บทที่ 294 มีความคิดแล้ว
ครึ่งชั่วยามผ่านไป ขาของฉิงเทียนก็ยังคงสั่นพั่บๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าจิตของฉิงเทียนนั้นกำลังแบกรับพลังของตัวตนระดับจินเซียนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่เศษเสี้ยวของวิญญาณก็ตาม มันไม่ใช่อะไรที่จิตของฉิงเทียนจะสามารถต้านทานได้เลย
แต่ฉิงเทียนที่พยายามฝืนยืนอย่างยากลำบากนั้น ก็ได้ลงไปคุกเข่าด้วยขาทั้งสองข้างจนได้
ณ พระราชวังเมฆม่วง หงจวินเหล่าจู่ก็ลูบหนวดของเขาและผงกหัวอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว ไม่เลว ช่างเหมาะสมกับการเป็นลูกศิษย์ของข้าจริงๆ สามารถที่จะยืนหยัดภายใต้แรงกดดันของเซียนในระดับจินเซียนได้”
“แต่ดูจากไอพลังที่เจ้าเซียนคนนั้นปล่อยออกมาแล้ว น่าจะเป็นลูกศิษย์หลานศิษย์ของเจ้าสามคนนั้นเป็นแน่! หึ ช่างกล้าดียังไงที่บังอาจมาแย่งศิษย์ของข้าเหล่าจู่คนนี้” หงจวินจ้องมองไปที่ไป๋กงหยางราวกับจะมองให้ทะลุปรุโปร่ง
“ว่ายังไงเจ้าหนู? ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วนะ” ไป๋กงหยางพูดด้วยสีหน้าที่ชั่วร้าย แต่จริงๆแล้วในใจของเขานั้นตกใจมาก เดิมทีในความคิดของเขานั้น จิตของฉิงเทียนนั้นน่าจะฝืนอยู่ได้ไม่นานเกินอึดใจเดียวเท่านั้น แล้วเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็ได้จะทำท่าราวกับอาจารย์ที่ทรงพลังและมีเมตตา แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าฉิงเทียนคงไม่น่าติดเบ็ดง่ายๆเสียแล้ว
ซึ่งเขานั้นไม่อยากจะเชื่อว่าฉิงเทียนนั้นจะมีความมุ่งมั่นมากขนาดนี้ และเขาก็สามารถฝืนทนมาได้จนถึงครึ่งชั่วยาม ซึ่งได้ทำให้ไป๋กงหยางนั้นอยากที่จะได้ฉิงเทียนมาเป็นศิษย์มากยิ่งขึ้นไปอีก
“แม้แต่ในโลกเซียนก็ยังไม่พบคนที่มีแววเช่นนี้มากนัก ไม่ได้การ เราจะต้องให้เขามาเป็นศิษย์ของเราให้ได้” ไป๋กงหยางคิดอย่างดุดันในใจของเขา และจ้องมองไปที่ฉิงเทียนราวกับสมบัติชั้นเลิศ
ในเวลานี้ มันเป็นการยากมากสำหรับฉิงเทียนที่จะพูดออกมา พลังของจิตศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้ใช้ในการฝืนแรงกดดันของไป๋กงหยางไปจนเหี้ยนแล้ว
“หากว่าเจ้ายอมตกลงที่จะเป็นศิษย์ของข้า ข้าก็จะยอมปล่อยเจ้าทันที และยินดีที่จะสอนเจ้าถึงวิธีการเป็นยอดเซียน รวมถึงของเซียนและยาอมฤตที่ข้ามีด้วย ว่ายังไงเจ้าหนูลองคิดดูให้ดีๆ ถ้าเจ้าได้ของพวกนี้ไปขอแค่เพียง 500 ปี เจ้าก็จะสามารถไปยังโลกเซียนได้ โลกเซียนนั้นมีอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่าบนโลกเสียอีก แล้วถ้าเจ้าได้ไปพบกับสำนักหยางพิสุทธิ์บนโลกเซียน แล้วบอกว่าเป็นศิษย์ของไป๋กงหยาง ทางสำนักก็จะอุปถัมภ์เจ้าอย่างแน่นอน แล้วเจ้าก็จะได้เป็นจินเซียนภายในพันปี ตอนนี้ก็อยู่ที่เจ้าแล้วว่าจะเลือกที่จะเป็นเซียนหรือปีศาจ!” ไป๋กงหยางพูดล่อลวง แล้วจากนั้นก็ได้มองมาที่เขาแล้วหัวเราะด้วยสีหน้าที่ดูน่าสะอิดสะเอียน
ในเวลานั้นก็ได้มีเงาดำขึ้นที่หน้าของฉิงเทียน นี่เขายังเป็นเซียนอยู่จริงๆเหรอ? ทั้งสีหน้าและการกระทำของเขาไม่ต่างอะไรกับพ่อค้าที่ลักพาตัวเด็กๆไปขายเลย
“อุอะ…..” ฉิงเทียนนั้นไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ เขาทำได้แค่ส่งเสียงออกมาเท่านั้น
“เจ้าจะยอมตกลงแล้วสินะ?” ไป๋กงหยางพูดอย่างยินดี แล้วจากนั้นแรงกดดันก็ได้หายไปทันที ในเวลานั้นเองที่ฉิงเทียนก็ได้รู้สึกโล่งขึ้นมา เขานอนแผ่หายใจหอบอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของเขา
“ด้วยสถานการณ์แล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองมากนักเจ้าหนู ไม่ต้องจุดธูปสวดมนต์และเลือกวันมงคล! ขอเพียงเจ้ายอมก้มหัวคำนับข้าสามครั้งก็พอ แล้วเจ้าก็จะได้เป็นศิษย์ของไป๋กงหยางแล้ว” ไป๋กงหยางลูบหนวดของเขา ด้วยสีหน้าที่ดูขี้โกงของเขา
ฝันไปเถอะ ใครบอกว่าจะยอมเป็นศิษย์ของแกกัน ฉิงเทียนคิดอย่างกระวนกระวาย แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าเขาไม่หาลูกศิษย์คนอื่นมาให้เขาในวันนี้ ชายชราคนนี้คงไม่ยอมปล่อยตัวเขาไปง่ายๆแน่
“จริงด้วยสิ เราแนะนำเสี่ยวหยูให้เขาก็ได้นี่นา!” จู่ๆฉิงเทียนก็พลันคิดได้ขึ้นมา ถ้านักพรตเฒ่าผู้นี้บอกว่าเขาเป็นหยางบริสุทธิ์แล้ว น้องชายของเขาก็น่าจะเป็นอย่างเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นโอกาสที่ดีต่อการบำเพ็ญเพียรของฉิงหยูด้วย อย่างไรก็ดี มันย่อมเป็นการดีกว่าที่จะมีเซียนระดับจินเซียนมาสอนการบำเพ็ญเพียรให้เขาด้วย
เมื่อฉิงเทียนคิดได้เช่นนี้แล้ว เขาก็ได้ตัดสินใจแต่เขาก็ไม่รู้ว่าไป๋กงหยางนั้นจะยอมตกลงหรือเปล่า? ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำให้ฉิงเทียนคิดหนักขึ้นมา แล้วเขาจะเอาอย่างไรดีนะ?
แล้วตาของฉิงเทียนก็ได้ฉายแสงขึ้นมา ไม่ใช่เขาบอกว่าเขานั้นเป็นศิษย์ของหลี่ว์ตงปิน หรอกเหรอ? แล้วเขาก็ไม่ได้ตั้งใจมาอยู่ที่โลกด้วย แล้วถ้าเราสามารถติดต่อกับหลี่ว์ตงปิน ให้เขาได้ล่ะ? ใช่แล้ว นั่นแหละ!



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย