ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 532

ตอนที่ 532 เรียกขานเป็นพี่น้อง

ความกลัวที่เคยมีเมื่อในอดีตเอ่อล้นขึ้นมาในใจอีกครั้ง นางทราบดีกว่าใครว่าราชินีปีศาจตนนี้น่ากลัวมากเพียงใด เป็นปีศาจที่สามารถทะลวงผ่านแรงโจมตีอันทรงพลังของยันต์กระบี่สวรรค์ได้อย่างง่ายดาย!

หนิวโหย่วเต้าที่สัมผัสถึงความไม่เป็นมิตรจากตัวอิ๋นเอ๋อร์ได้เริ่มถอยหลังไป ถอยกลับไปอยู่ข้างกายหยวนกัง เอ่ยถามเบาๆ ด้วยน้ำเสียงสับสน “นี่น่ะเหรอปัญหานิดหน่อยที่นายพูดถึง?”

ก่อนหน้านี้หยวนกังส่งข่าวไปแจ้งสถานการณ์ทางนี้แล้ว แต่รู้ดีว่าเรื่องที่หนิวโหย่วเต้าต้องจัดการมีความสำคัญใหญ่หลวง เกรงว่าจะกระทบถึงการทำงานของหนิวโหย่วเต้าที่อยู่ในเมือง จึงไม่ได้เล่าว่าเรื่องนี้ตึงเครียดมากเพียงใด

“ตอนที่บังคับให้นางติดตามคนของสำนักเบญจคีรีกลับไป เธอไม่ยอมไป จะอยู่รอคุณให้ได้ ผมคิดจะลงมือควบคุมตัวนาง พอใช้กำลังบังคับพาเธอกลับไป เธอก็กลายเป็นแบบนี้ไป ก็ไม่มีอะไรมากจริงๆ หลังจากผมเลิกยุ่งกับเธอ เธอก็ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรอีก” หยวนกังอธิบายเล็กน้อย แต่จากนั้นก็เอ่ยเตือนอีกนิดหน่อย “เต้าเหยี่ย เรื่องที่พวกเราวิเคราะห์เกี่ยวกับตัวเธอก่อนหน้านี้อาจจะผิดพลาดไป หากถูกกระตุ้นขึ้นมาก็ดูเหมือนจะกลับสู่ร่างราชินีปีศาจได้ทุกเมื่อ”

แววตาหนิวโหย่วเต้าวูบไหว มองพินิจอิ๋นเอ๋อร์ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จึงไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไร

ก่วนฟางอี๋ก็ถอยกลับอยู่ข้างกายหยวนฟางเช่นกัน กระซิบถาม “เจ้าหมี เกิดอะไรขึ้น?”

หยวนฟางตอบเสียงแผ่ว “หยวนเหยี่ยจะให้นางตามคนสำนักเบญจคีรีกลับไป แต่นางไม่ยอมไป หยวนเหยี่ยเป็นคนเช่นไรเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ ดุดันมาตลอด แต่พอเขาใช้กำลังบังคับนางก็เริ่มออกอาการ โชคดีที่หยวนเหยี่ยหยุดมือทันเวลา มิเช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาคือหายนะ”

เขาก็ยังหวาดหวั่นใจอยู่เช่นกัน ก่อนหน้านี้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันมาระยะหนึ่ง เริ่มคิดว่าราชินีปีศาจตนนี้อยู่ด้วยง่ายนัก ซ้ำยังหลอกง่ายอย่างยิ่ง โง่งมว่าง่าย ค่อยๆ ลดกำแพงที่มีต่ออิ๋นเอ๋อร์ลง แต่พออิ๋นเอ๋อร์โมโหขึ้นมาครานี้ ความประมาทเลินเล่อที่เขาทำลงไปก่อนหน้านี้ทำให้เขานึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ

“ดุดันหรือ? ข้าว่าโง่เง่ามากกว่า!” ก่วนฟางอี๋จ้องมองแผ่นหลังของหยวนกังแล้วด่าออกมา ทั้งตกใจทั้งโมโห ไม่รู้ว่าเจ้าลิงตัวนี้สมองมีปัญหาหรืออย่างไร รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของราชินีปีศาจตนนี้ดี แต่ก็ยังกล้าลงมืออีก มีคนโง่เง่าขนาดนี้เชียวหรือ?

หนิวโหย่วเต้ากำลังใคร่ครวญอยู่ว่าควรจะสื่อสารกับอิ๋นเอ๋อร์ในตอนนี้อย่างไรถึงจะเหมาะสม

แต่จู่ๆ อินเอ๋อร์ก็ยิ้มออกมา ดูเหมือนจะตอบสนองล่าช้าไปพอสมควร อีกทั้งดูเหมือนเพิ่งจะจำหนิวโหย่วเต้าได้ นางกระโดดลงมาจากก้อนหินแล้ววิ่งเข้ามา คว้าแขนเสื้อหนิวโหย่วเต้าพลางเอ่ยเรียก “เต้าเต้า!”

