บทที่ 291 ร่ำรวย
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่สำนักอัคคีสาขาเมืองโม๋ตู ก็ได้จัดการประชุมกันขึ้นที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง
หานต้งกำลังนั่งนั่งไขว่ห้างอยู่เก้าอี้ผู้บริหาร กำลังจ้องมองมาที่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยอาการสั่นกลัว แม้แต่ผู้อาวุโสหานเองก็ยังยืนอยู่ข้างๆด้วยความเคารพ และชำเลืองมองไปที่หานต้งเป็นครั้งคราว
หานต้งที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่นั้นก็ได้พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัยต่อทั้งมนุษย์และสัตว์ “บอกข้ามาทีซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! เฉินฉีตายได้อย่างไร? และเกิดอะไรขึ้นกับฉิงเทียน?”
มองไปที่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรของเขาแล้ว ผู้อาวุโสหานนั้นรู้จักลุงของเขาดี รู้ดีว่าในเวลานี้หานต้งกำลังโกรธจัด
แล้วผู้อาวุโสหานซี่ก็ได้เดินออกมาอยู่ตรงหน้าผู้คน เขาปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก “ท่านผู้นำหาน มันเป็นความผิดของข้าเอง ที่ไม่ได้อยู่รอรับข่าวจากเฉินฉีทันการจนทำให้เฉินฉีต้องตาย” ถึงแม้ว่าหานซี่จะพูดเช่นนั้น แต่จริงๆแล้วเขาเองก็โกรธมากเช่นกัน เฉินฉีนั้นพบตัวฉิงเทียนตั้งแต่แรกแล้วแต่เขากลับไม่บอกใครเพราะคิดที่จะฮุบรางวัลเอาไว้คนเดียว แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเขาจะถูกฆ่าตายได้เช่นกัน!
“เฉินฉี เจ้าควรจะดีใจนะที่ตายไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าต้องตายเสียดีกว่าอยู่” หานซี่คิดอย่างโกรธเกรี้ยวในใจ
หานต้งที่กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ผู้บริหารนั้นก็ได้มองมาที่หานซี่ที่ออกมายอมรับความผิด แล้วรอยยิ้มบนสีหน้าของเขาเมื่อสักครู่นั้นก็ได้เปลี่ยนไปเป็นหรี่ตาจ้องมองมาที่ผู้อาวุโสหานและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “หานซี่ เจ้าที่เป็นถึงผู้นำในเขตเจียงเจ้อ โม๋ตู และซูเจียงนั้น กลับไม่ทราบที่อยู่ของลูกน้องตัวเองอย่างนั้นรึ? จนทำให้คนที่มีค่าหัวงามๆของสำนักเราหนีรอดไปได้ เจ้ารู้ถึงความผิดของเจ้าหรือไม่?” ทันทีที่พูดจบ แรงกดดันของเขาก็ได้แผ่ออกไปทั่วทั้งตระกูลหาน
ในตอนนั้นเอง หานซี่ที่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล เขาจึงได้รีบก้มลงคุกเข่าแล้วกล่าว “ข้าน้อยได้ทำผิดไปแล้ว ขอท่านผู้นำลงโทษข้าด้วย!”
เหล่าลูกน้องของหานซี่นับสิบ เมื่อเห็นหัวหน้าของเขาก้มลงคุกเข่าขอความเมตตา แต่ละคนที่กำลังขาสั่นก็ได้ก้มลงคุกเข่ากับพื้นขอความเมตตาตาม “ขอท่านผู้นำโปรดให้โอกาสกับพวกเราอีกครั้งด้วย”
เมื่อเห็นเหล่าลูกน้องลงไปคุกเข่ากับพื้นขอความเมตตา หานต้งก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง “ครั้งนี้ข้าจะยกโทษให้พวกเจ้าและให้โอกาสอีกครั้ง แต่หากมีครั้งหน้า ข้าจะตัดหัวพวกเจ้าให้เหลือคนแค่ครึ่งเดียว”
เมื่อเห็นว่าท่านผู้นำให้ยกโทษให้พวกเขาแล้ว พวกเขาต่างก็รู้สึกยินดีและทำการคารวะ “ขอบพระคุณท่านผู้นำ ที่ไว้ชีวิตผู้อาวุโสหาน!”
หานต้งเองก็รู้สึกยินดีที่คนเหล่านี้ขอบคุณเขาอยู่ในใจ แต่สีหน้าของเขานั้นยังคงเกรี้ยวกราดอยู่ “พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ข้าอยากจะคุยกับผู้อาวุโสหานตามลำพัง!”
“ครับท่านผู้นำ!” แล้วแต่ละคนก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากประตูไป จริงๆแล้วพวกเขานั้นอยากที่จะออกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่ด้วยพลังกดดันในระดับเฟิงเฉินนั้นไม่ใช่อะไรที่นักพรตในระดับจินตันจะต่อต้านได้เลย พวกเขานั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดทับอย่างหนักหน่วง!
เมื่อเห็นผู้คนได้พากันออกไปแล้ว หานต้งก็ได้พูดขึ้น “ลุกขึ้นได้!”
หานซี่จึงลุกขึ้นยืนจากพื้นแล้วนั่งเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหานต้งแล้วพูดด้วยสีหน้าที่เสียใจ “ขอท่านลุงอย่ากล่าวโทษข้า มันเป็นความผิดของเจ้าเฉินฉีที่ส่งข่าวมาล่าช้า พอข้าไปถึงเขาก็ตายแล้ว!”
หานต้งมองไปที่สีหน้าที่เสียใจของหานซี่แล้ว จึงได้ปลอบเขาแล้วพูดขึ้น! “เสี่ยวซี่ ลำบากเจ้าแล้วที่ต้องรับผิดเอาไว้แต่เพียงลำพัง”
“เจ้าเฉินฉีมันช่างสมควรตาย มันเป็นเพราะเขาไม่ยอมรายงานต่อสำนักทันทีหลังจากที่พบตัวฉิงเทียนแล้ว!” หานต้งพูดอย่างมโห
เขาเองก็ไม่คิดว่าฉิงเทียนนั้นจะอยู่เมืองที่อยู่ในการดูแลของเขาเอง ถ้าในเวลานี้เขาสามารถจับตัวฉิงเทียนได้ เขาก็จะได้สิ่งของมากมายจากสาขาหลักของสำนักมาใช้ฝึกวิชาจนสามารถบรรลุเฟิงเฉินชั้นกลางไปแล้ว แล้วเขาก็จะได้ไม่โดนเจ้าติงโปมันหยามหน้าเอาอีก! หานต้งคิดอย่างเคียดแค้น
“ใช่แล้วครับ, เจ้าเฉินฉีนี่มันสมควรตายจริงๆ” หานซี่เองก็พูดอย่างโมโห มันเป็นเพราะเขาที่โลภอยากจะได้อาวุธวิเศษ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย