บทที่ 222 ส่องประกาย(1)
ณ ตอนนี้ เหล่าเซียนบนก้อนเมฆและที่ลานกว้างต่างคาดหวังการปรากฏตัวของเทพเอ้อหลาง เพราะฉางเอ๋อได้สร้างความตกตะลึงให้กับพวกเขามาแล้วตอนนี้พวกเขาจึงคาดหวังกับงานแสดงต่อไปที่กำลังจะมาถึง โดยไม่ได้รู้สึกถึงตัวตนของปีศาจที่อยู่ภายในงานเลย!
“ทำไมการแสดงของไอ้หนูนั่นถึงออกมาดูดีขนาดนี้นะ แล้วข้าจะเอาเรื่องนี้ไปเรียกร้องกับเง็กเซียนฮ่องเต้ได้อย่างไร!” หั่วเต๋อซิงจวินรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ทั้งๆที่การแสดงนั้นสวยงามตระการตา แต่เขาไม่มีกะจิตกะใจจะดูเลยสักนิด
ในเวลานี้ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่กลางเวที โดยที่ไม่มีใครสังเกตอาการหน้าดำคร่ำเครียดของหั่วเต๋อซิงจวินเลยสักคน
ณ ตอนนี้ เทพเอ้อหลางในอาภรณ์สีขาว นัยน์ตาดำขลับ จมูกคมสัน ในมือถือพัดขาวก็เหาะลงมาจากฟ้า
ทันทีทันใด สายตาของเหล่าเซียนก็ได้จับจ้องไปที่เทพเอ้อหลาง ถ้านี่ไม่ใช่งานเนื่องในโอกาสพิเศษแล้วล่ะก็ ฉิงเทียนเชื่อว่าเหล่าเทพทั้งหลายคงส่งเสียงตะโกนกันกึกก้องเป็นแน่
“หยางเจี่ยนนี่หล่อวันหล่อคืนจริงๆ นะ” เจ้าแม่หวังหมู่มองดูเหล่านางฟ้าในอาณัติของนางแต่ละคนที่ทำตัวร่านเมื่อเห็นเทพเอ้อหลางแล้ว นางจึงได้หันไปกระซิบกระซาบกับองค์เง็กเซียนอย่างไม่พอใจ
ถึงองค์เง็กเซียนได้ยินที่ภรรยาของเขาพูดอย่างไม่พอใจแล้ว แต่อย่างไรก็ดีนางฟ้าเหล่านี้ก็เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเจ้าแม่หวังหมู่ แต่ตอนนี้กลับมีพฤติกรรมเหมือนกับพวกร่าน ซึ่งนิสัยเช่นนี้ก็ไม่ได้มาจากใครอื่นแต่เป็นตัวเจ้าแม่เองในยามที่นางเห็นคนหล่อๆ
“ฮ่าๆ ภรรยาข้า ไยเจ้าต้องคิดมากด้วย รูปโฉมของเขาช่างเหมือนเหยาจี่จริงๆ” เง็กเซียนหันไปยิ้มให้กับเจ้าแม่หวังหมู่
“หึ ท่านน่ะชอบให้ท้ายเขาตลอด เป็นท่านเองไม่ใช่เหรอที่ปล่อยข่าวรั่วตอนนั้น แล้วให้เขาไปผ่าเขาเถาซานที่ข้าเตรียมเอาไว้เพื่อช่วยเหยาจี่!” เจ้าแม่พูดพร้อมกับบิดองค์เง็กเซียน
“เอาล่ะๆ, เรามาดูการแสดงของหยางเจี่ยนกันดีกว่า เห็นว่าไท่ไป๋จินซิงได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว พวกเรามาดูด้วยกันเถอะ” เง็กเซียนฮ่องเต้มองดูเหล่าเทพเบื้องล่างด้วยสีหน้าที่คาดหวัง
เจ้าแม่หวังหมู่เองก็หันกลับไปดูเวที “งานนี้ ไท่ไป่จินซิงทำได้ดีจริงๆ ไม่คิดเลยว่ามนุษย์ธรรมดาจะสามารถจัดการแสดงที่เลิศเลอขนาดนี้ได้ แม้แต่ลูกแปดเองยังบอกเลยว่านางได้เรียนรู้การเต้นใหม่ๆด้วย เรามาดูกันดีกว่า”
“ฮ่ะ, ลูกแปดนี่เป็นเด็กเก่งและฉลาดขึ้นทุกวันๆ จริงๆ” เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ได้ยิ้มออกมา พระองค์นั้นชอบองค์หญิงแปดจริงๆ
เทพเอ้อหลางยืนกางพัดในมืออยู่ที่กลางเวที จากนั้นก็ผงกหัวให้สัญญาณกับฉิงเทียนที่อยู่บนเมฆ
“ฮะฮ่า, ผมเล่นเพลงนี้ให้เต็มที่เลย!” ฉิงเทียนพูดพึมพำ กดเมาส์ไปที่เพลงกระบี่ดั่งความฝัน แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้น
กระบี่เอ๋ยเจ้าจะไปอยู่หนไหน
ความรักความเกลียดชัง เหมือนกับเหรียญสองด้าน
กรีดนภาฟ้าไกล ด้วยคมกระบี่
มิอาจทราบได้ ความถูกหรือความผิด
ตัวข้านั้นเมามายไปในความหมองหม่น
บุญคุณหรือความแค้นนั้น เป็นเพียงแค่คำว่างเปล่า
ตัวข้าที่ตื่นจากฝันหวาน
จะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวทั้งนั้น
สายลมที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
มิเคยอยู่ที่ใดนานนัก
รักเหมือนดั่งสายลม เกลียดเหมือนดั่งสายลม
ง่ายที่จะมาและง่ายที่จะไป
…………………….
บทเพลงที่ดีและท่วงท่าที่เท่ของเทพเอ้อหลาง ถ้าจะกล่าวว่าเพลง “โลกมนุษย์” ของฉางเอ๋อนั้นคือความงดงามดั่งที่สุดแล้ว “กระบี่ดั่งความฝัน”ของเทพเอ้อหลางก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่กำลังลอยไปกับกระแสน้ำ สุดปัญญาจะช่วยตนเองได้
เมื่อเพลงจบลง เหล่าเซียนทั้งหมดต่างเหมือนกับจมอยู่ในโลกของกระบี่ ถ้าเพลง”โลกมนุษย์”นั้นทำให้ผู้คนเกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิต เพลง“กระบี่ดั่งความฝัน”จะทำให้เซียนคล้อยตามได้ง่ายกว่า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย