ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 595

ตอนที่ 595 ปะทะซึ่งหน้า

ทำนองเดียวกัน หนิวโหย่วเต้าคิดไม่ถึงว่าราชสำนักจะส่งยอดฝีมือชั้นแนวหน้าอย่างจงหยวนมา หวงเลี่ยย่อมคิดไม่ถึงเช่นกันว่าหนิวโหย่วเต้าจะเชิญยอดฝีมือระดับเดียวกันมาได้

ตอนเผชิญการลอบสังหารระหว่างกลับจากมณฑลจินโจว ชายในชุดลายดอกไม่ได้ลงมืออะไรมากนัก ทันทีที่คนของหอจันทร์กระจ่างมาถึง ชายในชุดลายดอกก็หยุดมือทันที ปล่อยให้คนของหอจันทร์กระจ่างเข้าขัดขวางมือสังหาร ฝ่ายมือสังหารก็ติดกับดักที่หนิวโหย่วเต้าขุดไว้ ถูกหอจันทร์กระจ่างปิดล้อมกวาดล้าง

ในที่เกิดเหตุนอกจากพวกหนิวโหย่วเต้าแล้ว คนที่ได้เห็นฝีมือของชายในชุดลายดอกอย่างแท้จริงก็คือศิษย์ของวังสวรรค์หมื่นวิมาน ภายใต้การปิดล้อมของหอจันทร์กระจ่าง คนของราชสำนักที่อยู่รอบนอกไม่มีทางได้เห็นภาพที่ชายในชุดลายดอกลงมือ

ตอนนั้นหอจันทร์กระจ่างไม่ได้เห็นเหตุการณ์ชัดเจนจึงไม่ทราบเรื่อง แต่วังสวรรค์หมื่นวิมานและหอจันทร์กระจ่างล้วนแต่อยู่ในช่วงเวลาที่ต้องการอยู่อย่างสงบ ตอนนี้ต่างไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำร้ายเขา น่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับให้เขาแน่นอน

ในมุมมองของหนิวโหย่วเต้า ตามหลักแล้วตอนนี้ราชสำนักน่าจะยังไม่รู้ว่าเขามียอดฝีมือชั้นแนวหน้าคอยคุ้มกันอยู่ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าในกองกำลังที่ระดมพลมาจะมีคนระดับจงหยวนออกโรงมาด้วย

แล้วจะให้หวงเลี่ยเชื่อได้อย่างไรล่ะว่าข้างกายหนิวโหย่วเต้าจะมีคนที่สามารถต่อกรกับจงหยวนแฝงตัวอยู่ด้วย

จงหยวนอย่างนั้นหรือ? ก่วนฟางอี๋อกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา สอดมือเข้าไปในแขนสื้อคีบยันต์อาคมเอาไว้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา

ด้วยยันต์กระบี่สวรรค์ในมือนาง แถมยังมีชายในชุดลายดอกอีกคน นี่คือเหตุผลที่หนิวโหย่วเต้ายังยืนอยู่ตรงนี้อย่างสุขุมได้!

ในขณะเดียวกัน ความสุขุมเยือกเย็นของทางนี้ก็ทำให้แววตาของจงหยวนที่สังเกตการณ์อยู่กลางอากาศวูบไหวขึ้นมา

….

“ถอนกำลัง ถอยกลับมาป้องกัน!”

หยวนกังที่ยืนสังเกตการต่อสู้อยู่บนยอดเขาตะโกนสั่งซูเจี๋ยเหริน ซูเจี๋ยเหรินออกคำสั่งทันที ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

แนวป้องกันด้านล่างโกลาหลขึ้นมา ระยะโจมตีของธนูมีขีดจำกัด ประกอบกับศิษย์ของหอบุปผาล่องก็จับจุดได้แล้ว ตกอยู่ในสถานการณ์จวนตัวจึงยกศพของศิษย์ร่วมสำนักขึ้นกำบังเหนือหัวแล้วพุ่งทะยานมุ่งหน้าต่อไป แม้จำนวนผู้รอดชีวิตที่บุกเข้ามาได้จะมีไม่มาก แต่เป็นศิษย์ระดับหัวกะทิของหอบุปผาล่องทั้งสิ้น ศิษย์ในระดับสร้างฐานส่วนใหญ่ล้มตายด้วยคลื่นธนูและหอกเหล็กหมดแล้ว ศิษย์ที่บุกฝ่าออกมาได้เป็นระดับโอสถทองแทบทั้งสิ้น

