บทที่ 170 ถูกสายฟ้าฟาด
“ใครกันที่กล้าพูดว่าเง็กเซียนฮ่องเต้กับเจ้าแม่หวังหมู่เหมาะจะทำธุรกิจมืดกัน?” มีเสียงดังมาจากคนที่ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิง
เมื่อได้ยินเสียงฉิงเทียนก็ได้สะดุ้งโหยงแล้วพูดขึ้น “ไอ้หน้าหล่อนี่มาจากไหนกันเนี่ย หล่ออะไรอย่างนี้?”
ถ้าเอ้อหลางเสินมีบรรยากาศแบบพวกคงแก่เรียน คนที่ฉิงเทียนพบในตอนนี้นั้นมีริมฝีปากที่แดงสดกับฟันที่ขาวและใบหน้าที่แดงเหมือนลูกท้อ ตอนแรกนั้นฉิงเทียนให้ความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนกับผู้ชาย ไม่อย่างนั้นจะมีผู้ชายที่ตัวโตแค่นี้ได้เช่นไร แต่บรรยากาศก็ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายจริงๆ หรือไม่ก็กะเทย ฉิงเทียนคิดอย่างช่วยไม่ได้
ไอ้หน้าหล่อคนนั้นรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเขาได้เห็นสายตาที่แย่ของฉิงเทียนจ้องมาที่เขา “เจ้าเป็นคนที่พูดใช่หรือไม่?” ไอ้หน้าหล่อเอามือไปเท้าสะเอวและตาของเขาก็ดูโกรธมาก เขาได้ชี้นิ้วมาที่ฉิงเทียนแล้วพูดขึ้นมา “เจ้ากล้าที่จะแอบนินทาเง็กเซียนฮ่องเต้และเจ้าแม่หวังหมู่อย่างนั้นเรอะ? ช่างเป็นคนบาปอะไรเช่นนี้?”
ฉิงเทียนมองไปที่ไอ้หน้าหล่อที่อยู่ตรงหน้าเขาที่ทำท่าดุเหมือนเป็นคุณครูกำลังดุนักเรียน แต่เขาอดไม่ได้ที่จะคิด: บ้าจริงเราเผลอหลุดปากออกไปเหรอเนี่ย? จะเป็นอะไรไหมนะ?
“เพ่าฝู ช่วยผมดูให้หน่อยสิว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” ฉิงเทียนพูดถามกับเพ่าฝู ถ้าเขาเป็นผู้หญิงเขาจะได้อดทนเอา เพราะเขาไม่อยากที่จะทะเลาะกับผู้หญิง แต่ถ้าเป็นผู้ชายเขาไม่ไว้หน้าแน่
หลังจากที่ได้รับคำสั่งมาจากนายท่านของเธอเอง เพ่าฝูก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “นายท่านเจ้าคะ เพ่าฝูไม่มีความสามารถแยกแยะว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงนะเจ้าค่ะ”
กลายเป็นว่าเพ่าฝูเองก็ไม่ได้มีความสามารถรอบด้านขนาดนั้นสินะ ฉิงเทียนคิดในใจ
และในขณะที่ฉิงเทียนกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ฮ่าวอวิ๋นหรือไอ้หน้าหล่อที่ฉิงเทียนเรียกนั้น เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนนั้นทำเป็นไม่สนใจเธอ เธอก็รู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เมื่อเธอถูกเมินโดยผู้อื่นเช่นนี้เธอก็จะยิ่งคิดมากขึ้นไปอีกแล้วก็จะโมโหมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แล้วเธอก็ดีดนิ้วแล้วเดินเข้าไปหาฉิงเทียนและจิ้มมาที่จมูกของฉิงเทียนแล้วพูดขึ้น “เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่หา?”
“ครับ, ฟังอยู่ครับ” ฉิงเทียนได้พูดตอบอย่างไม่สนใจหลังจากที่รู้สึกตัว และพยายามได้เดินหนีเธอไป
เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนนั้นยังไม่ยอมสนใจเธอ “เจ้า เจ้า……..เจ้ากล้าเดินหนีตอนที่ข้าพูดงั้นรึ” ฮ่าวอวิ๋นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉิงเทียนและขวางทางของเขา
มองดูเส้นทางที่เขาจะเดินถูกขวาง “คุณบ้าไปแล้วรึยังไง?” ฉิงเทียนพูดออกมาตรงๆ
“เข้าไม่ได้บ้า เจ้าน่ะสิบ้า ครอบครัวของเจ้าก็บ้าด้วย!” ฮ่าวอวิ๋นชี้มาที่ฉิงเทียนและด่าเขา “เจ้ากล้าว่าข้า ผู้ที่เป็นคนที่จะตัดสินความเป็นความตายของเจ้าเนี่ยนะ”
แย่จริง เขาเพิ่งบอกว่าจะฆ่าเขาให้ตาย คนคนนี้อะไรจะโหดร้ายได้อย่างนี้ ทำไมคนในสวรรค์ถึงได้มีแต่พวกคนเป็นโรคประสาทเยอะจังแฮะ ฉิงเทียนพูดบ่นในใจเขา
ในเวลานี้เองที่ไท่ไป๋จินซิงที่อยู่ใกล้ๆก็ได้รีบวิ่งออกมา แล้วดึงเอาตัวเธอออกมาแล้วกระซิบกระซาบกับเธอ “นายน้อย ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฉิงเทียนมองดูด้วยสายตาของเขา มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะมีคนที่ทำให้ไท่ไป๋จินซิงถ่อมตัวได้ขนาดนี้
ในเวลานี้เองที่ฮ่าวอวิ๋นนั้นโมโหมากขึ้นไปอีก ทันทีที่เธอมาถึงเธอก็ได้ยินคนพูดไม่ดีกับพ่อแม่ของเธอ นอกจากเขาจะไม่ขอโทษแล้ว แต่ยังทำตัวเย็นชาใส่เธออีกต่างหาก ในตอนนี้ไท่ไป๋จินซิงยังดึงเอาเธอออกมาอีก เธอจึงได้ดิ้นหลุดออกจากมือของไท่ไป๋จินซิงและผลักเขาออกไปแล้วพูดขึ้น “อย่ามาห้ามข้า วันนี้ข้าจะต้องท้าเขาให้ได้
เมื่อเห็นท่าทีที่ไร้เหตุผลของฮ่าวอวิ๋น ฉิงเทียนก็ได้ตะโกนในใจ: โธ่สวรรค์ อ๊ะไม่สิเราอยู่สวรรค์อยู่แล้วนี่นา หัวใจของข้าจะสลายอยู่แล้ว ไม่ว่าข้าจะทำอะไรบนสวรรค์ก็ล้วนแต่เป็นผิดไปเสียหมด เจอกับหั่วเอี๋ยนก็ว่าแย่แล้ว ยังจะต้องมีเจอกับอีกคนอีก
ผลักไท่ไป๋จินซิงออกไป ฮ่าวอวิ๋นก็ได้เดินมาดึงมือของฉิงเทียนเอาไว “เจ้าไปที่ลานประลองกับข้า หึ วันนี้ถ้าข้าฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าฮ่าวอวิ๋น”
เขาก็ได้ปล่อยให้เธอลากเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าเธอไม่สามารถที่จะลากฉิงเทียนไปได้ง่ายๆอยู่แล้ว แต่เขานั้นไม่มีอารมณ์ที่มายุ่งกับเธอ ด้วยการโบกมือของเขา เขาก็ได้ผลักเอามือของฮ่าวอวิ๋นออกไป แล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณอยู่? ใช่เมื่อกี้ผมพูดเองแหละว่าเง็กเซียนกับเจ้าแม่นั้นเหมาะที่จะทำธุรกิจมืดเท่านั้น ผมไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีสักหน่อย ถ้าคุณอยากที่จะให้เง็กเซียนกับเจ้าแม่ชื่นชมคุณมากนักล่ะก็ คุณก็มาแสดงต่อหน้าพวกท่านให้เห็นสิ ตอนนี้พวกท่านไม่เห็นหรอก” ในที่สุดฉิงเทียนก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ถากถาง แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะมีแฟนคลับของเง็กเซียนฮ่องเต้และเจ้าแม่หวังหมู่ได้ยังไงนะ?
หลังจากที่เขาพูดจบ ฉิงเทียนก็เพิ่งรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดไป ทำไมมันถึงได้เงียบอะไรอย่างนี้
มองไปยังรอบๆ เขาก็พบว่าตือโป๊ยก่ายและไท่ไป๋จินซิงนั้นกำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาทึ่งๆ แล้วยกนิ้วโป้งให้กับเขา แล้วใบหน้าเล็กๆของฮ่าวอวิ๋นก็ได้แดงมากขึ้นไปอีก เธอโกรธจนมือสั่นแล้วพูดขึ้น “เจ้า….เจ้าพูดอีกครั้งซิ”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย