ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 578

ตอนที่ 578 ตั้งครรภ์

ฟังจากวาจาเขาแล้วเหมือนกลุ่มคนด้านนอกขวางประตูบ้านเขาเองก็มิปาน

อู๋ซินกล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นท่านพูดเอง ข้าไม่ได้บังคับท่านนะ หากว่าทำไม่ได้ แขนขาของท่านก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้เช่นกัน”

เฮ่าอวิ๋นเซิ่งแสดงสีหน้าหวาดหวั่นเล้กน้อย รีบเอ่ยว่า “เมื่อพูดแล้วย่อมต้องทำให้ได้ ทำได้แน่นอน ท่านหมอโปรดวางใจ”

เขาคุ้นเคยกับข่าวลือของหมอผีดี ดูเหมือนหมอผีจะไม่มีอิทธิพลใด แต่คนที่มีทักษะการแพทย์ถึงระดับนั้น ย่อมมีอิทธิพลที่มองไม่เห็นอยู่ น่ากลัวยิ่งกว่ากลุ่มอิทธิพลที่มองเห็นได้เสียอีก อีกฝ่ายไม่มีทางเห็นท่านอ๋องอย่างเขาอยู่ในสายตาแน่นอน

อู๋ซินไม่พูดมากอีก หลังจากล้างมือเสร็จก็เข้าไปในศาลา สั่งกัวม่านไปหยิบเครื่องเขียนมาให้ ลงมือเขียนเทียบยาแผ่นหนึ่งด้วยตัวเองแล้วยื่นส่งให้เฮ่าอวิ๋นเซิ่ง “ขาของเจ้าบาดเจ็บเรื้อรังมานาน ไม่เหมาะจะทำการรักษาทันที ต้มยาตามเทียบนี้ แช่ขาเป็นเวลาสามวันก่อน แช่ทุกเช้าเย็นครั้งละหนึ่งชั่วยาม ปรับชีพจรและเส้นเลือดที่บาดเจ็บเรื้อรังให้ดีขึ้น อีกสามวันให้หลังเจ้าค่อยมาใหม่ ข้าจะตรวจอาการดูแล้วค่อยตัดสินใจเรื่องวิธีรักษา”

เฮ่าอวิ๋นเซิ่งยื่นสองมือออกไปรับมาเสมือนได้รับสมบัติล้ำค่า พยักหน้าถี่ๆ “จะทำตามที่ท่านหมอสั่งแน่นอน”

ท่าทางนั้นดูจริงจังยิ่งกว่ารับราชโองการจากฮ่องเต้เสียอีก

“ส่งแขก!” พูดจบอู๋ซินก็หยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าว

กัวม่านผายมือเชิญแขก เฮ่าอวิ๋นเซิ่งมองสำรับเรียบง่ายบนโต๊ะ เริ่มเอ่ยเอาใจขึ้นมา “สำรับอาหารจากร้านอาหารเช่นนี้ไม่คู่ควรกับท่านหมอเลย ต่อไปข้าจะให้คนคอยจัดเตรียมอาหารสำหรับท่านหมอโดยเฉพาะ ส่งมาให้ตรงตามเวลา”

อู๋ซินตอบสั้นๆ “ไม่จำเป็น”

เฮ่าอวิ๋นเซิ่งจึงทำได้เพียงล้มเลิกความตั้งใจไป แต่ยังคงส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามข้างกาย หยิบตั๋วแลกทองปึกหนึ่งออกมา วางตั๋วแลกทองมูลค่าหนึ่งแสนเหรียญทองลงบนโต๊ะ “เป็นน้ำใจเล็กน้อย ขอท่านหมออย่าได้รังเกียจ”

สำหรับตั๋วแลกทองนี้ อู๋ซินกลับไม่ได้ปฏิเสธ กินอาหารของตนต่อไปอย่างไม่อนาทร

“เชิญ!” กัวม่านผายมือเชิญแขกอีกครั้ง

“ได้ๆๆ เชิญท่านหมอตามสบายเถิด ข้าไม่รบกวนแล้ว” เฮ่าอวิ๋นเซิ่งถอยหลังไปค้อมกายอำลา หลังออกจากประตูเรือนไปแล้วก็ไม่ลืมที่จะประสานมือกล่าวขอบคุณกัวม่าน

หลังจากกัวม่านกลับมาก็นั่งลงตรงข้ามอู๋ซินแล้วกินอาหารด้วยกัน

อู๋ซินชี้ตั๋วแลกทอง “เจ้าเก็บไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน”

กัวม่านขาดแคลนเงิน อีกทั้งพอจะเข้าใจอุปนิสัยของอีกฝ่ายพอสมควรแล้ว สั่งอะไรก็ทำตามไป ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ หยิบตั๋วแลกทองมา อดไม่ได้ที่กระแอมเล็กน้อย

ใจกว้างเหลือเกิน ยังไม่ทันแน่ใจเลยว่าจะรักษาให้หายได้หรือไม่ อีกทั้งไม่ได้บอกด้วยว่าเท่าไร อีกฝ่ายก็ควักเงินให้หนึ่งแสนเหรียญทองแล้ว เงินนี้ออกจะได้มาง่ายเกินไปหน่อยแล้ว ดีกว่าตอนนางเป็นผู้บำเพ็ญเพียรไร้สำนักจริงๆ

….

ณ จวนอิงอ๋อง หลังจากกินมื้อเย็นเรียบร้อย เฮ่าเจินก็เป็นฝ่ายเรียกเซ่าหลิ่วเอ๋อร์ออกไปเดินเล่นในสวนด้วยกัน

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์ทราบดีว่าเขาต้องมีเรื่องใดอยู่แน่นอน นางเดินเป็นเพื่อนพลางเฝ้ารอคอย

เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ หลังจากเดินไปได้ครึ่งรอบ เฮ่าเจินถามขึ้นมา “ติดต่อพี่ชายเจ้าแล้วได้ความว่าอย่างไรบ้าง?”

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์ตอบว่า “ติดต่อไปหาแล้วเพคะ แต่เขาไม่ได้บอกอะไร เพียงกำชับให้หม่อมฉันดูแลตัวเองดีๆ”

“อืม!” เฮ่าเจินพยักหน้ารับ “หลิ่วเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนฉลาด เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องให้ข้าพูดมากอีก ต่อไปติดต่อกับพี่ชายเจ้าให้มากหน่อยเถอะ”

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์เอ่ยตอบ “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ”

ทั้งสองไม่มีบทสนทนาใดร่วมกันอีก หลังจากนั้นเป็นเพียงการเดินเล่นอย่างแท้จริง หลังจากเดินวนครบอีกครึ่งรอบ เซ่าหลิ่วเอ๋อร์ก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน “ท่านอ๋อง ได้ยินว่าศิษย์หมอผีมาเยือนเมืองหลวงแล้ว”

เฮ่าเจินตอบว่า “ชื่ออู๋ซินอะไรสักอย่าง ชื่อแปลกพิกล คล้ายจะมิใช่นามที่แท้จริง”

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์เอ่ยว่า “ได้ยินว่าคหบดีชนชั้นสูงมากมายล้วนส่งคนไปยื่นเทียบขอเข้าพบ ออกันอยู่หน้าประตูเรือนของอู๋ซินผู้นั้น”

เฮ่าเจินกล่าวว่า “พอจะเข้าใจได้ บางส่วนก็อยากจะไปขอให้ช่วยรักษาจริงๆ แต่ส่วนใหญ่คิดอยากไปสานสัมพันธ์มากกว่า”

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์เอ่ยว่า “อาการป่วยบางอย่างก็ใช้พลังปราณของผู้บำเพ็ญเพียรรักษาไม่ได้ เกิดแก่เจ็บตายย่อมไม่อาจเลี่ยงได้ มีหมอเลื่องชื่อเช่นนี้อยู่ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ คหบดีผู้มั่งคั่งคนใดบ้างที่ไม่อยากให้เขาช่วยตรวจอาการดู ล้วนอยากสานสัมพันธ์ไว้ทั้งนั้น ได้ยินว่าพิษร้ายขององค์หญิงใหญ่แห่งจินโจวในแคว้นจ้าวก็เป็นเขาที่ถอนพิษให้ เหตุใดท่านอ๋องไม่ทรงยื่นเทียบดูเล่าเพคะ คบค้าคนเช่นนี้ไว้ไม่เป็นผลเสียแน่นอน หากท่านอ๋องคิดว่าไม่เหมาะสม เช่นนั้นให้หม่อมฉันยื่นเทียบนามของตนเพื่อขอเข้าพบดีหรือไม่เพคะ?”

เฮ่าเจินกล่าวว่า “นิสัยของคนผู้นี้ดูค่อนข้างแปลก ไม่สะดวกไปทำความรู้จัก ในวังก็ยังไม่มีท่าทีใด ยังอยู่ระหว่างสังเกตการณ์ พวกเราอย่าเข้าไปร่วมเรื่องครึกครื้นนั้นเลย เพิ่งได้ข่าวมาว่าเสด็จอาแห่งจวนตะวันตกเพิ่งไปพบคนผู้นั้นมา ส่งคนกลุ่มหนึ่งไปขับไล่คนที่ออขวางอยู่ในตรอกออกจนหมดแล้ว ไม่ให้ใครไปรบกวนศิษย์หมอผีคนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงล่วงเกินคนไม่น้อยเลย รอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด”

เซ่าหลิ่วเอ๋อร์พยักหน้ารับ “ท่านอ๋องกล่าวถูกแล้วเพคะ หม่อมฉันทราบแล้ว อุบ…” จู่ๆ นางก็ยกมืออุดปาก ท่าทางเหมือนอยากจะอาเจียน

เฮ่าเจินแปลกใจ “เป็นอะไร? ไม่สบายหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า