เฟ่ยฉางหลิวและเหล่าผู้อาวุโสออกโรงด้วยตัวเองแล้ว ศิษย์สำนักเซียนสถิตทั้งหมดล้วนเข้าปิดล้อมโจมตี แต่หากว่ากันในแง่ของพลังแล้วไม่อาจสู้ผู้รอดชีวิตของหอบุปผาล่องกลุ่มนี้ได้เลย จุดที่ได้เปรียบคือก่อนหน้านี้คลื่นธนูได้ผลาญพลังปราณของอีกฝ่ายไปไม่น้อยแล้ว แต่ก็ยังคงยากจะสกัดต้านเอาไว้ได้

ในอดีตหอบุปผาล่องและสำนักจิตกระจ่างเคยปกครองมณฑลหนานโจว จึงย่อมมิใช่สำนักที่ทางฝั่งสำนักเซียนสถิตจะไปเทียบชั้นได้ การต่อสู้แบบปิดล้อมตะลุมบอนก็ทำให้สำนักเซียนสถิตบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อยเช่นกัน

สำนักเซียนสถิตเองก็กำลังสู้สุดชีวิตเช่นกัน อีกทั้งไม่เหลือทางถอยแล้ว ทันทีที่ถอยก็จะตกอยู่ในหายนะล่มสำนัก ถูกบีบให้มาอยู่ในจุดนี้แล้วหากไม่สู้สุดชีวิตแล้วจะให้รอไปถึงเมื่อไรเล่า?

ก่อนหน้านี้นึกว่าเป็นการฝึกซ้อม ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเพียงพริบตาเดียวจะกลายเป็นเรื่องจริงเสียได้ กลายเป็นหายนะที่ทำให้สำนักต้องล่มจมได้

หอบุปผาล่องก็ไม่เหลือทางถอยแล้วเช่นกัน ฐานกำลังของสำนักประสบความสูญเสียร้ายแรง ต่อให้ตีชิงมณฑลหนานโจวมาได้ ศิษย์ส่วนใหญ่ก็ตายไปหมดแล้ว ยากจะควบคุมมณฑลหนานโจวไว้ได้

แม้จะทราบดีว่าเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่อาจถอยได้แล้ว ทันทีที่ล่าถอยแล้วราชสำนักไม่ปราณีขึ้นมา ศิษย์หอบุปผาล่องก็เท่ากับตายเปล่า หากฐานกำลังของหอบุปผาล่องประสบความเสียหายร้ายแรงแล้วยังไปยั่วโทสะราชสำนักอีก พวกเขาจะยังมีที่ยืนในแคว้นเยี่ยนได้อีกหรือ ทำได้เพียงสู้สุดชีวิตเพื่อคว้าชัยชนะมาให้ได้ ด้วยการทุ่มเทลงทุนของราชสำนัก พวกเขายังพอมีหวังจะได้ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง

เฉาอวี้เอ๋อร์มีเลือดเปรอะทั่วร่าง ผมสยายรุ่ยร่าย นางส่งเสียงคำรามดุดันอย่างต่อเนื่องอยู่ท่ามกลางวงล้อมโจมตีของคนกลุ่มหนึ่ง!

ทัพธนูถูกลูกหลงจากการต่อสู้จนเละเทะวุ่นวาย แม้จะเป็นทหารที่ผ่านประสบกรณ์ในสนามรบมาอย่างโชกโชน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการรุมโจมตีของเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรก็ต้านไม่ไหวอยู่ดี

แม้ว่าจะไม่กริ่งเกรงความตาย แต่อีกฝ่ายซัดฝ่ามือใส่ทีเดียว ทางนี้ก็กระเด็นออกไปเป็นวงกว้างแล้ว ตวัดกระบี่ฟันมาทีหนึ่งก็มีเลือดเนื้อปลิวว่อนเป็นกลุ่มๆ เสมือนหมาป่าที่ทะลวงเข้าสู่ฝูงแกะ ฆ่าฟันทหารจำนวนมากล้มตายไปดั่งหั่นผักหั่นปลา

เพียงชั่วพริบตา เกรงว่าจะมีทหารล้มตายไปนับพันแล้ว อีกทั้งการมีทหารเหล่านี้ปะปนอยู่ก็ทำให้ศิษย์สำนักเซียนสถิตต่อสู้ได้ไม่เต็มที่ด้วย แต่ฝ่ายศิษย์หอบุปผาล่องที่โจมตีเข้ามากลับไม่ต้องสนใจคนเหล่านี้เลย ขอเพียงไม่ใช่พวกเดียวกัน พบใครก็สังหารอย่างโหดเหี้ยมทั้งสิ้น

‘โหม่งๆๆ…’

เมื่อเสียงฆ้องแว่วดังขึ้น กองทหารที่หลบหนีกันอย่างอนาถก็ถอยกลับขึ้นเขาไปอย่างรวดเร็วดั่งกระแสน้ำหลาก

ธงคำสั่งบนยอดเขาโบกไปมา กองทหารที่ล่าถอยกลับมารวมตัวตั้งขบวนบนเนินเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดถือธนูเฝ้ารออย่างสงบ ปล่อยให้คนของสำนักเซียนสถิตและหอบุปผาล่องต่อสู้ห้ำหั่นกัน ขอเพียงมีคนของหอบุปผาล่องฝ่าขึ้นมาได้ ก็จะถูกห่าศรสะกดเอาไว้ ตั้งแนวป้องกันเฝ้าด้านนี้อย่างหนาแน่น!

หยวนกังที่ขบกรามแน่นจนแก้มตึงเงยหน้าขึ้น มองวิหคยักษ์ที่บรรทุกคนบินผ่านนภาไปอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองฝั่งคฤหาสน์บนเขา

พวกลุงเฉินต่างหันกลับไปมอง กังวลใจเช่นกัน

….

บนหอสูงด้านในคฤหาสน์ ทุกคนก็สังเกตเห็นวิหคยักษ์ของฝ่ายศัตรูที่บินมุ่งเข้ามาอีกครั้งแล้วเช่นกัน

ชายชุดดำคนหนึ่งผิวปากดังวี้ดขึ้นมา วิหคยักษ์สิบตัวที่หมอบอยู่ในคฤหาสน์กระพือปีกโผบินอีกครั้ง คนชุดดำกลุ่มหนึ่งทะยานตามขึ้นไป พากันกระโดขึ้นสู่หลังวิหคยักษ์สิบตัวนั้น มุ่งหน้าเข้าสกัดวิหคยักษ์ฝ่ายศัตรูที่บินเข้ามาอีกครั้ง

ฝ่ายนี้ไม่มีทางยอมปล่อยให้อีกฝั่งได้บุกเข้าสู่คฤหาสน์กระท่อมฟางง่ายๆ ในคฤหาสน์มีบุคคลที่สมาชิกระดับสูงของหอจันทร์กระจ่างลงคำสั่งไว้ว่าเป็นตายอย่างไรก็ต้องปกป้องไว้ให้ได้!

กลางอากาศมีผู้บำเพ็ญเพียรควบคุมวิหคยักษ์ตัวหนึ่งโฉบวนอยู่เพียงลำพัง เป็นผู้บำเพ็ญเพียรที่อยู่ในชุดขันที เขาหันไปมองจงหยวนเอ่ยถามเสียงเข้ม “อาจารย์จง คนที่ยืนค้ำกระบี่อยู่ในหอสูงผู้นั้นก็คือหนิวโหย่วเต้า ไม่ผิดตัวแน่นอน ท่านสมควรลงมือได้แล้วกระมัง?”

สีหน้าจงหยวนราบเรียบไร้อารมณ์ เขาต้องลงมือแน่อยู่แล้ว แต่ไม่มีทางยอมลงมือง่ายๆ ราชสำนักแตะต้องคนของเขา แล้วเขาจะทำเหมือนไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นได้อย่างไร เขามองเห็นสถานการณ์ด้านล่างแล้ว กองกำลังป้องกันของทางนี้แข็งแกร่งมาก เขาย่อมไม่รังเกียจที่จะเห็นราชสำนักประสบความสูญเสียมากหน่อย

หรือยังจะให้เขาปกปองคนของทางราชสำนักแคว้นเยี่ยนด้วยล่ะ? ต่อให้เขาจะใจกว้างเพียงใดก็ไม่มีทางใจกว้างถึงขนาดนั้น!

ตอนที่ 595 ปะทะซึ่งหน้า 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า