บทที่ 242 การแต่งงาน
“คุณรู้ได้ยังไงกัน?” เฉียงเวยมองไปที่ฉิงเทียนอย่างสงสัย มันเป็นเรื่องของตระกูลของเธอแท้ๆ คนนอกไม่น่าที่จะรู้ได้ แล้วฉิงเทียนกลับรู้ได้อย่างไร?”
ฉิงเทียนไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้ม เรื่องแบบนี้ต้องให้เดาด้วยเหรอ? ละครทีวีของจีนนั้นมีไม่รู้ตั้งกี่เรื่องแล้วที่ใช้พล็อตเช่นนี้
เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนไม่ยอมตอบอะไร เฉียงเวยก็ได้เล่าต่อ “พ่อของฉันอยากให้ฉันแต่งงานกับซื่อคัง ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สามของตระกูลซื่อ ซึ่งซื่อคังนั้นเป็นแค่ทายาทเศรษฐีที่รู้จักแค่การกิน ดื่มและเที่ยวเล่นไปวันๆเท่านั้น ฉันไม่ขอแต่งกับเขาเด็ดขาด
ฉิงเทียนมองไปที่เฉียงเวยที่มีสีหน้าขยะแขยงต่อที่เธอพูดกับซื่อคัง เขานั้นไม่รู้ว่าเจ้าคนที่ชื่อซื่อคังนั้นได้ทำอะไรลงไปบ้างที่ทำให้เฉียงเวยนั้นเกลียดเขาได้มากขนาดนั้น
“ว่ายังไง คุณจะยอมรับข้อเสนอของฉันหรือไม่?” เฉียงเวยได้ยื่นคำขาดให้เขา
ฉิงเทียนก็ได้มองไปที่เฉียงเวยที่มีสีหน้าเยือกเย็น แต่ก็ไม่อาจที่จะหลุดรอดสายตาของฉิงเทียนไปได้ สองเท้าของเธอแนบชิดกัน และมือจับแก้วกาแฟเอาไว้แน่นแล้วจับยกเข้าหาริมฝีปากที่เล็กและสีชมพูของเธอ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังแอบซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเอาไว้อยู่
“ก็ได้ ผมยอมรับข้อเสนอของคุณก็ได้” ฉิงเทียนตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ คุณตกลงงั้นเหรอ?” แล้วใบหน้าที่น่ารักของเฉียงเวยก็ได้แสดงสีหน้าที่ยินดีออกมา ตอนแรกเธอนั้นคิดว่าฉิงเทียนคงจะยื่นข้อเสนอมาให้เธอเพิ่ม แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะยอมตกลงทันทีเช่นนี้
เมื่อเห็นเฉียงเวยมีสีหน้าประหลาดใจแล้ว ฉิงเทียนจึงได้พูดกับเฉียงเวย “นี่คนสวย ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะยินดีขนาดนี้ หรือว่าจริงๆแล้วคุณจะชอบผมกันแน่”
“ใครชอบคุณกัน? ฉันก็แค่ไม่อยากที่จะแต่งกับซื่อคังก็เท่านั้นแหละ และพวกเราก็แค่แต่งงานกันหลอกๆด้วย” เฉียงเวยจ้องไปที่ฉิงเทียน
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไปจดทะเบียนกันเมื่อไรดีล่ะ?” ฉิงเทียนถาม จริงๆแล้วเขาก็ใคร่ครวญถึงข้อตกลงร่วมกันที่จะแต่งงานกับเฉียงเวยแล้วด้วย
เขานั้นจะต้องจัดการกับเจ้าปีศาจจิตใจ ด้วยการเป็นพันธมิตรกับตระกูลของเฉียงเวย ที่คิดจะต่อกรกับสำนักงานจัดสรรเวลา ส่วนฉิงเทียนเองก็พอจะเดาได้ว่าจะต้องมีใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังสมาพันธ์เวลานี้แน่ๆ และเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรูก็ตามที
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ได้จดทะเบียนกันเลยดีกว่า!” เฉียงเวยพูดอย่างกระตือรือร้น
ฉิงเทียนลูบจมูกของเขาแล้วกล่าว “จะไปตอนนี้เลยเหรอ มันจะไม่รีบร้อนไปหน่อยเหรอ? ผมยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลยนะ”
“คุณไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันเตรียมไว้ให้หมดแล้ว” เฉียงเวยพูดและยิ้ม จากนั้นเธอก็ตบมือของเธอเบาๆแล้วก็มีบริกรที่เดินมาพร้อมกับถุงในมือของเขาแล้วพูดกับเฉียงเวย “คุณผู้หญิงครับ นี่คือเสื้อผ้าที่คุณสั่งเอาไว้ครับ”
“ดีมาก” เฉียงเวยก็ผงกเบาๆ จากนั้นเธอก็ได้ยื่นเอาที่แสดงเวลาออกมาแล้วบริกรก็ได้เอาเครื่องมาดูดเวลาไป ซึ่งเวลาที่แสดงอยู่ที่มือของเฉียงเวยนั้นก็ได้หายไป 1,000 ชั่วโมง!
“ตั้ง 1,000 ชั่วโมงเลยเรอะ? แพงเกินไปแล้ว!” ฉิงเทียนถอนหายใจออกมา
เฉียงเวยมองดูของในถุงใบใหญ่ที่ได้รับมาจากบริกรแล้วก็ส่งให้ฉิงเทียน โดยไม่มีลังเลแม้แต่น้อยแล้วพูดขึ้น “คุณไปเปลี่ยนชุดเสีย ถ้าคุณยังใส่ชุดนี้คงได้ถูกหัวเราะเยาะกันพอดี ฉันเองก็จะไปเปลี่ยนชุดเช่นกัน!”
“คุณหนูเฉียงเวยซื้อชุดให้สามีของเธอในวันที่เธอแต่งงาน……” ในเวลานี้ฉิงเทียนได้ยิ้มโดยปราศจากซึ่งความอายใดๆ อย่างไรเสียเธอเองก็หน้าตาเหมือนกับเสวี่ยเอ๋อมาก ราวกับที่รักของฉิงเทียนมาเองจริงๆ
หยิบเอาชุดสูทกับกางเกงออกมาจากในถุง ซึ่งรวมไปถึงรองเท้าหนังคู่ใหม่ ซึ่งได้ถูกตระเตรียมเอาไว้อย่างครบถ้วนแล้วนำมาใส่ที่ตัวของเขา!
ส่วนเฉียงเวยก็ได้หายเข้าไปในร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน จนกระทั่งเธอออกมาพบกับฉิงเทียนอีกครั้ง ทำให้ฉิงเทียนอดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่เธอ!
เฉียงเวยนั้นใส่ชุดสูทสาวออฟฟิศที่ดูสุภาพ ชุดสูทสีแดงนี้แน่นอนว่าจะต้องทำขึ้นมาโดยช่างฝีมือชื่อดังแน่ๆ ความตึงของชุดที่แนบเข้ากับส่วนโค้งเว้าที่น่าหลงใหลของเฉียงเวยและใบหน้าที่สวยงามของเธอกับบรรยากาศที่เย็นชากับดูมีความรู้ ซึ่งเป็นความน่าหลงใหลที่จะดึงดูดสายตาของผู้ชายมากมายได้อย่างแน่นอน
เฉียงเวยก็ได้มองไปที่ฉิงเทียนที่กำลังตกตะลึง จึงได้ยิ้มขึ้นมาแล้วพูด “เป็นยังไงดูดีไหม?”
“อื้ม ดูดีมากเลย!” ฉิงเทียนกลืนน้ำลาย
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ!” ว่าแล้วเธอก็กดปุ่มที่กุญแจสีทองของเธอ แล้วจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีแดงและเท่จู่ๆก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าของฉิงเทียนและเฉียงเวย แล้วประตูก็ได้เปิดออกมาแล้วเฉียงเวยก็ขึ้นไปนั่งในรถ
“รถสวยดีนะเนี่ย ต่อไปผมคงจะต้องหาซื้อบ้างสักคันซะแล้ว!” ฉิงเทียนพูดอย่างอิจฉา มันคงจะรู้สึกดีที่จะได้รับรถสปอร์ตในท้องฟ้าเช่นนี้!
แล้วเฉียงเวยก็ได้หยิบเอากระเป๋าใบเล็กๆออกมาแล้วยื่นให้ฉิงเทียนขณะที่กำลังขับรถอยู่ “นี่คือตัวตนใหม่ของคุณ คุณจะต้องจำให้ขึ้นใจให้ได้”
“โอ้ ผมได้ตัวตนใหม่อย่างนั้นเหรอ” ฉิงเทียนเปิดกระเป๋าที่เขาได้รับมาจากเฉียงเวยอย่างสงสัย ซึ่งพบบัตรสีทองและสมุดที่บันทึกตัวตนใหม่ของเขาเอาไว้ในนั้นด้วย

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย