ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 69

ตอนที่ 69 ตอนนี้….ไม่ได้!

ไป๋เหยาไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่สะดวกจะพูดอะไร ถึงแม้เขาจะเห็นด้วยกับการจัดการเรื่องนี้ให้จบสิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เฟิ่งรั่วหนานเอาแต่ก่อเรื่องจนพาลทำให้เสียเรื่อง แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนของทางเฟิ่งรั่วหนาน เขาออกหน้าปรามเฟิ่งรั่วหนานได้ ทว่าไม่เหมาะจะเข้าข้างฝั่งหนิวโหย่วเต้าต่อหน้าเหล่าทหารได้

แต่การที่เขานิ่งเงียบไม่ปริปากพูด ก็ถือเป็นการยอมรับโดยปริยายแล้ว

หนิวโหย่วเต้าย่อมรู้ความดี จึงเอ่ยต่อว่า “ทุกคนอาจจะแปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวมากมายที่ทุกคนอาจจะไม่รู้ พระชายาบอกว่าข้าติดเงินพระองค์ ถูกต้อง ข้าเงินขาดมือจึงไปขอยืมเงินจำนวนหนึ่งจากพระชายาจริงๆ เป็นจำนวนไม่น้อย หนึ่งหมื่นเหรียญทอง! การที่พระชายาทวงเงินก็นับเป็นเรื่องสมเหตุสมผล ข้าเองก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่คืน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดกันให้ชัดเจน นั่นคือเงินก้อนนั้นถูกหยิบยืมมาให้ท่านอ๋อง ตัวข้าไม่ได้ใช้เลยสักแดงเดียว อีกทั้งเงินก้อนนี้ ทางท่านผู้ว่าการก็ออกปากแล้วว่าให้แล้วกันไป แต่ถึงแม้ท่านผู้ว่าการจะบอกให้แล้วกันไป ทว่าหากพระชายายังยืนกรานจะไล่ทวงถาม เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอันใดจะกล่าวอีก ข้าอยากจะขอให้ผู้อาวุโสไป๋ช่วยเป็นคนตัดสินในเรื่องนี้ เวลานี้ข้าหาเงินจำนวนนี้มาคืนให้ไม่ได้จริงๆ ท่านอ๋องเองก็ไม่มีให้เช่นกัน สามารถผ่อนผันออกไปสักหน่อยได้หรือไม่? รอไว้ไปถึงเมืองข้างหน้า เมื่อท่านอ๋องของพวกเราขายม้าศึกได้แล้ว พระองค์จะต้องรวบรวมเงินมาคืนได้แน่นอน ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสไป๋คิดเห็นประการใดบ้าง?”

พวกซางเฉาจงหมดคำพูด โดยเฉพาะซางเฉาจงที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วน บอกว่าเป็นเงินที่เขายืมอีกแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถปฏิเสธได้ จะขายม้าศึกของเขาอีกแล้ว….

มุมปากไป๋เหยากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เฟิ่งรั่วหนานโมโหจนแทบจะกระอักเลือด ช่วงแรกๆ หนิวโหย่วเต้าพูดจาวางภูมิดูมีเหตุผล หลงนึกว่าเขาจะขอผ่อนผันสักหน่อยแล้วจะนำเงินมาคืนให้แน่นอน แต่พูดไปพูดมา ที่แท้ก็จะขายม้าศึกอีก ถ้าเฟิ่งหลิงปอทราบเรื่องนี้แล้วไม่โมโหน่ะสิถึงจะแปลก พูดจาเป็นคุ้งเป็นแคว สุดท้ายล้วนแต่ไร้สาระทั้งสิ้น ว่ากันตรงๆ แล้วก็คือไม่คิดจะคืนเงินอยู่ดี!

หนิวโหย่วเต้าไม่เคยคิดจะชดใช้เงินจำนวนนี้ อีกทั้งคนที่ติดค้างเงินก็ไม่ใช่เขา เขาไม่ได้ใช้เงินจำนวนนี้เลยแม้แต่แดงเดียว ทั้งหมดล้วนใช้จ่ายเพื่อซางเฉาจงทั้งสิ้น อีกอย่างตอนนี้ซางเฉาจงกับเฟิ่งรั่วหนานก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาทวงถามเงินจำนวนจากเขา? ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!

ไป๋เหยาเหลือบมองหนิวโหย่วเต้าแวบหนึ่ง คนผู้นี้กระทำเรื่องไร้ยางอายโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย!

แต่คนอื่นๆ ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องราว จึงมีคนแอบซุบซิบกันขึ้นมา ส่วนใหญ่ล้วนรู้สึกว่าเฟิ่งรั่วหนานกำลังพาลพาโลไร้เหตุผล ในเมื่อซางเฉาจงเป็นคนยืมเงินไป ซ้ำนางยังกลายเป็นสามีภรรยากับซางเฉาจงแล้ว การจะมาพูดเรื่องคืนเงินอันใดอีกมันก็ออกจะเกินไปหน่อยจริงๆ

โดยเฉพาะทหารองครักษ์ของทางซางเฉาจงยิ่งบ่นอุบอิบอยู่ในใจ หรือคิดจะขายม้าศึกแล้วให้พวกเราเดินเท้าไปยังอำเภอชางหลู?

นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เฟิ่งรั่วหนานโมโหจนแทบกระอักเลือด คนไร้เหตุผลกลับกลายเป็นนางไปเสียแล้ว แต่ในเรื่องนี้นางกลับยกเหตุผลอะไรที่ฟังขึ้นมาโต้แย้งไม่ได้เลย นี่ยิ่งจะทำให้นางดูโวยวายไร้เหตุผลมากกว่าเดิม อึดอันจนหายใจไม่ออกแล้ว!

เหตุผลที่ทำให้นางทนไม่ไหวจนต้องก่อเรื่องขึ้นมานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนิวโหย่วเต้าด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่ที่ได้พบหนิวโหย่วเต้าในค่ายทหารวันนั้น มันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความโชคร้ายของนาง ไม่เพียงแต่จะระบายความโกรธแค้นออกมาไม่ได้ แต่เรื่องน่าคับข้องไม่เป็นธรรมก็ยังประเดประดังเข้ามาหานางเรื่องแล้วเรื่องเล่า หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงข่มกลั้นความโกรธแค้นนี้ไม่ไหวเช่นกัน โดยเฉพาะกับแม่ทัพหญิงผู้ตรงไปตรงมาอย่างนาง นางเคยต้องได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้เสียเมื่อไรกัน?

ไป๋เหยาเอ่ยปาก “ในเมื่อท่านผู้ว่าการเคยบอกว่าเรื่องเงินจำนวนนี้ให้แล้วกันไป เช่นนั้นก็แล้วกันไปเสีย” เขาพอจะมองออกแล้ว ถ้ายังยึดถือเรื่องเงินไม่ยอมเลิกรา ด้วยความไร้ยางอายของหนิวโหย่วเต้านี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเอาม้าศึกไปขายจริงๆ ทันทีที่ส่งข่าวกลับไป เฟิ่งหลิงปอไม่จะต้องโมโหอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นคนที่จะลำบากก็คือตัวเฟิ่งรั่วหนานเอง

“ตกลง! ในเมื่อผู้อาวุโสไป๋ว่ามาเช่นนี้ ผู้เยาว์ก็จะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก” หนิวโหย่วเต้าประสานมือแสดงความขอบคุณ

หลานรั่วถิงอดกุมขมับไม่ได้ สีหน้าจนปัญญา พบว่าหนิวโหย่วเต้าคิดจะปะทะกับพระชายา นี่มันใช่การสะสางปัญหาเสียที่ไหน นี่เขากำลังคิดจะยั่วโมโหพระชายาชัดๆ!

เฟิ่งรั่วหนานกัดฟันแน่น ความคิดที่อยากจะชักกระบี่ฟันคนปรากฏแวบขึ้นมาในหัว!

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยต่อไปว่า “แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็นับว่าเป็นสาเหตุของความขัดแย้งในวันนี้ด้วย บางทีทุกคนคงจะรู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดน่ะหรือ? อันที่จริงก็ไม่มีอะไร ในคืนเข้าหอของท่านอ๋องและพระชายาคืนนั้น พระชายาไม่ยอมประกอบกิจฉันท์สามีภรรยากับท่านอ๋อง ดังนั้นจึงถูกบริวารที่พระชายาจับตัวไปเมื่อครู่นี้ใช้ลูกไม้เล็กน้อย ทำให้พระชายาไม่อาจขัดขืนได้ ทำให้ท่านอ๋องได้แสดงความองอาจตามหน้าที่สามี พระชายาล้ำกลืนโทสะนี้ไม่ลง จึงมาคิดบัญชีเอากับพวกข้า!” ส่วนเรื่อง ‘วางยา’ ก็ถูกบิดเบือดให้ดูเบาบางลง

ทหารของทั้งสองฝ่ายที่ยืนประจันหน้ากันอยู่ต่างมองหน้ากันเหลอหลา มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? ต้องให้คนนอกช่วยเหลือถึงจะเข้าหอสำเร็จอย่างนั้นหรือ? ทหารบางคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่

ซางเฉาจงสีหน้าบึ้งตึง กัดฟันด้วยความคับข้องอยู่บ้าง ไยต้องยกเรื่องนี้ออกมาพูดด้วย

“สารเลว!” เฟิ่งรั่วหนานอับอายจนพาลโกรธในทันใด ไม่คิดเลยว่าหนิวโหย่วเต้าจะนำเรื่องฉาวโฉ่นี้มาเปิดเผยต่อหน้าผู้คนมากมายแทนตัวนาง ไม่รู้ว่าต่อไปจะถูกคนหยิบยกไปวิจารณ์ลับหลังอีกมากน้อยเพียงใด นางชักกระบี่ออกมา พุ่งเข้าใส่หนิวโหย่งเต้า

ไป๋เหยาเอียงศีรษะเล็กน้อย เหมยหลานจู๋จวี๋ทั้งสี่พลันไหวกาย เข้าขัดขวางและกดตัวเฟิ่งรั่วหนานที่พยายามขัดขืนเอาไว้

หนิวโหย่วเต้ากล่าวไปว่า “ผู้อาวุโสไป๋ คืนเข้าหอท่านเองก็อยู่ คนอื่นไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ท่านทราบดี ข้าคงไม่ต้องพูดมากอีก สรุปคือเรื่องราวในวันนี้เกิดขึ้นเพราะเรื่องในคืนนั้น หากพระชายาอยากคิดบัญชีจริงๆ ก็ให้ไปหาท่านอ๋องเสีย เหตุใดต้องมาไล่เบี้ยกับผู้น้อยอย่างพวกเราด้วย หวังว่าผู้อาวุโสไป๋จะช่วยมอบความเป็นธรรมให้พวกเราด้วย” จากนั้นเขาก็หันไปเอ่ยกับซางเฉาจงว่า “ท่านอ๋อง เงินที่หยิบยืมมาก็เป็นพระองค์ที่ใช้ พระชายาก็เป็นพระองค์ที่แต่งงานด้วย ผู้เสพสุขในห้องหอก็คือพระองค์ จะปล่อยให้ลูกน้องอย่างพวกกระหม่อมแบกรับผลกระทบไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ วันนี้จำเป็นต้องสะสางเรื่องนี้ให้ได้ ยุ่งเหยิงพัวพันกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ พระองค์ไตร่ตรองดูเถอะพ่ะย่ะค่ะว่าจะจัดการอย่างไร” กล่าวจบเขาก็ไม่สนใจอีก โบกมือนำพวกหยวนกังและหยวนฟางถอยออกไป ทิ้งให้ซางเฉาจงรับหน้าต่อ

สำหรับเขาแล้ว หากมีความสามารถไม่พอ เมื่อถึงเวลาที่ควรถอยก็ต้องยอมถอย จะยืนปะทะอยู่ในแนวหน้าไปตลอดไม่ได้

ซางเฉาจงอยากกระโจนเข้าไปกัดหนิวโหย่วเต้าให้ตายใจแทบขาด มีบุรุษที่ไหนที่ประกอบกิจในห้องหอไม่ได้ จนต้องให้คนอื่นมาช่วย? นี่ทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขาป่นปี้หมดแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า