บทที่ 111 การฝึกวิชาของฉิงหยู
“ตอนนี้น้องได้ผ่านเรื่องในครั้งนี้มาแล้ว พี่จึงคิดว่าน้องน่าจะโตพอแล้ว พี่จึงได้เล่าเรื่องนี้!” ฉิงเทียนถอนหายใจเมื่อเห็น แสงของความเกลียดชังในดวงตาของฉิงหยู
เขาไม่รู้เลยว่าการเล่าเรื่องนี้ให้เสี่ยวหยู่ฟังนั้นเป็นเรื่องดีหรือแย่ ฉิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนี้
“พี่ครับ, บอกผมมาทีว่าพ่อกับแม่ตายยังไง? ผมจะล้างแค้นให้พวกท่าน”
ฉิงเทียนคิดถึงเรื่องในวันนั้นขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องยากที่เขาจะลืมได้ “วันนั้นเป็นวันธรรมดาที่พ่อแม่ของพวกเราจะต้องออกไปทำงานตามปกติ ส่วนพี่ก็ดูแลน้องอยู่ที่บ้าน แต่พวกท่านก็ยังไม่กลับมาบ้านกันเลยจนกระทั่งถึงตอนเที่ยง น้องร้องไห้เพราะหิว พี่จึงได้พาน้องไปที่ร้านในหมู่บ้านเพื่อหาซื้ออะไรมาทาน
“แต่ระหว่างทางเข้าหมู่บ้านนั้น พี่ก็เห็นใครบางคนกำลังนอนอยู่ที่พื้นและเต็มไปด้วยเลือด พี่จึงได้รีบพาน้องขณะที่กำลังร้องไห้ไปด้วย”
“เมื่อคนแถวนั้นเห็นว่าพวกเรากำลังมา พวกเขาก็ได้รีบมาคุยกับพวกเราทันทีแล้วหัวหน้าหมู่บ้านก็บอกว่าพ่อแม่ของพวกเรานั้นถูกรถชนตาย ส่วนรถที่ชนนั้นหนีไปแล้วแต่สิ่งที่พี่เห็นคือมีดที่ปักอยู่ที่คอของพ่อ แต่พอพี่จะเข้าไปดูใกล้ๆคนที่อยู่ตรงนั้นก็รีบเอาผ้าขาวมาคลุมศพพ่อแม่ของพวกเราทันที จากนั้นก็มีรถที่มานำศพพ่อแม่ของพวกเราไปยังที่เผาศพ”
ขณะที่พูดอยู่ ฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาไหลออกมาจากตาและพูดขึ้น “ไม่ว่าพี่จะร้องไห้และตะโกนยังไงก็เปล่าประโยชน์ ท้ายที่สุดเหลือเพียงแต่ขี้เถ้าของพ่อแม่ที่กลับมายังพวกเรา”
ตาของฉิงหยูก็แดงขึ้นมาและมีน้ำตาไหลออกมาเมื่อเขาได้ยินที่ฉิงเทียนเล่า
“ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พี่ก็รู้ว่าการตายของพ่อแม่ของพวกเรานั้นไม่เป็นไปตามที่พวกเขาบอก แต่ในอดีตนั้นพี่ยังมีแข็งแกร่งไม่พอที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้พี่มีความสามารถนี้แล้ว พี่จะตามหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเราและทำให้มันต้องตายเสียดีกว่าอยู่” ฉิงเทียนกำหมัดแน่นและเล็บของเขาก็จิกเข้าไปในเนื้อ แต่ฉิงเทียนก็ไม่ได้เปลี่ยนความรู้สึกของเขาไปเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสามารถพูดได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อัดอั้นตันใจมากที่สุดของฉิงเทียน ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะเล่าให้น้องชายฟังแล้วก็ตาม แต่ใจของฉิงเทียนนั้นก็ยังอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดอยู่ดี
………..
“พี่ครับผมอยากจะฝึกวิชาด้วยครับ ผมอยากที่จะล้างแค้น!” หลังจากที่ผ่านมาพักใหญ่ๆ ฉิงหยูก็ได้เงยหน้ามามองพี่ชายของเขาแล้วพูด
“ได้สิ พี่เองก็อยากที่จะมอบวิชาให้น้องนานแล้ว แต่พี่กะรอให้น้องกลับไปที่โม๋ตูก่อนพี่ถึงค่อยบอก แต่ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันที่นี่แล้ว พี่ก็จะมอบวิชาให้นายที่นี่แหละ!”
หลังจากที่พูดจบฉิงเทียนก็ได้ออกไปบอกกับคุณหมอหลี่ว่าไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ห้ามเข้ามารบกวนเขาโดยเด็ดขาด
จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในห้องแล้วพูดกับฉิงหยูอย่างจริงจัง “เสี่ยวหยู ตอนนี้น้องนั่งขัดสมาธิแล้วหลับตาลง จากนั้นตั้งสมาธิแล้วนึกถึงพลังของตัวเอง”
ฉิงหยูจึงนั่งลงและตั้งสมาธิในหัวตามที่ฉิงเทียนบอก
ในเวลานี้เองฉิงเทียนได้ทำการส่งต่อความสามารถที่เขาได้รับมาจากมหาเซียนใส่เข้าไปในหัวของเขาทีละเล็กทีละน้อย
ส่วนฉิงหยูที่ทำตามที่ฉิงเทียนบอกอยู่นั้น หลังจากที่ผ่านไปสักพัก เมื่อเขาพบว่าไม่มีข้อมูลอะไรเข้ามาในหัวของเขา เขาจึงได้คิดที่จะลืมตาแล้วหันมาถามฉิงเทียน
ทันใดนั้นเองก็มีก็มีเสียงที่เข้มงวดของฉิงเทียนดังเข้ามาในหัวของเขา “ตั้งสมาธิเอาไว้ อย่าว่อกแว่ก”
เมื่อถูกดุโดยฉิงเทียน ฉิงหยูจึงได้รีบสะกดความว่อกแว่กในใจเขาทันที”
หลังจากที่เวลาผ่านไปได้สักพัก ฉิงเทียนและฉิงหยูทั้งคู่ก็ได้หลับตาของเขาและเกิดความเงียบอยู่รอบๆตัวพวกเขา
ทันใดนั้นฉิงหยูก็รู้สึกได้ถึงสัญลักษณ์แปลกๆและข้อมูลไหลเข้ามาในหัวของเขา เมื่อเห็นสัญลักษณ์แปลกๆไหลเข้าหัวมาเรื่อยๆ ฉิงหยูก็รู้สึกว่าหัวของเขานั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดฉิงหยูก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเขานั้นจะเบิด!
ในเวลานี้เองที่ฉิงเทียนรู้สึกได้หัวของฉิงเทียนนั้นน่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว เขาจึงได้ชักมือกลับมา



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย