บทที่ 152 หั่วเอี๋ยน
“ตามข้ามาขอรับ ท่านฉิง” เมื่อเห็นฉิงเทียนมีทีท่าที่สุภาพแล้ว เทพน้อยก็รู้สึกเลื่อมใสฉิงเทียน แล้วยิ่งฉิงเทียนสามารถทำให้นายท่านของเขาประเมินค่าไว้สูงมากแล้ว ฉิงเทียนจะต้องมีอนาคตที่สุกใสอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาควรที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเป็นดี
จริงๆแล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่ฉิงเทียนต้องการ ถึงแม้ว่าเทพน้อยคนนี้จะดูเหมือนเด็ก แต่เขาก็ไม่ใช่เด็กแน่นอน
เทพน้อยพวกนี้อายุน่าจะหลายพันปีได้ พวกเขาสามารถเป็นบรรพบุรุษของฉิงเทียนได้เลย พวกเขายังคงสภาพเป็นเด็กเอาไว้ก็เพื่อที่จะรับใช้นายท่านของพวกเขา ซึ่งนายท่านของพวกเขานั้นล้วนเป็นผู้ทรงอำนาจ และการที่เทพน้อยคงสภาพนี้เอาไว้ก็เพื่อที่จะได้รับสิ่งต่างๆจากผู้ทรงอำนาจเหล่านี้
ดังนั้นจะดูถูกพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งบางคนเป็นถึงเซียนด้วยซ้ำ ถ้าให้พวกเขาไปอยู่ในโลกเซียนอื่นๆ ก็น่าจะอยู่ในระดับผู้อาวุโสเลยทีเดียว เช่นเทพน้อยของไท่ไป๋จินซิงเองก็เป็นเซียนเช่นกัน
ส่วนฉิงเทียนนั้นได้บอกกับตัวเองเอาไว้เสมอว่าอย่าได้ดูถูกใครบนสวรรค์ เพราะฉิงเทียนนั้นเป็นผู้ฝึกวิชาขั้นจินตันเท่านั้น เขาจึงต้องระวังตัวให้มากตอนอยู่บนสวรรค์ ดังนั้นฉิงเทียนก็บอกกับตัวเองไว้ว่าไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องเป็นมิตรด้วยไว้ก่อน
เมื่อมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงลูกท้อ ก็พบไท่ไป๋จินซิงที่กำลังยุ่งกับการสั่งการด้วยไมโครโฟนอยู่
ส่วนตือโป๊ยก่ายที่อยู่ใกล้ๆเมื่อเห็นฉิงเทียนมาถึงก็ได้พูดอย่างตื่นเต้น “น้องฉิงเจ้ามาแล้ว เรารีบมาลุยเรื่องการแสดงให้เรียบร้อยกันเถอะ”
“ลูกพี่หมู ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาเตรียมเรื่องการแสดงนี่แหละครับ” ฉิงเทียนพูดกับตือโป๊ยก่าย
ในเวลานี้เอง ที่มีเสียงที่น่าสงสัยดังขึ้นมา “เจ้าคือไอ้หนูชาวมนุษย์ที่พูดอย่างไร้ยางอายที่บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงลูกท้อน่ะรึ ช่างไม่รู้อะไรเสียจริงๆ”
หันไปมองที่ต้นเสียง ฉิงเทียนก็พบกับเทพที่มีใบหน้าแดงกว่ากวนอูเสียอีก แต่มีใบหน้าที่ดูยังหนุ่มอยู่และมองมาที่เขาด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง: คนนี้เป็นใครกันเนี่ย เราไม่เคยไปยุ่งหรือทำอะไรกับเขามาก่อน แล้วทำไมเขาถึงได้ดูจงเกลียดจงชังเราได้ล่ะเนี่ย
“หั่วเอี๋ยน, นี่เป็นสถานที่จัดเตรียมงานเลี้ยงลูกท้อ ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยออกไปด้วย!” ไท่ไป๋จินซิงพูดอย่างโมโห! เขาไม่พอใจอย่างมากที่มีคนจู่ๆมาขัดขวางการทำงานเช่นนี้!
เมื่อได้ยินไท่ไป๋จินซิงพูด หั่วเอี๋ยนก็ได้มองมาที่ฉิงเทียนด้วยสายตาที่เกลียดชังก่อนจะเดินจากไป!
ตือโป๊ยก่ายมองดูฉิงเทียนที่มีสีหน้าสับสน จึงได้เดินไปหาฉิงเทียนแล้วพูดขึ้น “น้องฉิงเจ้าดูสีหน้าไม่ค่อยดีเป็นอะไรรึ?”
“ครับลูกพี่หมู นี่มันเรื่องอะไรกันครับเนี่ย? ผมไม่เคยไปทำอะไรเขาก่อนแท้ๆ” ฉิงเทียนพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ สงสัยหัวของหมอนั่นน่าจะมีปัญหา?
มองดูใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของฉิงเทียนแล้ว ตือโป๊ยก่ายก็หัวเราะแล้วพูดขึ้นมา “น้องฉิงเจ้าคิดผิดแล้วล่ะ เจ้าได้ไปทำให้เขาโมโหจริงๆนั่นแหละ”
“หา, ผมไปล่วงเกินเขา?” ฉิงเทียนสงสัยมากขึ้นไปอีก “ผมไม่เห็นรู้เลยว่าผมเคยไปทำให้เขาโมโหตอนไหนเนี่ย”
“นี่น้องฉิง เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าได้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สวรรค์ได้อย่างไร?” ตือโป๊ยก่ายถาม
แน่นอนว่าฉิงเทียนทราบดีว่าไท่ไป๋จินซิงนั้นได้จัดแจงช่วยเขาให้ได้มา
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าตำแหน่งนี้เคยเป็นของใครคนอื่นมาก่อน? และก็เป็นพี่ไท่ไป๋ที่ไปทูลขอเอามาจากเง็กเซียนฮ่องเต้!” ตือโป๊ยก่ายอธิบายต่อ
“อันนี้ผมไม่ทราบมาก่อนเลย!” ฉิงเทียนรู้สึกประหลาดใจและพูดต่อ “หรือว่ามันจะเป็นของคนนี้อย่างนั้นเหรอครับ?”
เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว ตือโป๊ยก่ายจึงได้พูดต่อ “หั่วเอี๋ยนนั้นเป็นบุตรของหั่วเต๋อซิงจวิน ซึ่งในเวลานี้หั่วเต๋อซิงจวินนั้นได้ทูลขอตำแหน่งเจ้าหน้าที่บนสวรรค์ให้ลูกชายของเขาหั่วเอี๋ยนต่อหน้าพระพักตร์ของเง็กเซียนฮ่องเต้ ซึ่งเง็กเซียนฮ่องเต้เองก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่แล้วพี่ไท่ไป๋ของเจ้าก็ได้ยึดเอาตราประทับนั้นมาจากหั่วเอี๋ยนมาให้เจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าได้ทำให้เขาโมโหหรือยังล่ะ?”
“อ้า, เรื่องมันก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ฉิงเทียนพูดอย่างเข้าใจ
“ต่อจากนี้ไปเมื่อเจ้ามาที่สวรรค์ เจ้าจะต้องระวังเขาไว้ให้ดี” ไท่ไป๋จินซิงกล่าว “ถึงแม้ว่าหั่วเอี๋ยนนั้นจะเป็นแค่เซียน แต่เขาก็สามารถกำจัดเจ้าที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาได้อย่างง่ายดายนัก
“ครับ, ผมจะระวังตัวครับพี่ไท่ไป๋” ฉิงเทียนตอบอย่างจริงจัง เมื่อเขารู้ว่าตั้งแต่เขาได้มาที่โลกเซียน ก็ได้ไปทำให้ทายาทเซียนโมโหเข้าเสียแล้ว


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย