บทที่ 144 การจัดงาน
แล้วทั้ง 3 ก็หันมามองกันเองแต่ก็ยังไม่มีความคิดใดๆ แต่ละคนที่นั่งอยู่นั่นต่างก็รู้สึกสิ้นหวังและพูดอะไรไม่ออก
เพราะพวกเขารู้ว่าสิ่งที่สำคัญมากที่สุดของวงการนี้คือความลับและความปลอดภัย แต่ในเวลานี้สำนักงานใหญ่ของตลาดมืดได้ถูกระเบิดไปแล้ว ซึ่งได้ทำลายชื่อเสียงของพวกเขาที่ทำมานานนับปีไปด้วย และไม่มีใครเชื่อถือพวกเขาอีกแล้ว
“ข้าว่าพวกเราควรจะแยกทางกันได้แล้ว” หลังจากที่เงียบไปพักใหญ่ๆ ท้ายที่สุดบอดดำก็พูดสิ่งที่เขาคิดออกมาก่อน
พานเหล่ยเองก็ได้จ้องไปที่บอดดำ ในใจของเขาเองก็เห็นด้วยกับเขามากเช่นกัน เขาจึงได้พูดออกไปอย่างยินดี “ดี, งั้นก็แยกกันเลยเถอะ! ตอนนี้ตลาดมืดที่พวกเราร่วมกันทำ 3 คนก็ถูกทำลายไปแล้ว พวกเราทั้งสามคนก็ทำตามทางใครทางมันก็แล้วกัน”
ถึงแม้เหลียนเหวินจะรู้อยู่แล้วว่าอีกทั้งสองแก๊งนั้นไม่ต้องการที่จะข้องเกี่ยวกับตระกูลของเขา และด้วยการติดต่อพบปะของพวกเขาทั้งสองที่สั่งสม พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถกู้คืนอำนาจของพวกเขาได้หลังจากที่ผ่านไปชั่วสักเวลาหนึ่งแล้ว แต่ตระกูลของเขานั้นไม่เพียงแต่จะสูญเสียเงินส่วนใหญ่ไปเท่านั้น แต่ยังไปล่วงเกินตระกูลใหญ่เข้าอีกด้วย ทำเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวขึ้นมา! และก็รู้ด้วยว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้แล้ว
เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องผงกหัวแล้วพูดขึ้น “ในเมื่อพวกคุณทั้งคู่ตกลงแล้วผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ วางใจได้พรุ่งนี้ผมจะประกาศในฐานะของผู้บริหารจะประกาศว่าตลาดมืดได้ปิดแล้ว”
หลังจากที่พูดจบ เหลียนเหวินก็ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ส่วนบอดดำกับพานเหล่ยนั้นไม่ได้รู้สึกสงสารเลย แต่กลับพูดอย่างตื่นเต้น “ในเมื่อคุณตกลงแล้ว พวกเราจะคอยดูพรุ่งนี้”
พูดจบทั้งคู่ก็ได้ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว และทันทีที่พวกเขาได้ออกไปแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ได้มองหาคู่ค้าของตัวเองใหม่
แล้วก็เหลือเพียงเหลียนเหวินที่โดดเดี่ยวอยู่ในห้องนั้น เขามองดูห้องเปล่าๆนี้ ดูเหมือนว่าเขาคงจะได้มองดูการล่มสลายของตระกูลเหลียนเสียแล้ว
“ไม่ เราจะปล่อยให้ตระกูลเหลียนเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้” เหลียนเหวินก็ได้ลุกขึ้นยืนขึ้นมาและตะโกนในใจ ดูเหมือนว่าเขาจะได้ตัดสินใจลงมือทำอะไรบางอย่างที่สำคัญและเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด
หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ๆ เหลียนเหวินก็ได้เก็บซ่อนความรู้สึกของเขา แล้วจากนั้นเขาก็ได้กลับไปเป็นผู้นำตระกูลเหลียนที่กระตือรือร้นอีกครั้งแล้วพูดขึ้น “ไปตามทุกคนๆมาพบผม”
“ได้ครับ, ท่านผู้นำตระกูล
……………
หลังจากที่ไปพบหวังอี้แล้ว ฉิงเทียนก็พบว่าขาของหวังอี้นั้นฟื้นฟูได้เร็วกว่าที่เขาคาดเอาไว้ บางทีอาจจะไม่ต้องรักษาอะไรเพิ่มแล้วหลังจากได้ขาของเธอฟื้นฟูขึ้นมาได้เช่นนี้แล้ว
ฉิงเทียนจึงอดไม่ได้ที่จะลูบไปที่แก้มซ้ายของเขา และนึกถึงภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างช่วยไม่ได้
หลังจากที่เขาบอกกับหวังอี้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะมารักษาขาของเธอแล้วเพราะเธอสามารถที่จะเดินได้แล้ว หวังอี้ที่สงบเสงี่ยมอยู่ตลอดนั้นก็ได้ตื่นเต้นมากเสียจนเข้ามากอดแล้วจูบเขา ฉิงเทียนยังคงนึกถึงท่าทีที่คาดไม่ถึงและใบหน้าที่แดงฉานของหวังอี้ในตอนนั้นอยู่
“น้องสาวอี้ช่างน่ารักจริงๆตอนที่เธอเขินอายเช่นนี้” ฉิงเทียนถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
กลับมาถึงคอนโดฉิงหยูก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องแล้ว ในวันนี้จิ่งซินหยวนที่ตระกูลจ้าวกับฉิงเทียนได้ร่วมมือกันนั้นได้เปิดทำการแล้ว
จิ่งซินหยวนแห่งนี้คือตลาดมืดที่เปิดโดยตระกูลจ้าวและฉิงเทียนนั่นเอง แต่ตลาดมืดแห่งนี้นั้นต่างจากตลาดมืดอื่นๆที่ผ่านมา
จิ่งซินหยวนนั้นไม่เพียงแต่ขายข่าวสารอย่างเดียวแต่ยังรับซื้อข้อมูลด้วย ส่วนฉิงเทียนนั้นที่เดิมทีมีความแค้นกับตลาดมืดของโม๋ตู จึงได้ส่งฉิงหยูเข้าไปทำงานที่นั่นแทนและพบว่าเสี่ยวหยูเองก็สนใจมันมากเสียด้วย ในตอนนี้เขาจึงได้เข้าไปทำงานที่นั่นทุกวัน
ฉิงเทียนกลับไปนอนลงที่เตียง ในวันนี้เขานั้นคิดที่จะขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อส่งอุปกรณ์ที่เขาซื้อมาจากบนโลกไปให้ จากวิธีการขึ้นไปบนสวรรค์ฉิงเทียนจะต้องถือตราประทับเอาไว้ทั้งสองมือและท่องคำในใจ
แล้วเขาก็เห็นแสงสีขาวโผล่มา แล้วฉิงเทียนก็ได้บินไปยังตำหนักของไท่ไป๋จินซิง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย