ตอนที่ 568 คนของหมอผี
วิหคยักษ์กางปีกกว้างใหญ่ค่อยๆ โฉบวนแล้วร่อนลงในสวนบุปผาอย่างช้าๆ ศิษย์จำนวนมากจากวังสวรรค์หมื่นวิมานก็เริ่มไปรวมตัวป้องกันทางสวนบุปผาแล้ว
ผู้มาเยือนนิ่งสุขุม ไม่ปรากฏความเป็นปรปักษ์ใดๆ ทางนี้จึงไม่บุ่มบ่ามสร้างความวุ่นวายเช่นกัน
คนที่สามารถใช้วิหคพาหนะได้จะใช่คนธรรมดาทั่วไปหรือ? จึงไม่กล้าผลีผลามเช่นกัน
เมื่อวิหคร่อนแตะพื้นก็หุบปีก ชายหนุ่มกระโดดลงมายังพื้น ท่วงท่ายามกระโดดลงพื้นทำให้เหล่าศิษย์วังสวรรค์หมื่นวิมานมองหน้ากัน มองจากท่าทางแล้วดูเหมือนผู้มาเยือนจะไม่มีพลังสภาวะใดๆ เลย
“เจ้าเป็นใคร?” ศิษย์กลุ่มหนึ่งปราดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ต่างชักกระบี่จ่อชี้ไปตรงหน้าอีกฝ่ายอย่างพร้อมเพรียง
ชายหนุ่มมองคมกระบี่ล้ำค่าที่อยู่เบื้องหน้า เอ่ยตอบเสียงเรียบนุ่มทุ้ม “ข้าเป็นผู้ใดไม่สำคัญ หากต้องการให้ข้าไป ข้าก็จะไปเดี๋ยวนี้”
“เจ้าคือ…” มีศิษย์คนหนึ่งดูเหมือนจะจดจำผู้มาเยือนได้ พลันโบกมือด้วยความตกใจพลางเอ่ยว่า “ลดมือลง รีบลดกระบี่ลง!”
วิหคยักษ์มิใช่พาหนะที่คนธรรมดาจะมีไว้ใช้งานได้ เสียงเอะอะจากการมาถึงของอีกฝ่ายได้ล่วงรู้ถึงหูคณะผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์หมื่นวิมานที่อยู่ในจวนแล้ว พวกซือถูเย่าจึงรีบมายังทางนี้
ยังไปไม่ถึงสวนบุปผาก็มีศิษย์ทะยานออกมาจากสวนบุปผาขวางหน้าพวกเขาไว้ เอ่ยด้วยสีหน้าเจือความดีใจและรีบร้อนลนลาน “เจ้าสำนัก คนของหมอผีมาแล้วขอรับ!”
พวกซือถูเย่าล้วนผงะงัน ค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ
หลีอู๋ฮวาที่มีสีหน้าซูบเซียวเอ่ยด้วยความสะเทือนอารมณ์ “พูดจาซี้ซั้ว เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผู้มาเป็นคนของหมอผี?” เขาก็ไม่กล้าเชื่อข่าวดีนี้เช่นกัน
ฝ่ายศิษย์ตอบว่า “อาจารย์ พวกเราเคยพบมาแล้วขอรับ เคยพบมาก่อนตอนที่คุณชายใหญ่ถูกหมอผีพาตัวจากไปหน้าประตูใหญ่ เป็นบุรุษผู้นั้นที่ติดตามหมอผีมา ท่านก็เคยพบเขาแล้ว ไม่ผิดแน่ขอรับ เป็นเขาจริงๆ”
หลีอู๋ฮวาสั่นสะท้านไปทั้งกายา ชื่อเสียงลือเลื่องของบุคคลดั่งเงาทอดใต้ร่มไม้ หมอผีขึ้นชื่อลือชาว่ารักษาได้ทุกอาการ ทำให้เขามองเห็นความหวังขึ้นมา
เขาไม่สนใจกฎเกณฑ์ใดๆ อีกทั้งไม่สนใจประมุขที่อยู่ข้างกายแล้ว หลีอู๋ฮวาพุ่งทะยานออกไปคนเดียว มุ่งหน้าไปยังสวนบุปผา
พวกซือถูเย่ามองหน้ากัน ไม่ใส่ใจความเสียมารยาทของหลีอู๋ฮวา เนื่องจากพอจะเข้าใจความรู้สึกได้ ต่างพากันทะยานตามไป
เพิ่งมาถึงทางเข้าสวนบุปผา ก็มองเห็นศิษย์กลุ่มหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งด้วยท่าทางระแวดระวัง รูปลักษณ์ล่องลอยพิสุทธิ์หลุดพ้นโลกีย์ แฝงบุคลิกสง่างามเย็นชาบางอย่างที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้
พอหลีอู๋ฮวาได้พบก็ปรีดานัก ใช่เขาจริงๆ ไม่ผิดเลย เป็นคนผู้นั้นที่ติดตามข้างกายหมอผีจริงๆ
เขาควบคุมความปรีดาอย่างบ้าคลั่งไม่อยู่ สาวเท้าวิ่งเข้าไปหาแล้วค้อมกายคำนับเต็มพิธี “ไม่ทราบว่าท่านหมอจะมาเยือน หากเสียมารยาทไปโปรดให้อภัยด้วย”
พวกซือถูเย่าที่ตามหลังมามองพินิจชายหนุ่มผู้นี้
ฝ่ายชายหนุ่มเอ่ยว่า “ทุกคนล้วนไม่รู้จักหน้าค่าตา ไม่อาจกล่าวเรื่องเสียมารยาทอันใดได้”
ซือถูเย่าเดินเข้ามา ประสานมือกล่าวว่า “ข้าพเจ้าคือซือถูเย่าประมุขวังสวรรค์หมื่นวิมาน ขอบังอาจถามถึงชื่อเสียงเรียงนามของท่าน เกี่ยวข้องกับหมอผีเช่นใดหรือ?”
“ไปดูอาการผู้ป่วยเถอะ!”
คล้ายว่าชายหนุ่มไม่อยากคุยจุกจิกให้มากความอีก พอเอ่ยจบก็เดินผ่านไปด้วยสีหน้าราบเรียบเฉยเมย เดินผ่านหน้าซือถูเย่าไปเช่นนี้
ประมุขผู้ทรงเกียรติแห่งวังสวรรค์หมื่นวิมานกลับถูกมองข้ามไปเสียแล้ว ซือถูเย่ารู้สึกขายหน้าขึ้นมา จนปัญญาว่าถึงมีโทสะก็ไม่อาจแสดงออกมาได้
“ขอรับๆๆ!” หลีอู๋ฮวาตอบรับรัวเร็ว ไม่ทันใส่ใจตระหนักรู้เลยว่าศิษย์พี่ประมุขเสียหน้าแล้ว พยักหน้ารับค้อมกายให้เล็กน้อยแล้วเดินนำทางอยู่ด้านหน้า
กลุ่มคนที่อยู่รอบข้างลอบสังเกตปฏิกิริยาของซือถูเย่าเงียบๆ
ซือถูเย่าเอ่ยอย่างสุขุม “บุคลิกท่าทีสมเป็นผู้ทรงภูมิ แต่ดูอายุน้อยไปหน่อย ไม่ทราบเช่นกันว่าจะมีทักษะการแพทย์อันเลิศล้ำอยู่จริงหรือไม่” เขาโบกมือเล็กน้อย พาทุกคนตามไปอีกครั้ง…
มีเสียงเคาะประตูแว่วขึ้นสองที จากนั้นประตูก็ถูกผลักเปิดอย่างเร่งร้อน
หนิวโหย่วเต้าที่นั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ พอเห็นว่าเป็นก่วนฟางอี๋ที่เดินเข้ามาอย่างเร่งร้อนก็ค่อยๆ กดฝ่ามือเก็บลมปราณ เอ่ยถาม “ฟ้าจะถล่มหรือไร รีบร้อนอันใดกัน?”
ก่วนฟางอี๋เอ่ยแจ้วๆ ว่า “รีบเข้าเถอะ ไปดูกันเร็ว เข้าแพร่ข่าวไปถึงหมอผีเข้าแล้วจริงๆ ได้ยินว่าคนของหมอผีมาแล้ว”
“คนของหมอผีงั้นหรือ?” หนิวโหย่วเต้าผงะไป จากนั้นก็หยิบกระบี่ที่อยู่ข้างๆ มาถือ ลงจากเตียงแล้วรีบเดินออกไป
เมื่อทั้งสองมาถึงลานเรือนส่วนในก็เห็นหลีอู๋ฮวาที่มีสีหน้าพินอบพิเทาเดินนำทางชายหนุ่มชุดขาวที่สง่างามเป็นอย่างยิ่งเข้ามา มีพวกซือถูเย่าตามหลังมาด้วย
หนิวโหย่วเต้าทะยานเข้าไปขวางหน้า ยันกระบี่ไว้กับพื้น ขวางทางเดินไว้ ทำให้ทั้งกลุ่มต้องหยุดลงชั่วคราว
“น้องหนิว เจ้าจะทำอะไร?” หลีอู๋ฮวาแปลกใจ
หนิวโหย่วเต้าจ้องมองชายหนุ่มแปลกหน้า เอ่ยถามเสียงเรียบ “ได้ยินว่าคนของหมอผีมาถึงแล้วหรือ?”
“ใช่!” หลีอู๋ฮวาผายมือแนะนำ “เป็นท่านผู้นี้”
หนิวโหย่วเต้าถาม “ผู้อาวุโสหลีแน่ใจหรือ?”
ใช่ว่าเขาอยากหาเรื่องอีกฝ่าย แต่หากว่าเป็นคนที่มีจิตคิดไม่ซืออันใดขึ้น ทางไห่หรูเยวี่ยคงไม่มีแม้แต่โอกาสรอดแล้ว
“ท่านหมอเคยมาพร้อมกับหมอผี ข้าเคยพบมาแล้ว” หลีอู๋ฮซ่ากล่าวพลางรีบดึงเขาให้หลบทางไป ท่าทางคล้ายจะตำหนิว่าหนิวโหย่วเต้าเรื่องมาก
เคยพบแล้วงั้นหรือ? หนิวโหย่วเต้าพูดไม่ออกเลย ไม่คิดเลยเช่นกันว่าคนของฝั่งหมอผีที่มิใช่ตัวหมอผีเองจะมาปรากฏตัวที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง กล่าวเช่นนี้คือ เจตนาดีของตนกลับทำให้เสียเรื่องแล้ว
เขาประประสายมือกุมกระบี่เอ่ยไปว่า “ล่วงเกินแล้ว ข้าพเจ้าหนิวโหย่วเต้า ขอบังเรียนถามนามของท่าน…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า