ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 11

“บอกพ่อข้าทำไม เดิมข้าก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อยู่แล้ว วันๆมองดูสุนัขเซียวจิ่นหมิงกับฉีซินจื่อคู่นี้ผ่านไปมา ข้ายังรู้สึกเป็นเสนียดสายตาเลย”

หลายวันมานี้นางล้วนนอนในห้องทดลอง อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน บีบบังคับให้พ่อบ้านไปซ่อมเรือน ก็เพื่อให้หลินหลังซื่อบื้อคนนี้ได้พักสบายหน่อย และก็ต้องสั่งสอนพ่อบ้าน เขาจะได้ไม่ลืมว่าควรยืนอยู่ข้างใคร

“แต่ว่าคุณหนู ท่านไปแล้ว งั้นองค์ชายก็ยิ่งเข้าข้างพระชายารองฉี?” หลินหลังพูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวล

“แล้วแต่เขา เกี่ยวข้องอะไรกับข้า? หลินหลัง ผู้ชายที่จริงไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร” หยุนหรั่นเฟิงพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจว่า “โดยเฉพาะผู้ชายสารเลวอย่างเซียวจิ่นหมิง ควรโยนลงถังขยะ แล้วถูกนำไปมาใช้ใหม่”

หลินหลังฟังไม่เข้าใจ แต่ก็พูดขึ้นมาอย่างจงรักภักดีว่า “คุณหนูพูดถูก”

“อืม ว่าง่าย”

นายบ่าวสองคนคุยไปหัวเราะไป ไม่สนใจผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอก

จุยเฟิงมองดูท่านอ๋องด้านข้างที่ไม่ใช่คนดีอะไรด้วยสายตาแปลกประหลาด ไอขึ้นมาหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ยังจะเข้าไปไหม?”

เดิมท่านอ๋องคิดว่าพระชายาจะไม่ยอมย้าย จึงมาดูด้วยตนเอง กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้....

จุยเฟิงรู้สึกเลื่อมใสพระชายาขึ้นมาทันที

สีหน้าเซียวจิ่นหมิงเขียวคล้ำ ความขุ่นเคืองรอบกายแทบจะระงับไม่อยู่ มองดูผู้หญิงที่ชมดอกไม้อยู่ในลานอย่างสบายใจด้วยสายตาเยือกเย็น แล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป

นางอยากทำยังไงก็แล้วแต่

หยุนหรั่นเฟิงรู้สึกแปลกๆ เงยหน้าขึ้นมา

ตรงหน้าประตูว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่แล้ว

นางส่ายหัว แอบยิ้มว่าตนเองคิดมากไป จากนั้นก็ให้หลินหลังกลับไป ตนเองเข้าไปในห้องทดลองในช่องว่างสักพัก ตอนที่ออกมาได้เอาของล้ำค่าออกมาบ้าง แล้วก็เอามาโปรยอยู่ในเรือนอย่างมีความสุข

พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่นางวิจัยตอนมีเวลาว่าง ลมก็พัดไปไม่ได้ น้ำก็ล้างไม่ได้ เมื่อสัมผัสจะมีตุ่มแดง มีอาการคัน และยังแพร่เชื้อได้ด้วย คนหนึ่งแพร่ไปยังคนที่สอง วันที่สองแพร่ไปเรื่อยๆ.....

ต่อให้เป็นรังสุนัข ก็ใช่ว่าจะสามารถอยู่ได้ง่ายขนาดนั้น ฉีซินจื่อ รอให้กลายเป็นสิวจื่อเถอะ

ย้ายบ้านอย่างรวดเร็วมาก วันที่สองนางก็ย้ายมาอยู่เรือนเหอซินแล้ว

พ่อบ้านทำงานได้คล่องแคล่วรวดเร็วมาก ถึงเรือนเหอซินจะไม่ใหญ่ แต่จัดตกแต่งได้อย่างสง่างาม ด้านหลังเรือนเป็นป่าไผ่ สุดป่าไผ่ก็เป็นภูเขา เมื่อลมพัดมา ใบไผ่พลิ้วไหว คลื่นเสียงกรอบแกรบอย่างต่อเนื่อง ฟังแล้วรู้สึกสบายใจอย่างมาก

หยุนหรั่นเฟิงเห็นแล้วก็ชอบเรือนหลังเล็กนี้ขึ้นมาทันที ต้องทำกระเช้าแขวนไว้ในป่าไผ่ด้วยตนเอง ได้ฟังเสียงคลื่นไม้ไผ่และมองดูทะเลไผ่ ไม่ต้องเห็นหน้าเซียวจิ่นหมิงผู้ชายขยะคนนั้น แล้วก็เข้าไปในห้องทดลองบ่อยครั้ง รู้สึกเหมือนว่าตอนเองได้ใช้ชีวิตเกษียณก่อนกำหนด

ในเมื่อออกไปไหนไม่ได้ นางก็จะต้องมีชีวิตที่ดี เมื่อมีชีวิตที่ดีแล้ว ถึงจะมีแรงพลัง เหยียบย่ำพวกชั่วช้าในจวนองค์ชายแปดให้ราบคาบ

หลินหลังถือถาดอาหารเข้ามา มองดูหยุนหรั่นเฟิงที่นั่งชิงช้าอยู่อย่างสบายใจ แล้วก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเอง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณหนู อาหารที่ในครัวเอามาให้ในวันนี้ล้วนไม่ใช่อาหารที่ท่านชอบทาน หลินหลังทำให้ท่านใหม่นะ”

“จะยุ่งยากขนาดนั้นทำไม ข้าไม่ได้เลือกทาน” หยุนหรั่นเฟิงกระโดดลงมาจากชิงช้า เป็นอาหารที่เจ้าของร่างเดิมไม่ชอบทาน ไม่ใช่นางไม่ชอบทาน จึงพูดขึ้นว่า “เอามาสิ เราทานด้วยกัน”

“คุณหนู……”

“อืม?” หยุนหรั่นเฟิงเงยหน้าขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมหรือ?”

หลินหลังลังเลสักพัก กล่องอาหารที่ซ่อนไว้ตรงมุมออกมา

หยุนหรั่นเฟิงกวาดสายตามองดูผัก สายตาหรี่ลง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่คือที่ห้องครัวเอามาให้?”

ผักใบเหลืองหมดแล้ว เต้าตู้ก็เหม็นแล้ว มี....ถ้วยน้ำต้มไก่ก็ใสมีแต่น้ำ ไม่เห็นมีไก่สักชิ้น ตีนไก่และหัวไก่ผอมลอยอยู่ตรงกลาง ใช้ประกอบละครชีวิตเป็นไก่นอนตายตาไม่หลับ

ยังไงนางก็เป็นถึงพระชายาแปด ให้กินแบบนี้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์