นางพูดจาได้เพียงคำง่ายๆ เต้าเหยี่ยที่คนอื่นเรียกกัน พอมาถึงปากนางก็กลายเป็นเต้าเต้าไปแล้ว นับว่าเป็นคำเรีบกขานเฉพาะสำหรับนางด้วย

หนิวโหย่วเต้าคิดจะถอยหลบไปเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย แต่พอเห็นว่าไม่เป็นไรถึงได้ฝืนทนไว้

เขาสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอย่างละเอียด เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่เป็นไร เขาถึงได้เบาใจลง

อิ๋นเอ๋อร์แย้มยิ้มสดใส ดีใจเพราะในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว แต่ลวดลายสีเงินชั่วร้ายบนใบหน้ากลับทำให้รอยยิ้มของนางดูค่อนข้างแปลกประหลาด นางชี้ไปที่หยวนกังแล้วเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ “เจ้าลิง คนเลว!”

พอเจอหน้าก็เริ่มฟ้องทันที 艾琳小說

ก่วนฟางอี๋ชมอยู่ในใจ พูดได้ดี!

หนิวโหย่วเต้าเหลือบมองเล็กน้อย หยวนกังยังคงมีสีหน้าเย็นชา

สายตาของหนิวโหย่วเต้ากวาดมองสีหน้าของลุงเฉินและสวี่เหล่าลิ่วต่อ ไม่ได้พูดมากอีก คว้ามืออิ๋นเอ๋อร์แล้วจูงออกไป

พอไปถึงจุดอับลับตา ทั้งสองหยุดยืนหันหน้าเข้าหาหัน

อิ๋นเอ๋อร์มองเขาด้วยสีหน้าฉงน ไม่ทราบว่าเขาจะทำอะไรจึงเอ่ยเรียกเพียงว่า “เต้าเต้า?”

หนิวโหย่วเต้าเริ่มแผ่ลมปราณข้าสู่มือนาง ถ่ายเทพลังเข้าไปในร่างนาง ตรวจสอบสถานการณ์ภายในร่างกายของนาง

ผลจากการตรวจสอบยืนยันข้อสงสัยของเขาแล้ว พลังปีศาจในร่างอิ๋นเอ๋อร์เพิ่มขึ้นไม่น้อยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ก็รู้อยู่แล้ว ถึงแม้จะขจัดพลังปีศาจในร่างอิ๋นเอ๋อร์ทิ้งตอนอยู่ในแดนความฝันแล้ว แต่ร่างกายของอิ๋นเอ๋อร์จะค่อยๆ สะสมพลังปีศาจเพิ่มขึ้นมาเองอยู่ดี ทว่าจะไม่ได้เพิ่มพรวดขึ้นมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่หยวนกังว่าไว้ เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังถูกกระตุ้นอารมณ์

สังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าพลังปีศาจของอิ๋นเอ๋อร์ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะมีผลลัพธ์ตามมาเช่นไร

พอเกิดเรื่องครั้งนี้ขึ้น เขาก็แน่ใจแล้วว่าหากพลังปีศาจในร่างอิ๋นเอ๋อร์สะสมไปถึงจุดหนึ่ง นางจะกลายไปเป็นราชินีปีศาจอีกครั้ง มีแนวโน้วสูงว่าร่างจริงในฐานะอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่น่าหวาดกลัวจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

เขากระตุ้นเคล็ดวิชามหาจักรวาลขึ้นมาแล้วขจัดพลังปีศาจในร่างอิ๋นเอ๋อร์ทิ้งอีกครั้ง พลังปีศาจพยายามต่อต้านแต่เหมือนจะเผชิญหน้ากับดาวข่มชะตา ไม่อาจหนีรอดได้

อิ๋นเอ๋อร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น หลับตาลงไป แสดงสีหน้าผ่อนคลายนิดๆ

เมื่อพลังปีศาจค่อยๆ สลายไป ลวดลายสีเงินชั่วร้ายบนใบหน้าของอิ๋นเอ๋อร์ก็เริ่มเจือจางลง จนกระทั่งเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์

หนิวโหย่วเต้าดึงพลังกลับมาแล้วปล่อยมือนาง อิ๋นเอ๋อร์ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา กลายเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาคนเดิมอีกครั้ง มองเขาด้วยนัยน์ตากลมโตใสซื่อพราวระยับ

หนิวโหย่วเต้ายิ้มให้แล้วหันหลังเดินออกไป

อิ๋นเอ๋อร์วิ่งตามมา ร้องเรียกอย่างร่าเริง “เต้าเต้า”

วิหคยักษ์ทั้งสามตัวโผขึ้นจากป่าเขา เหินสู่นภา

พอมีอิ๋นเอ๋อร์อยู่หนิวโหย่วเต้าก็สบายหูแล้ว ก่วนฟางอี๋ไม่กล้าบ่นจู้จี้เรื่องขายวิหคไม่รู้จบอีก

“จะไปไหน?” หยวนกังคำนวณพิกัดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยถามขึ้นมา

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “เมืองหลวงแคว้นฉี เซ่าผิงปออาจจะไปหลบอยู่ที่เมืองหลวงแคว้นฉี…” เขาเล่าถึงจดหมายจากเฮ่าเจินเล็กน้อย

หยวนกังเอ่ยว่า “น้องสาวเขาอยู่ที่เมืองหลวงแคว้นฉี เบาะแสนี้ชัดเจนเกินไปหน่อยแล้วกระมัง ถ้าหากเขาไม่อยู่ มิใช่ไปเสียเที่ยวหรอกหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า