บทที่ 167 : เห่าฟ้าผู้ชื่นชอบไส้กรอก
นัยน์ตาทั้งสามของเทพเอ้อหลางจับจ้องไปที่ฉิงเทียน พร้อมกับโบกสะบัดพัดในมือ
“เจ้าคือมนุษย์ที่มีนามว่าฉิงเทียนสินะ!” เทพเอ้อหลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่ครับ” ฉิงเทียนตอบพลางโค้งคำนับ
หลังฉิงเทียนทำความเคารพไม่ทันไร เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ขากางเกงของเขา พอมองลงไปดูก็พบว่าเจ้าเห่าฟ้ากำลังงับขากางเกงของเขาอยู่ เจ้าหมาน้อยเงยหน้ามองเขา แสดงสีหน้าว่าอยากได้ของอร่อยที่เพิ่งได้กินไปเมื่อสักครู่เพิ่มอีก เห่าฟ้ายังคงเลียแข้งเลียขาฉิงเทียนต่อไปเยี่ยงสุนัขรับใช้ แต่มันก็สุนัขจริงๆนี่หว่า
เมื่อได้เห็นภาพนี้ เทพเอ้อหลางก็รู้สึกสนใจอาหารที่ฉิงเทียนโยนให้สุนัขของเขากิน เจ้าเห่าฟ้าไม่ยอมกินอะไรมาเป็นเดือนแล้ว โอสถสวรรค์มันก็ไม่เอา เทพเอ้อหลางเคยไปขอให้เทพแห่งพ่อครัวจัดเตรียมโต๊ะจีนสวรรค์สุดหรูหราอลังการให้ ผลคือ เจ้าเห่าฟ้าเบือนหน้าหนี ไม่แม้แต่จะดมเสียด้วยซ้ำ แล้วมาดูตอนนี้ ฉิงเทียนเจ้ามนุษย์ธรรมดาคนนี้โยนอะไรสักอย่างยาวๆให้เจ้าเห่าฟ้า เจ้าเห่าฟ้าก็รีบไปกินอย่างว่องไว ด้วยหน้าตาที่เบิกบานแถมร้องขอเพิ่มอีก “ฉิงเทียนเจ้าโยนอะไรให้เจ้าเห่าฟ้าของข้ากินน่ะ” เทพเอ้อหลางถาม
ฉิงเทียนค่อยๆดึงขากางเกงของเขาออกจากปากของสุนัขเห่าฟ้า และตะโกนในใจ: เห่าฟ้าเอ้ย หมาสวรรค์ที่ไหนเขามางับคนแบบนี้บ้าง ให้อาหารไปแล้วก็หัดรู้จักสำนึกบุญคุณบ้างเซ่
เมื่อเขาได้ยินที่เอ้อหลางเสินถาม เขาจึงได้ตอบกลับไป “ผมให้ไส้กรอกกับมันไปครับ”
“ไส้กรอก, ไส้กรอก, ไส้กรอก” เอ้อหลางเสินรำพันอยู่สามครั้งก่อนจะถามต่อ “อาหารนี้คืออะไร? ข้าเคยให้พ่อครัวจัดโต๊ะจีนให้มันยังไม่ทานเลย เจ้าไส้กรอกนี่อร่อยกว่าโต๊ะจีนของสวรรค์อีกงั้นรึ?”
ฉางเอ๋อ, ไท่ไป่จินซิง และตือโป๊ยก่ายที่อยู่ข้างๆ ต่างพากันมองมาที่ฉิงเทียนด้วยความฉงน โดยเฉพาะตือโป๊ยก่ายยอดนักกิน เขาคิดในใจ ไม่คิดว่าน้องฉิงจะมีของอร่อยติดตัวเยอะขนาดนี้ คราวหลังคงต้องขอซื้อบ้างซะหน่อยแล้ว อยากได้ลิ้มลองรสชาติอาหารบนโลกดูบ้าง!
ฉางเอ๋อมองกระต่ายดวงจันทร์ของนางแล้วก็คิดว่า: อ๊ะ ตอนนี้กระต่ายดวงจันทร์ของเราก็ไม่ยอมทานอะไรเหมือนกันนี่นา และก็ไม่รู้ว่าจะมีอาหารบ้างที่ทำให้กระต่ายของเธอกลับมายอมกินอาหารได้อีก แบบเดียวกับเจ้าเห่าฟ้า
ตอนนี้ฉิงเทียนอยากจะให้เจ้าหมาที่อยู่ที่เท้าเขาเลิกงับขากางเกงของเขาเสียที ถ้าเขาเผลอทำให้มันหงุดหงิดมันจะงับเขาไหมนะ หมาสวรรค์เนี่ยไม่รู้ว่าวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าจะใช้การได้ไหมเนี่ย ฉิงเทียนคิดอย่างอเนจอนาถ
“ท่านเอ้อหลางครับ ท่านช่วยทำให้เห่าฟ้าเลิกงับขาผมสักทีได้ไหมครับ?” ฉิงเทียนพูดทั้งเหงื่อตก
“เห่าฟ้าเอ๋ย มานี่มา” เอ้อหลางตะโกนเรียกเจ้าหมาของเขา แต่มันไม่สนใจเทพเอ้อหลางเลย ยังคงงับขากางเกงของฉิงเทียนต่อไปพลางแกว่งหางรัวๆ ดูยังไงก็ประจบอยู่!
เมื่อเห็นว่าสุนัขของเขาไม่ยอมทำตามที่สั่ง เทพเอ้อหลางก็ตะโกนเรียกอีกครั้ง “ เจ้าเห่าฟ้า มาหาข้ามา “
ทว่า เห่าฟ้ายังคงไม่ฟังเทพเอ้อหลาง ฉิงเทียนเหงื่อแตกพลั่ก ทำไมเจ้าหมานี่มันไม่เชื่องเหมือนในทีวีนะ!
“ได้ ได้! เจ้าเห่าฟ้าแกบังคับข้าเองนะ!” เอ้อหลางเสินพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะจับเจ้าพวกตัวเมียทำต้มเนื้อหมาให้แกกิน!”
พอได้ยินที่เทพเอ้อหลางว่า เจ้าหมาก็รีบวิ่งเข้าไปหมอบแทบเท้าของเทพเอ้อหลางด้วยความเร็วที่ประมาณค่าไม่ได้ แล้วซบหน้าไปหาเทพเอ้อหลางราวกับจะบอกว่า: อภัยให้ข้าด้วย อย่าทำอะไรพวกนางเลย
“คิดว่าเก่งนักหรือไง เจ้าคนตักอึเอ๊ย รอให้ข้าปลอบแกให้เรียบร้อยก่อน ไว้เดี๋ยวข้าจะไปหาฉิงเทียนเพื่อขอกินใหม่ เจ้าอาหารที่เพิ่งกินไปเมื่อกี๊มันอร่อยมาก ต้องขอกินอีกให้ได้เลย!” นี่คือความในใจที่แท้จริงของเห่าฟ้า
ได้เห็นสุนัขของเขากลับมาอยู่กับเขาสักที เทพเอ้อหลางดูท่าทางภูมิใจมาก “เรียกธรรมดาไม่ยอมมา ต้องให้ใช้ไม้แข็ง ไส้กรอกนั่นดึงดูดเจ้าเห่าฟ้าได้ขนาดนี้อยากได้แล้วสิ แต่ถ้าคราวหน้าไม่ยอมฟังละก็จะได้ยึดทั้งตัวเมียทั้งไส้กรอกเลย
คิดได้แบบนั้น เทพเอ้อหลางก็ระเบิดหัวเราะออกมา คราวนี้เจ้าสุนัขของเขาคงไม่กล้าขัดคำสั่งของเขาอีกเป็นแน่แท้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย