บทที่ 416 เข้าไปในสุสานกระบี่
สุสานกระบี่นั้นไม่ได้อยู่ที่ยอดเขาที่ที่สำนักซูซานอยู่ แต่อยู่อีกเขาหนึ่งซึ่งระยะห่างระหว่างทั้งสองที่นี้ก็ไม่ไกลมากนัก
ผู้คนจำนวนสิบกว่าคนรวมคนของสำนักซูซาน ได้เอาของวิเศษออกมาแล้วพากันเหาะไปยังสุสานกระบี่
ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที ฉิงเทียนและคนอื่นๆก็มาถึงตีนเขาอีกแห่งหนึ่ง
ต้นไม้ที่ภูเขาแห่งนี้ยังเขียวชอุ่มนัก และมีเมฆหมอกปกคลุมบนยอดเขา และพลังวิญญาณที่นี่ก็ค่อนข้างหนาแน่น ที่บริเวณไหล่เขามีตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า “สุสานกระบี่” ซึ่งเต็มไปด้วยจิตฆ่าฟัน ราวกับว่าทั่วทั้งภูเขาแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว
“ท่านอาจารย์อา ถ้าผู้ที่เขียนตัวหนังสือนี้สามารถบรรลุไปโลกเซียนได้ เขาคงจะได้เป็นเซียนกระบี่อัจฉริยะแน่ๆ” ไป๋กงหยางพูดอย่างชื่นชม
“สุสานกระบี่อยู่ทางนี้” เซวียนหยวนเหมินเงยหน้ามองและพูดอย่างตื่นเต้น อย่างไรเสียที่นี่ก็เปรียบเสมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ของสำนักซูซานเลยทีเดียว
“หนึ่งพันปีแล้ว ไม่รู้ว่าคราวนี้ข้าจะสามารถทำได้สำเร็จไหม” ผู้บำเพ็ญเพียรอ้วนพูดพึมพำๆ
“ถึงแล้ว”
“สุสานกระบี่” เหลียนเจวี่ยจากสำนักโอสถ, โช่วเหนียน และหลินเยว่จากสำนักคุนหลุนต่างก็มีความคาดหวังในดวงตาของพวกเขา
“สุสานกระบี่ ไม่ว่าอย่างไรเราก็จะต้องเอาของวิเศษระดับวิญญาณมาให้ได้เป็นอย่างน้อย หากเราได้อาวุธระดับวิญญาณสองชิ้นแล้วล่ะก็ จะสามารถเอาไปแลกเป็นหม้อมังกรดำที่สำนักได้” เหลียนเจวี่ยแอบคิดในใจ
“สุสานกระบี่ แม้แต่ท่านอาจารย์ก็ยังบอกว่ามันเป็นมิติที่ลึกลับนัก ในคราวนี้เราจะต้องสำรวจมันให้ดีๆ” หลินเยว่จากคุนหลุนเองก็ได้คิดตัดสินใจ
แม้แต่โช่วเหนียนจากสำนักร้อยสัตว์ป่าเองก็ยังมีความคิดเช่นเดียวกัน คิดว่าเขาจะโชคดีได้ของวิเศษอะไร อย่างไรเสียความต้องการในการบำเพ็ญเพียรของเขานั้นก็เรียกได้ว่าเข้มงวดมาก
“ฮึ่ม สุสานกระบี่! เราจะต้องคว้ากระบี่ม่วงให้ได้” เหยนหลิงคิดในใจ
แต่ทว่า เขาเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากมากแค่ไหน การที่สำนักซูซานอนุญาตให้คนนอกเข้าไปได้เช่นนี้ แสดงว่าจะต้องมั่นใจมากว่าสำนักตัวเองจะได้ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้คนนอกเข้าไปแน่ ยิ่งไปกว่านั้น 10 อันดับแรกที่ได้เข้าไปในสุสานกระบี่นี้มีพลังวัตรอย่างมากสุดก็ระดับเหอถี่
ดังนั้นแล้วของวิเศษที่ทรงพลังที่จะได้รับในสุสานกระบี่นี้ จะต้องมีการแย่งชิงกันเกิดขึ้นแน่ๆ และสำนักซูซานเองก็คุ้นเคยกับสถานการณ์ข้างในดีอยู่แล้วด้วย คนอื่นๆจะต้องไม่ได้อะไรดีๆกลับไปแน่ๆ
อีกทางด้านหนึ่ง ในใจของฉิงหยูนั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณต่อสู้เต็มเปี่ยม และพูดขึ้น “ได้เข้าไปในสุสานกระบี่เมื่อไร ผมจะรีบเข้าไปช่วยเสี่ยวซินทันที แล้วจากนั้นค่อยหาโอกาสกวาดเอาของในสุสานกระบี่กลับไปให้หมด”
“ใจเย็นๆ อย่าทำตัวโดดเด่น” ฉิงเทียนกล่าวกับฉิงหยูด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้พวกเราโดนคนมากมายกำลังเพ่งเล็งอยู่ ดังนั้นอย่าเพิ่งทำตัวผิดสังเกตในตอนนี้มากนัก”
ในเวลานี้สำนักซูซานนั้นมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนหมายหัวจะฆ่าพวกเขาอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นฉิงเทียนกับฉิงหยูหรือหยิงเทียนกับหยิงหยูก็ตาม จะต่างกันก็แค่พวกเขาจะทำอย่างโจ่งแจ้งหรือแอบทำลับหลังก็เท่านั้น
ฟิ้ว
ทุกคนต่างก็ร่อนลงมาด้วยของวิเศษของตัวเอง และจอดลงที่ตีนเขา
“คารวะท่านอาวุโสใหญ่” มีกลุ่มลูกศิษย์จากสำนักซูซานออกมาต้อนรับเขา
“ดี” เซวียนหยวนเหมินผงกหัว แล้วจากนั้นก็มองไปที่ฉิงเทียนและคนอื่นๆก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ทุกท่าน พวกเราสำนักซูซานได้เปิดสุสานกระบี่ให้พวกท่านได้มีโอกาสเข้าไปด้านใน แต่ได้โปรดอย่าทำลายข้าวของด้านใน ถ้าหากพวกเราสำนักซูซานพบเข้า พวกเราจะจัดการทันทีโดยไม่ปรานี”
หลังจากนั้นเซวียนหยวนเหมินก็ได้กวาดตามองไปที่ฉิงเทียนและคนอื่นๆแล้วกล่าว “ตามเข้ามา!”
เดินไปตามทางเดินที่ถูกปูพื้นด้วยหินสีฟ้า มุ่งหน้าไปยังภูเขา เดินเข้าไปได้ไม่นานฉิงเทียนก็พบกลุ่มลูกศิษย์ที่ยืนเฝ้าด้านหน้าอยู่ การคุ้มกันที่นี่เข้มงวดมาก
ไม่นานนักก็พบหอคอยกลางภูเขาที่สูงมากกว่า 10 เมตร ซึ่งมีตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า “สุสานกระบี่” เฉกเช่นเดียวกับที่พบที่ภูเขาแตกต่างกันที่เขียนด้วยกระบี่กับพู่กันเท่านั้น
ในเวลานี้ที่สุสานกระบี่นั้นมียันต์แปดทิศที่กำลังหมุนอย่างช้าๆปิดผนึกประตูเอาไว้อยู่ ซึ่งมีผู้บำเพ็ญเพียร 8 คนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆประตู
มีพลังวิญญาณที่แข็งกล้าออกมาจากผู้บำเพ็ญเพียรทั้ง 8 คนนั้น ทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขานั้นไม่น่าจะมีตัวตนอยู่ในโลกนี้
“ดูเหมือนว่าทั้งแปดคนนี้จะอยู่ในระดับตู้จี๋ขั้นกลางเลยทีเดียว” ไป๋กงหยางกล่าวอย่างประหลาดใจ
ในตอนนั้นเอง ฉิงเทียนกับฉิงหยูก็ได้มองหน้าเข้าหากันสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และไม่กล้าที่จะไปดูถูกพวกเขา
ผู้บำเพ็ญเพียรที่บรรลุระดับตู้จี๋ได้นั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ยืนอยู่จุดสูงสุดบนโลกผู้บำเพ็ญเพียรเลยก็ว่าได้ และสำนักซูซานนี้ก็มีถึงแปดคน อย่างที่คิดชื่อเสียงของสำนักใหญ่ทั้ง 6 ในโลกผู้บำเพ็ญเพียรนั้นไม่ใช่แค่การโอ้อวดจริงๆ
เซวียนหยวนเหมินมองไปที่ผู้บำเพ็ญเพียรทั้ง 8 แล้วเข้าไปหาอยู่ห่างๆแล้วทำการคารวะด้วยความเคารพ “ข้าขอคารวะท่านอาจารย์อาทุกท่าน”
“ลุกขึ้นเถิด, คนเหล่านี้คือผู้ที่จะเข้าไปในสุสานกระบี่สินะ?” 1 ในผู้บำเพ็ญเพียรทั้งแปดนั้นพูดขึ้นมา
“ใช่ครับ!” เซวียนหยวนเหมินตอบอย่างรวดเร็ว
“บอกกฎแล้วหรือยัง?”
“ข้าบอกพวกเขาเรียบร้อยแล้วครับ”
“รบกวนท่านอาจารย์อาช่วยเปิดประตูสุสานกระบี่หน่อยครับ” เซวียนหยวนเหมินพูดกล่าวด้วยความเคารพ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย