บทที่ 429 กลับเมือง
เกาะดอกท้อ
เหล่าผู้คนอาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ราวกับสรวงสวรรค์ พลังวัตรของพวกเขารุดหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก แม้แต่ซูกังและคนอื่นๆที่เพิ่งเริ่มฝึกวิชาต่างก็เข้าสู่ระดับจู้จีแล้ว แล้วอย่าว่าแต่ผลไม้พลังวิญญาณพวกเขาได้ทานยาวิเศษด้วยซ้ำ แบบนี้แม้แต่หมูก็ยังบินได้เลย
อย่างไรก็ตามบรรยากาศในเกาะดอกท้อนั้นก็ไม่ค่อยดีนัก ทุกคนต่างก็กังวลเรื่องของฉิงเทียนมาก เพราะตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วแต่ยังไม่มีข่าวคราวกลับมาเลย ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
“เสวี่ยเอ๋อ เจ้าคิดว่าฉิงเทียนจะสามารถกลับมาได้ไหม?” หวงโรวถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ ฉิงเทียนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถมาก ในตอนนี้พวกเรามาบำเพ็ญเพียรให้หนักเพื่อที่จะได้ไม่เป็นตัวถ่วงของเขาดีกว่าค่ะแม่” ซูเสวี่ยพูดปลอบ แต่ทว่าเธอเองก็เป็นห่วงฉิงเทียนอยู่เหมือนกัน แต่ในเวลานี้เธอไม่สามารถแสดงสีหน้าเช่นนั้นออกไปได้
และคนอื่นๆเองต่างก็พากันนิ่งเงียบไปพูดอะไร ทำให้บรรยากาศนั้นหนักอึ้งมากขึ้นไปอีก
แล้วในเวลานี้ก็ได้มีคนที่พูดขึ้นมาอย่างร่าเริง “ไม่เจอกันตั้งนานเป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว?”
ฉิงเทียนปรากฏตัวขึ้นมาในห้องนั้นพร้อมกับรอยยิ้มและมองไปที่ทุกๆคน
“คารวะท่านเจ้าสำนัก!” แล้วผู้คนในห้องนั้นก็ได้พากันคำนับและตะโกน
“ฉิงเทียน คุณกลับมาแล้ว!” แล้วซูเสวี่ยก็ได้วิ่งไปหาอ้อมกอดฉิงเทียน
“ทุกท่านไม่ต้องสุภาพมากนัก รีบๆลุกขึ้นยืนไม่ต้องก้มหัวแล้ว นี่มันยุคสมัยไหนแล้วเนี่ย?” ฉิงเทียนยิ้มแล้วกล่าว “ทุกคนบำเพ็ญเพียรกันรุดหน้าอย่างรวดเร็วภายในครึ่งเดือนที่ผ่านมาเลยสินะ ยอดมาก”
เมื่อฉิงเทียนได้กลับมาถึง เขาก็พบว่าพลังวัตรของพวกเขานั้นได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก มันช่างเป็นเรื่องน่ายินดีของสำนักกระบี่สวรรค์ยิ่งนัก
“ฮ่าๆ ต้องของคุณสิ่งต่างๆที่นี่ล่ะนะ” ผู้อาวุโสซูพูดอย่างยินดี และลูบใบหน้าของตัวเองที่อ่อนเยาว์เรื่อยๆ และรู้สึกได้ถึงร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นกัน
“ใช่แล้ว สิ่งแวดล้อมที่นี่สุดยอดไปเลย” จ้าวก่างเองก็พูดอย่างตื่นเต้น เขานั้นไม่คิดว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถแข็งแกร่งได้อย่างมากเช่นนี้ กลายเป็นคนที่เทียบเคียงกับเซียน
“เอาล่ะทุกคน ได้เวลากลับกันได้แล้วล่ะ” ฉิงเทียนกล่าวขึ้นรมา
“จริงเหรอ? พวกเรากลับกันได้แล้วเหรอ?” ซูกังกล่าวอย่างตื่นเต้น ถึงแม้ว่าเขาจะได้เปลี่ยนไปอย่างมากบนเกาะนี้เพียงแค่ครึ่งเดือน แต่เขาก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้กับหน้าที่การงานของเขา อย่างไรเสียมันก็เป็นสิ่งที่เขาอุทิศให้กับมันตลอดครึ่งชีวิตของพวกเขา และสองพ่อลูกตระกูลจ้าวเองก็คิดเช่นกัน
ฉิงเทียนจึงได้พาทุกคนกลับไปที่เมืองโม๋ตูโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอีก และทางสำนักงานรักษาความมั่นคงแห่งชาติจีนเองก็ได้รับคำสั่งมาจากโลกผู้บำเพ็ญเพียรว่าให้ยกเลิกคำสั่งตามล่าตัวเขาแล้ว ดังนั้นฉิงเทียนและคนอื่นๆจึงสามารถกลับไปในเมืองได้โดยปราศจากซึ่งเหตุขัดข้องใดๆ
“เอาล่ะ พวกเราไม่ได้กลับมากันตั้งหลายวัน พวกเราคงมีงานมากมายให้สะสางกันเลยล่ะ” ฉิงเทียนออกคำสั่ง และพวกเขาเองต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาด้วย อย่างไรก็ดีแต่ละคนต่างก็แยกย้ายกันไปอย่างเร่งรีบ
ในเวลานี้เหลือเพียงฉิงเทียนกับซูเสวี่ยอยู่ในห้องนอน ครึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอกันเขานั้นคิดถึงซูเสวี่ยมากมาย
“นี่เสวี่ยเอ๋อ คิดถึงผมบ้างไหม?” ฉิงเทียนกอดซูเสวี่ยเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา
“อื้ม!” ซูเสวี่ยส่งเสียงออกมาเบาๆ และสายตาก็ได้จับจ้องไปที่ฉิงเทียน
แล้วทั้งคู่ก็ได้จูบกัน แล้วทันใดนั้นเองในห้องนั้นโดยไร้ซึ่งพิธีรีตองใดๆ ก็ได้มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาจากเตียงที่สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
………….
“ฉิงเทียนฉันหิวแล้วล่ะ ฉันไม่ได้กินอาหารร้อนๆมานานแล้วตอนอยู่ที่เกาะดอกท้อ” ซูเสวี่ยพูดอย่างออดอ้อนขณะที่เปลือยครึ่งตัวและนอนอยู่ในอ้อมแขนของฉิงเทียน ในห้องที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความสุข
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะการได้กินแต่ผลไม้บนเกาะดอกท้อทุกวันเป็นเวลาครึ่งเดือนนั้น ถึงแม้พลังวิญญาณจะเต็มเปี่ยม แต่มันก็ไม่ได้รสชาติดีอะไรมากมายนัก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย