติงอวิ๋นที่ขมักเขม่นตั้งใจอยู่
“สังหารบุตรชายคนนั้นของข้าแล้วหรือ?” เซ่าเติงอวิ๋นที่ขัดดาบอยู่เอ่ยถามโดยไม่เงยหน้าขึ้น ยังคงก้มหน้าจัดการเรื่องของตนต่อไป จากนั้นก็เอ่ยเสริมขึ้นว่า “บุตรชายคนนั้นของข้าไม้ได้จัดการง่ายขนาดนั้น น่าจะทำพลาดกระมัง?”
ม่านตาจงหยางซวี่หดตัว ตระหนักถึงข้อผิดพลาดของตนได้ทันที
ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าถูกควบคุมเอาไว้แต่แรก ตัดขาดการสื่อสารทุกอย่างระหว่างเขาและโลกภายนอก ตามหลักแล้วไม่ควรทราบเรื่องที่สำนักเขามหายานจะลงมือกับเซ่าผิงปอ แต่อีกฝ่ายเดาถูก เช่นนี้หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ? หมายความว่าตั้งทางนี้เข้าควบคุมตัวอีกฝ่ายไว้ก็ทำให้อีกฝ่ายตัดสินใจได้แล้ว
ขอถามหน่อยเถิดว่าถ้าขนาดเซ่าเติงอวิ๋นยังมองออก แล้วเซ่าผิงปอจะมองไม่ออกได้อย่างไร? การเข้าควบคุมของทางฝั่งนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้เซ่าผิงปอเตรียมการไว้ล่วงหน้า
ตอนแรกทางนี้ยังสงสัยอยู่ว่าเซ่าผิงปอที่ถูกคุมขังไว้ในคุกใต้ดินรับรู้ข่าวสารทันท่วงทีได้อย่างไร จากที่ศิษย์เฝ้ายามแจ้งมา ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นเหตุการณ์ผิดปกติเพียงอย่างเดียวที่เกิดขึ้นในคุกใต้ดินคือจู่ๆ ตะเกียงน้ำมันก็ดับไปดวงหนึ่ง
ตอนนี้ในที่สุดก็กระจ่างแล้ว เข้าใจแล้วว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จงหยางซวี่นึกเสียใจอยู่ภายในใจ น่าจะเข้าสู่คุกใต้ดินทันทีโดยไม่เคลื่อนไหวกระโตกกระตากอันใดเลยถึงจะถูก
แต่เสียใจก็ส่วนเสียใจ เขารู้ซึ้งแก่ใจดีว่าไม่มีทางจะจัดการเช่นนี้ล่วงหน้าได้ คนเขาถูกควบคุมไว้ในกำมือของพวกเขาสามารถจัดการได้ทุกเมื่อ ผู้ใดจะคิดไปลอบจู่โจมเซ่าผิงปอในคุกใต้ดินอย่างลับๆ เล่า?
“เจ้ารู้แต่แรกแล้วสินะว่าในคุกใต้ดินมีทางลับ?” จงหยางซวี่ถาม
“ทางลับหรือ? ไม่ทราบ” เซ่าเติงอวิ๋นถอนหายใจ “มีบางเรื่องที่พวกท่านอาจไม่ทราบ ครั้งก่อนตอนที่หลิวเอ๋อร์แอบหนีตามคนอื่นไป ความจริงแล้วเป็นเจ้าใหญ่ที่ไปตามตัวนางกลับมาด้วยตัวเอง ตอนนั้นเขาถูกขังไว้ในคุกใต้ดินทั้งยังมีคนของพวกท่านเฝ้าอยู่เช่นกัน แล้วออกไปได้อย่างไรเล่า? ข้าตระหนักได้ในตอนนั้นว่าคุกใต้ดินแห่งนั้นมีปัญหาแน่ แต่ข้าก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเขาขุดอุโมงค์ใต้ดินขึ้นภายในจวนตั้งแต่เมื่อไร ตอนแรกที่เขาเสนอตัวยอมเข้าคุดใต้ดินเองข้าก็ทราบว่าเขาเตรียมการป้องกันไว้แล้ว”
จงหยางซวี่เอ่ยว่า “น้องเซ่า บุตรชายที่เจ้าให้กำเนิดช่างประเสริฐนัก!”
เซ่าเติงอวิ๋นเช็ดใบดาบพลางเอ่ยว่า “ประเสริฐหรือ? ข้าไม่คิดเช่นนั้นเลย! เด็กคนนี้เหมือนมารดาของเขาเกินไป เฉลียวฉลาดเหมือนมารดาเขา แต่ฉลาดเกินไปมักตายเร็ว มารดาเขาที่จากไปก่อนวัยอันควรก็หนีไม่พ้นจากข้อนี้เช่นกัน ทำให้ความพยายามทั้งหมดของตนเสียเปล่า ข้าคาดหวังให้เขาโง่กว่านี้สักหน่อยจริงๆ หากฉลาดเกินไปก็จะต้องทำงานหนัก ท่านดูเขาสิอายุยังน้อยผมกลับหงอกแล้ว ไยต้องหาเรื่องกลุ้มใส่ตัวด้วย? ความจงรักภักดีเป็นพื้นฐานของแม่ทัพ ปีนั้นข้าไม่อยากจะทรยศต่อแคว้นเยี่ยนเลย ทว่าต้านทานการรบเร้าของเขาไม่ไหว! หากว่าเขาโง่กว่านี้คงจะไม่ให้แก่งแย่งชิงดีภายในเวลานั้น หากตอนนั้นข้ารีบถอนตัวปลีกวิเวกไปตั้งแต่ช่วงที่รุ่งโรจน์อยู่ ทำเช่นเดียวกับเหล่าพี่น้องทั้งหลาย รอจนซางเฉาจงผงาดขึ้นมาอีกครั้งแล้วค่อยไปขอพึ่งพิงอีกครั้ง คาดว่าสถานการณ์ของครอบครัวข้าในปัจจุบันนี้คงแตกต่างออกไป ไม่มีทางวุ่นวายจนกลายเป็นเช่นตอนนี้ ไม่มีข้อพิพาทเพราะผลประโยชน์เหล่านี้ และไม่เกิดฆ่าฟันกันเองในครอบครัว ดังนั้น ไหนเลยจะเป็นเรื่องประเสริฐอันใด ฉลาดเกินไปจะตายเพราะความฉลาด!”
จงหยางซวี่กล่าวว่า “น้องเซ่า ลงคำสั่งตรวจค้นเดี๋ยวนี้ แจ้งให้เขตต่างในเป่ยโจวตั้งด่านตรวจค้น พยายามตามหาที่อยู่ของเขาให้ได้ ข้ารับประกันว่าขอเพียงจับตัวเขามาได้ ข้าจะยอมไว้หน้าน้องเซ่าสักครั้ง มอบทางรอดให้เขา!”
วาจานี้เป็นคำโป้ปด สำนักสั่งการลงมาแล้ว เมื่อทางนี้จับเซ่าผิงปอได้จะไม่มีทางให้ทางรอดแก่เซ่าผิงปออีก เขาก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้เช่นกัน
แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ กำลังคนของสำนักเขามหายานมีจำกัด ผู้บำเพ็ญเพียรแล้วอย่างไรเล่า? พื้นที่รอบข้างกว้างใหญ่ไพศาลปานนั้น ด้วยกำลังคนในสังกัดเขาที่มีอยู่เพียงเท่านี้อย่าว่าแต่กระจายตัวออกไปค้นหาเลย แม้แต่จะตรวจค้นภายในเมืองนี้ก็ไม่เพียงพอแล้ว คิดจะตามหาเซ่าผิงปอไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทรเลย ต่อให้ส่งศิษย์ทั้งหมดในสำนักเขามหายานออกไปก็ยังยากอยู่ดี ทำได้เพียงกระตุ้นให้เกิดการค้นหาในวงกว้างกว่าเดิม
แต่จะไม่ปดเซ่าเติงอวิ๋นก็ไม่ได้อีก ไพร่พลในมณฑลเป่ยโจวไม่เชื่อฟังสำนักเขามหายานเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า