บบที่ 430 คำขอร้องจากท่านยมบาล
“คุณเป็นใคร? ฉันรู้จักคุณด้วยเหรอ?” ซูเสวี่ยพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ
“คุณย่อมไม่รู้จักผมอยู่แล้วท่านประธานซู ชื่อของผมคือเก๋อเอ่อร์ นี่คือนามบัตรของผมครับ ผมมาจากบริษัทยาเทียนเฉิงครับ และผมเป็นผู้ที่จัดจำหน่ายยาให้กับโรงพยาบาลของคุณครับ” เก๋อเอ่อร์ยื่นนามบัตรให้กับซูเสวี่ยด้วยความเคารพ
“คุณเก๋อ ผมบอกคุณช่วยผมหาทางทำให้เธอขึ้นเตียงของผม คุณมัวแต่…..” อาโอกิคาวานะยังพูดไม่ทันจบ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงกระแทกเข้าใส่ที่หน้าของเขา แล้วแก้มขวาของเขาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาทันทีและตัวของเขาก็ได้ลอยออกไป
“ผมบอกแล้วนะว่าผมไม่ชอบคนญี่ปุ่นมาพูดพล่ามอยู่ใกล้ๆผม” ฉิงเทียนพูดด้วยสีหน้านิ่ง ถึงแม้มันออกจะเกินไปหน่อยที่ทำร้ายคนธรรมดาเช่นนี้ แต่สำหรับคนบางคนแล้วก็ทำไปเถอะเพราะปากเขามันพูดพล่อยเกินไป
อาโอกิที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะถูกอัดจนลงไปกองกับพื้นเช่นนี้ก็ได้ตะโกนออกมา “ฟางหนู, ชิงหนู พวกเธอรีบออกมาจัดการชายคนนี้เร็วเข้า”
“ข้าจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นยอมสยบต่อหว่างขาของข้า แล้วพอข้าเบื่อเมื่อไร ข้าก็จะส่งนังนี่ไปในคุกที่มืดที่สุดในญี่ปุ่น” อาโอกิ คาวานะกล่าวอย่างโมโห
“แกอยากจะตายมากสินะ” สายตาที่เย็นชาของซูเสวี่ยก็ได้มองไปที่อาโอกิ คาวานะ และนามบัตรในมือของเธอก็ได้กลายเป็นน้ำแข็งทันทีและพร้อมที่จะฆ่าเขา
“เสวี่ยเอ๋อ ให้ผมจัดการเองดีกว่า ขยะอย่างหมอนี่ไม่คู่ควรให้มือของคุณต้องแปดเปื้อนหรอก” ฉิงเทียนกล่าวและลงมือทันที ราวกับสายลมพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมุ่งตรงไปที่ชายคนนั้น
“อย่าอยู่ห่างนะคะนายท่าน!” แล้วก็มีผู้หญิงสองคนออกมาป้องกันการโจมตีของฉิงเทียนเอาไว้
“โอ้ ระดับหยวนยิงสองคน!” ฉิงเทียนรู้สึกสนใจอย่างมากและมองไปที่ผู้ทั้งสองคนนั้นที่จู่ๆโผล่มาแล้วพูดอย่างขึงขัง “ถ้าผมจะให้เขาตาย เขาก็ต้องตาย”
ว่าแล้วฉิงเทียนก็ได้ปล่อยสายฟ้าอัคคีในมือของเขาออกไป แล้วโยนใส่อาโอกิ คาวานะอย่างแม่นยำ
“อ๊าก อ๊าก…..” แล้วอาโอกิคาวานะก็ได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วไฟก็ได้ลุกท่วมตัวเขาทันที เพียงแค่ไม่ถึงนาทีอาโอกิ คาวานะก็ได้กลายเป็นกองขี้เถ้า
ในเวลานี้ผู้คนต่างพากันกรีดร้องในห้องนั้น และต่างก็พากันหนีออกมา
“ฆ่ากัน มีคนฆ่ากัน….” แต่ละคนต่างก็พากันกรีดร้อง ส่วนเก๋อเอ่อร์นั้นได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว
“ยังจะสู้ต่อไหม?”
ผู้หญิงทั้งสองคนต่างก็พากันมองไปที่ฉิงเทียนและรู้สึกได้ว่าพวกเธอนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย พวกเธอต่างก็มองหน้ากันเองแล้วหายตัวไปในทันที แต่ในตอนท้ายพวกเธอได้ทิ้งท้ายเอาไว้ “แกรอการล้างแค้นจากตระกูลอาโอกิได้เลย”
คำขู่เช่นนี้ฉิงเทียนไม่เคยเก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย มีแต่คนที่อ่อนแอเท่านั้นที่ชอบขู่ผู้อื่น คนที่แข็งแกร่งจริงๆจะใช้กำลังของตัวเองทำให้ผู้อื่นยอมรับเท่านั้น
แต่ทว่าการฆ่าคนอื่นที่ตัวเองไม่ชอบเช่นนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? หรือว่าการที่เขาคุ้นเคยกับการต่อสู้และการฆ่าฟันในโลกผู้บำเพ็ญเพียรในหลายวันมานี้ ทำให้เขากลายเป็นคนที่ใช้วิธีที่รุนแรงแก้ไขปัญหาไปแล้ว
แต่ฉิงเทียนก็ไม่ได้ไปไหน จนกระทั่งมีคนเรียกตำรวจ แล้วฉิงเทียนก็ได้อยู่รอเตรียมที่จะอธิบาย แล้วอย่างที่คาดไม่นานนักก็ได้มีตำรวจพากันมายังที่เกิดเหตุ
แต่เมื่อฉิงเทียนพบกับผู้ที่เป็นหัวหน้าชุดตำรวจเขาก็สงบจิตใจไม่ได้ขึ้นมา ซึ่งคือนางฟ้าฉิงอวี้เอ๋อนั่นเอง
“ไปกันเถอะ” แล้วฉิงเทียนก็ได้พาซูเสวี่ยหายไปทันที เขานั้นไม่อยากที่จะเจอเธอเลย ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเจี้ยนของสำนักซูซานจะไม่ได้ถูกเขาฆ่า แต่การตายของผู้อาวุโสเจี้ยนนั้นเขาก็มีส่วนอยู่ด้วย ทำให้เขารู้สึกยากที่จะพบหน้ากับคนของสำนักซูซาน แม้ว่านักพรตคิ้วยาวจะติดต่อเขาบ้างและส่งเป็ดปักกิ่งไปให้เขา 10 ตัวแล้วก็ตามที แต่เขาก็ยังไม่อยากที่จะพบหน้าอยู่ดี
ฉิงอวี้เอ๋อที่มาถึงยังที่เกิดเหตุแล้วนั้น เมื่อเธอพบฉิงเทียนที่กำลังหายตัวไป ก็ทำให้มุมริมฝีปากของเธอยกขึ้นมา “ท่านปรมาจารย์ฉิงเทียน ไม่ต้องรีบร้อนนะคะท่านไม่สามารถหนีรอดออกไปฝ่ามือของข้าได้หรอก”
ทางด้านของฉิงเทียนกับซูเสวี่ยที่หนีกลับมายังที่บ้านแล้วนั้น ในเวลานี้แอปถาวเป่าสวรรค์ก็ได้ร้องเตือนดังไม่หยุดในเวลานี้!
ฉิงเทียนจึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพบว่าในกลุ่มแลกเปลี่ยนสุขาวดีนั้น จู่ๆมีผู้คนมากมายพิม @ เรียกเขารัวๆ
“มีธุระอะไรเหรอครับ ทำไมทุกคนถึงได้เรียกหาผมเช่นนี้” ฉิงเทียนถามกลับไป
แล้วนักพรตคิ้วยาวก็เป็นคนแรกที่ตอบกลับมา “ขอบคุณน้องฉิงมากสำหรับเป็ดปักกิ่ง 10 ตัว”
เมื่อผู้คนได้ยินที่นักพรตคิ้วยาวพูดถึงเป็ดปักกิ่ง 10 ตัว ทุกคนต่างก็พากันโวยวายขึ้นมาทันที
ซุนหงอคง: น้องฉิงใจร้าย ข้าเองก็อยากทานเป็ดปักกิ่งบ้างนะ
ตือโป๊ยก่าย: เป็ดปักกิ่ง…..
เห่าฟ้า: โฮ่งๆ
…………….
แล้วเหล่าเซียนต่างก็พากันถามถึงเรื่องของเป็ดปักกิ่ง
“เอางี้ วันนี้ทุกคนสามารถเข้ามาซื้อเป็ดปักกิ่งได้ที่ร้านถาวเป่าของผม แต่ทว่าจำกัดแค่คนละ 10 ตัวเท่านั้นนะ” ฉิงเทียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่มีทางที่ผู้คนเหล่านี้จะสงบลงได้เลย ถึงแม้ว่าการค้าขายด้วยความหิวนั้นจะดี แต่ถ้าใช้ผิดวิธีมันก็เกิดผลเสียได้ บางครั้งเราก็ต้องทำให้ทุกคนพอใจตามเสียงของคนหมู่มาก
“เยี่ยม น้องฉิงนี่ช่างเป็นคนมีคุณธรรมจริงๆ” ตือโป๊ยก่ายกล่าว
“ฮ่าๆ ข้าจะซื้อสัก 20 เลย เพราะข้ามี 2 ชื่อบัญชี” เอ้อหลางเสินกล่าว
………………..
ในเวลานี้เอง ที่ฉิงเทียนก็ได้รับข้อความส่วนตัวมาจากราชายมบาล
“มีธุระอะไรเหรอครับท่านราชายมบาล?” ฉิงเทียนถาม
ราชายมบาล: “น้องฉิง ข้าอยากจะให้เจ้าช่วยข้าสักเรื่องได้ไหม?”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย