บทที่ 381
ปล้น
รถไฟขบวนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังทางตะวันตก ฉิงเทียนกับฉิงหยูที่เปลี่ยนใบหน้าไปแล้วนั้นกำลังนั่งอยู่ในรถไฟขบวนนั้น
“พูดก็พูดเถอะ เจ้าของวิเศษชิ้นนี้เป็นของดีจริงๆ” ฉิงเทียนแตะไปที่ใบหน้าของตัวเอง และแม้แต่เสียงของเขาก็ยังเปลี่ยนไปด้วย ในเวลานี้แม้แต่ซูเสวี่ยถ้ามาอยู่ตรงหน้าเขา ฉิงเทียนก็มั่นใจว่าแม้แต่เธอก็ยังจำเขาไม่ได้
ฉิงหยูที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็มีสีหน้าที่บึ้งตึงและพูดอย่างผิดหวัง “ศิษย์พี่ครับ ท่านบอกว่าพวกเรากำลังจะไปที่ทะเลสาบเทียนฉีกันใช่ไหมครับ? แล้วทำไมแทนที่พวกเราจะบินไปด้วยกระบี่กลับนั่งรถไฟไปแทนล่ะครับ? แล้วรถไฟขบวนนี้ก็ช้ามากแล้วแบบนี้เมื่อไรพวกเราถึงจะไปถึงเขตตะวันตกกันล่ะครับ?”
เป็นถึงผู้บำเพ็ญเพียรแต่กลับไม่บินไปด้วยกระบี่ และนั่งรถไฟเดินทางไปยังเขตตะวันตกแทน ทั้งๆที่บินด้วยกระบี่ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่รถไฟคันนี้จะไปถึงที่หมายเมื่อไรก็ยังไม่รู้เลย
ไป๋กงหยางก็ได้ยิ้มและอธิบาย “ข้ารู้มาจากความทรงจำของโจวเจี้ยนว่าที่โลกผู้บำเพ็ญเพียรนั้นมีมติให้การเดินทางไปที่ทะเลสาบเทียนฉีนั้นห้ามบินไปด้วยกระบี่ และยังมีอาคมที่ทรงพลังที่สร้างโดยสำนักต่างๆที่ทะเลสาบเทียนฉีอีกด้วย เพื่อป้องกันประตูทางเข้าโลกผู้บำเพ็ญเพียรจากการถูกทำลาย ดังนั้นใครก็ตามที่บินเข้ามาที่ทะเลสาบเทียนฉีจะถูกกำจัดทันที ซึ่งเคยมีผู้บำเพ็ญเพียรที่บรรลุตู้จี๋แต่ไม่เชื่อในคำสั่งนี้และฝ่าฝืนบินมาเหนือทะเลสาบเทียนฉี แล้วผลคือหายไปในทันที”
“แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับตู้จี๋ก็ยังไม่รอดเหรอเลยเหรอครับ?” ฉิงหยูถามอย่างตกใจ
“ใช่แล้ว” ไป๋กงหยางผงกหัวตอบ
แม่เจ้า แม้แต่ในระดับตู้จี๋ยังไม่รอด อาคมที่ทะเลสาบเทียนฉีนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ แล้วก็เห็นฉิงหยูที่สั่นกลัวขึ้นมา โชคดีที่เขาไม่ได้บินไปไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้ตายเสียก่อนที่จะได้เข้าไปในทะเลสาบเทียนฉี
แล้วรถไฟก็ได้มุ่งหน้าไปยังเขตตะวันตกต่อไป!
เขตตะวันตกนั้นเป็นเขตเทือกเขามาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล และยังสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากด้วย! ในสมัยโบราณนั้นมีเรื่องราวและทิวทัศน์แปลกๆมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ทุกปีจะมีผู้คนมากมายมาท่องเที่ยวที่เขตตะวันตกนี้
เช่นเดียวกับฉิงเทียน คนหนุ่มสาวที่อยู่ข้างๆเขาเองก็เป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปยังเขตตะวันตกด้วยกัน
“เสี่ยวเมิ่ง เธอคิดว่าจะมีพวกเทพอยู่ในเขตตะวันตกอย่างที่พวกเขาลือกันบ้างไหม?” หญิงสาวคนหนึ่งที่ดูน่ารักพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
มีหญิงสาวที่ผิวขาวดุจหิมะอยู่ตรงข้ามกับสาวน่ารัก ดวงตาของเธอนั้นใส่ราวกับน้ำ เมื่อมองดูเธอแล้วก็พบว่ามีท่าทางที่ดูสุภาพและสง่างาม! โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่น่าหลงใหล ซึ่งหญิงสาวคนนี้น่าจะคือเสี่ยวเมิ่งที่สาวน่ารักอีกคนเรียกแน่ๆ
“ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านกุขึ้นมาเองมากกว่าเพื่อที่จะโฆษณาให้นักท่องเที่ยวเกิดความสนใจ ตอนนี้มันยุคอะไรแล้วมีแต่คนโง่อย่างเธอที่จะคิดว่ามีตัวตนอยู่จริงน่ะ” มีทายาทเศรษฐีที่แต่งตัวหรูหราพูดขึ้นมาอย่างดูถูก
สาวน่ารักก็ได้โมโหขึ้นมาทันทีที่ได้ยินที่ชายคนนั้นพูด ใบหน้าที่ดูเล็กน่ารักของเธอก็ได้กลายเป็นดำมืดขึ้นมาแล้วกล่าว “จางเอี้ยวนายจะบอกว่าฉันโง่งั้นเหรอ? แล้วให้บอกให้นายตามมาด้วยกัน? ฉันมาเที่ยวกับเสี่ยวเมิ่งแค่สองคนจะตามมาด้วยทำไมก็ไม่รู้!”
“เฝิงหยู่ ฉันไม่ได้ตามเธอมาสักหน่อย!” จางเอี้ยวมองไปที่สวี่เมิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าที่หลงใหลเธอ
“พอแล้วหยุดทะเลาะกันก่อน เห็นไหมคนผู้โดยสารคนอื่นหันมามองที่พวกเธอหมดแล้ว” สวี่เมิ่งแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
สวี่เมิง คุณเมินผมงั้นเหรอ ฮ่าๆผมได้เตรียมการเดินทางไปยังเขตตะวันตกครั้งนี้ไว้แล้ว คุณจะต้องมาอยู่บนเตียงของผมในไม่ช้าก็เร็ว ผมจะทำให้คุณกลายเป็นของผมให้ได้ จางเอี้ยวที่พอมองไปที่เธอก็โดนสวี่เมิ่งเมิน และคิดอย่างโมโหในใจ
“พวกนายมองอะไรกันอยู่? ไม่เคยเห็นคนทะเลาะกันรึยังไง? พวกคุณหลับหูหลับตากันได้แล้ว” จางเอี้ยวพูดอย่างอวดดีแล้วเอามือเท้าเอว
แล้วผู้โดยสารต่างก็พากันหันหน้ากลับไปทันที! อย่างไรเสียคนที่มีท่าทางอวดดีในสมัยนี้ก็มีแต่พวกทายาทเศรษฐีไม่ก็ทายาทเจ้าหน้าที่เท่านั้น
เมื่อเห็นว่าคำพูดของเขาได้ผล จางเอี้ยวก็ได้หลับตาลง “คนจนพวกนี้นี่ต้องให้ดุ” แล้วก็นั่งลงที่เดิมอย่างอวดดี
ฉิงเทียนก็ได้มีสีหน้าโกรธขึ้นมาเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น แล้วเขาก็ดีดนิ้วเบาๆ แล้วก็มีสายลมที่มองไม่เห็นมาโดนขาของ จางเอี้ยวแล้วก็ล้มหน้าทิ่มพื้นลงไปเหมือนหมาก้มไปกินขี้
“ปัง” จางเอี้ยวลงไปหน้าทิ่มอย่างจัง!”
“ฮ่าๆๆ….”
เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งโบกี้นี้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย