ตอนที่ 566 วีรบุรุษย่อมมองโลกในมุมเดียวกัน
ภายในจวนผู้ว่าการมณฑลติ้งโจว ผู้ว่าการมณฑลเซวียเซี่ยวมีสีหน้ามืดมน
บนพื้นเบื้องหน้าเขามีศีรษะมนุษย์เปื้อนเลือดวางอยู่ห้าหัว
หัวหนึ่งที่อยู่ในบรรดานั้นคือซ่งซูที่เขาส่งคนไปคุ้มกันกลับเมืองหลวง ส่วนอีกสี่หัวที่เหลือเป็นของยอดฝีมือที่ส่งไปคุ้มกันซ่งซู ทั้งห้าคนเดินทางไปยังเมืองหลวง ร่างกายไม่รู้ไปอยู่ที่ใดแล้ว กลับมาเพียงหัวคนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีสารถีคนหนึ่งบังคับรถม้ามาจอดหน้าประตูจวนผู้ว่าการ ลากหีบใบหนึ่งลงมา บอกว่ามีคนให้นำของขวัญมาส่งยังจวนผู้ว่าการมณฑล
ทางนี้เปิดหีบออกดู ผู้ใดจะคาดว่าเป็นของขวัญเช่นนี้
“ฝีมือผู้ใด?” ฝ่าซือคนหนึ่งเอ่ยถามเสียงขรึม
เซวียเซี่ยวแค่นเสียง “ยังเป็นฝีมือผู้ใดไปได้เล่า มณฑลข้างเคียงกำลังข่มขู่พวกเราอยู่ ราชสำนักหยามหน้าคนผู้นั้นแล้ว คนผู้นั้นจึงเอาคืน โอหัง! ข้าอยากเห็นนักว่าพวกเจ้าจะโอหังไปได้อีกนานเพียงใด!”
ทางเขาได้รับราชโองการลับจากราชสำนักแล้ว ให้เตรียมระดมกำลังพลและหญ้าแห้งเสบียงกรัง เขาคือคนที่ทราบดีว่ามณฑลหนานโจวกำลังจะเผชิญเคราะห์หนักแล้ว
….
หุบเขาหิมะ ณ โรงเตี๊ยมเลื่อมรุ้ง มีแขกกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันพลางเดินเข้าสู่ด้านใน
ฉู่อันโหลวเถ้าแก่โรงเตี๊ยมยืนอยู่หน้าประตูโรงเตี๊ยมทอดสายตามองทิวทัศน์ภายในหุบเขา สายตามองตามกลุ่มแขกที่เดินเข้าสู่ด้านในไป ได้ยินรางๆ ว่าเอ่ยถึง ‘หมอผี’ ยืนอยู่ตรงนี้มาสักพักแล้วไม่ใช่ครั้งแรกเลยที่ได้ยินบทสนทนาประเด็นนี้ แขกที่เข้าไปก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะเอ่ยถึงหมอผีเช่นกัน
เมื่อแขกหายลับเข้าไปด้านใน เขากวักมือเรียกพนักงานคนหนึ่งเข้ามาหา เอ่ยถามว่า “เหตุใดข้าถึงได้ยินคนเอ่ยถึงหมอผี เกิดเรื่องใดขึ้นงั้นหรือ?”
พนักงานมึนงง “ไม่ทราบเลยขอรับ!”
ในเวลานี้เอง พนักงานคนหนึ่งที่ออกไปลาดตระเวนในหุบเขาเหินทะยานเข้ามา ร่อนลงบนบันไดแล้วรีบเดินเข้ามาจากด้านนอกโรงเตี๊ยม เข้ามารายงานว่า “เรียนเถ้าแก่ วังสวรรค์หมื่นวิมานประกาศตามหาหมอผีขอรับ”
ฉู่อันโหลวฉงน “ตามหาหมอผีไปทำไม? บุตรชายของทางนั้นพอหมอผีรักษาหายก็พาตัวไปแล้วมิใช่หรือ?”
พนักงานตอบว่า “กล่าวกันว่าองค์หญิงใหญ่แห่งจินโวผู้นั้นต้องพิษร้ายแรงจึงตามหาตัวหมอผีไปรักษา หากแจ้งเบาะแสช่วยตามหาตัวหมอผีได้จะมีรางวัลให้อย่างงามขอรับ”
“พิษร้ายงั้นหรือ?” ฉู่อันโหลวพึมพำพลางใคร่ครวญ
….
ณ จวนเจ้ากรมโยธาแห่งเมืองหลวงแคว้นฉี ก่าเหมี่ยวสุ่ยในชุดเสื้อคลุมกันลมที่เพิ่งกลับมาจากมณฑลหนานโจวเดินอาดๆ ตรงเข้าไป
ไม่จำเป็นต้องเข้าไปรายงานเป็นการเฉพาะ มีคนนำทางพาตรงเข้าไปหาถงโม่ด้านในทันที
ถงโม่ยืนอยู่ในลานเรือนโบกมือสื่อให้แขกสลายตัวไป เจ้าหน้าที่สามสี่คนที่ห้อมล้อมอยู่ขอตัวลาไปอย่างนอบน้อม ปล่อยให้ทั้งสองได้มีพื้นที่ส่วนตัว
ทั้งสองก็ไม่ได้สุภาพเกรงใจอันใดกัน ถงโม่เอ่ยว่า “ซ่งซูบุตรชายของซ่งจิ่วหมิงถูกลอบสั่งหารระหว่างเดินทางมาก ศีรษะถูกส่งไปถึงหน้าประตูบ้านของเซวียเซี่ยว”
ก่าเหมี่ยวสุ่ยพยักหน้ารับ “เรื่องนี้ข้าทราบระหว่างทางแล้ว”
ถงโม่กล่าวว่า “การเจรจากับทางสำนักเขามหายานเป็นอย่างไรบ้าง?”
ก่าเหมี่ยวสุ่ยตอบว่า “ไม่รับปากและไม่ปฏิเสธ เลี่ยงผ่านส่งๆ”
“ทำตัวเป็นต้นหญ้าไหวลู่ลมอีกรายแล้ว ยังคิดจะสังเกตการณ์อยู่ แต่การไม่ปฏิเสธก็นับเป็นเรื่องดี ขอเพียงเห็นท่าไม่ดี รอจนทางนั้นถูกทัพใหญ่เข้ากดดันกะต้องแปรพักตร์แน่!” ถงโม่หัวเราะหยัน จากนั้นลูบเคราเอ่ยว่า “ก่ากงกง เพิ่งจะได้รับมาว่าไห่หรูเยวี่ยของฝั่งจินโจวถูกพิษเข้าแล้ว ดูเหมือนทางไห่อู๋จี๋จะลงมือแล้ว”
ก่าเหมี่ยวสุ่ยกล่าวว่า “ทราบเรื่องแล้ว กำลังจะคุยเรื่องนี้กับท่านเจ้ากรม ไห่อู๋จี๋ลงมือแล้ว ทางฝั่งเราจะชักช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องฉวยโอกาสจากสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป ยังไม่ต้องเคลื่อนกำลังพลให้ส่งเสบียงกรังหญ้าแห้งไปก่อน เรื่องระดมกำลังกะเกณฑ์ไพร่พลควรขอราชโองการอย่างเป็นทางการจากฝ่าบาทได้แล้ว”
ถงโม่โบกมือเล็กน้อย มีคนนำม้วนฎีกามาส่งให้ถึงมือเขาทันที “กำลังจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทพอดี หากก่ากงกงไม่มีธุระใดก็ไปพร้อมกันเถอะ”
ก่าเหมี่ยวสุ่ยเบี่ยงกายให้ทาง ผายมือเชิญ
ทั้งสองเดินตามกันออกไป
….
ภายในวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าดำทะมึนดูค่อนข้างอึมครึมของแคว้นจิ้น ไท่ซูสยงยกสองมือเท้าเอว ยืนอยู่หน้าแผนที่ฉบับหนึ่ง จ้องมองด้วยแววตาที่แปรเปลี่ยนสลับไปมา
ขันทีหน้าประตูผายมือเชิญ เซ่าผิงปอพยักหน้าพยักหน้าทักทายเล็กน้อย ยกเท้าเดินข้ามธรณีประตูเข้าไป เดินไปหยุดข้างกายไท่ซูสยงแล้วแสดงความเคารพ “ฝ่าบาท”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า