บทที่ 451 ระเบิดตัวเอง
“ไม่ถึงนาทีงั้นเหรอ? แม่เจ้าโว้ย ขอฉันดูหน่อยเถอะว่าแกจะทำได้อย่างที่บอกรึเปล่า?” ฉิงเทียนพูดอย่างยั่วโมโห เขาไม่ยอมโดนดูถูกแต่ฝ่ายเดียวหรอก
เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนไม่กลัวแต่ยังยั่วโมโหเขากลับ เฝิงเต๋ออี้ก็ได้พูดด้วยความโกรธ
“ในเมื่อเจ้าช่างดื้อรั้นนัก ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าอีก หลังจากที่ข้าได้ร่างเนื้อของเจ้าแล้ว ข้าจะไปเดินบนโลกมนุษย์อีกครั้งด้วยชื่อของข้าเอง แล้วจากนั้นผู้หญิงของเจ้าและทุกสิ่งที่เจ้ามีจะต้องตกเป็นของข้า! ฮ่าๆ”
“หึ แกฝันหวานเกินไปแล้ว อย่างแกน่ะไม่ว่าจะเป็นผีหรือไม่ใช่ผี ชีวิตนี้ก็ไม่มีทางได้ล้างแค้นหรอก!” ฉิงเทียนพูดดูถูกแล้วชี้ไปที่เฝิงเต๋ออี้ “อย่างแกน่ะไม่มีวันได้ล้างแค้นหรอก เพราะฉันจะส่งแกไปยมโลกเดี๋ยวนี้แหละ ไม่สิอย่างแกยมโลกก็คงไม่ได้ไป เพราะผีอย่างแกจะต้องกลายเป็นขี้เถ้าไม่มีวันได้ไปผุดไปเกิดอีกแล้ว”
“ไอ้หนู ข้าจะให้แกตายอย่างน่าเวทนา” เฝิงเต๋ออี้กล่าว แล้วร่างกายของเขาก็ได้กลายเป็นลมสีดำทันทีที่เขาพูดจบ แล้วเขาก็พุ่งไปที่หัวของฉิงเทียนทันที
ความเร็วในระดับของเซียนนั้นมันช่างรวดเร็วเสียจริงๆ ขนาดอยู่บนโลกมนุษย์ที่ไม่เอื้อต่อการมีชีวิตรอดของร่างวิญญาณ ถ้าเขาอยู่ในยมโลกแล้วเฝิงเต๋ออี้จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้นกว่านี้ไปอีก
อย่างไรก็ตามฉิงเทียนก็หาได้คิ้วขมวดไม่ ใบหน้าของเขานั้นผ่อนคลายมาก ด้วยการเคลื่อนไหวของหัวของเขา วิญญาณของเฝิงเต๋ออี้ก็ได้พุ่งเข้าไปในโลกสวรรค์โลกาแทน
ถ้าเฝิงเต๋ออี้สู้กับฉิงเทียนอย่างจริงจัง ฉิงเทียนย่อมที่จะสู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ใครใช้ให้เขาพยายามเข้าสิงตัวเขากันล่ะ ขอโทษด้วยนะแต่หัวของเขาคือทางเข้าทางหนึ่งของโลกสวรรค์โลกาล่ะ และในโลกสวรรค์โลกานี้ฉิงเทียนคือจักรพรรดิ
“ที่นี่มันคือที่ไหน?” เฝิงเต๋ออี้มองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง แล้วก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อเขารู้สึกได้ว่าฉิงเทียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นกำลังถือกระบี่อัสนีสวรรค์อยู่ในมือ และไอพลังทำลายแผ่ออกมาจากมัน เฝิงเต๋ออี้รู้สึกสับสนแม้แต่เขาที่มีพลังวัตรอยู่ในระดับเหยินเซียนก็ยังต้องตกใจ เป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเกินกว่าที่คนธรรมดาจะคาดคิดได้
“ซู่….” ในตอนที่กระบี่อัสนีสวรรค์กำลังถึงตัวเฝิงเต๋ออี้นั้นเอง เขาก็ได้หายตัวไปแล้วถอยหลังออกไป 20-30 เมตร
“เป็นไงล่ะ แม้แต่เหยินเซียนก็ยังต้องถอยหลังไปแบบนั้น” ฉิงเทียนแอบพูดในใจของเขา
ในตอนที่เขาตัดสินใจว่าจะฉีกหน้าเฝิงเต๋ออี้นั้น เขาก็ได้วางแผนเอาไว้แล้ว ในเมื่อเฝิงเต๋ออี้ต้องการที่จะเข้าสิงเขา เขาก็จะต้องเข้ามาในหัวของเขา และเขาก็จะอาศัยจังหวะนั้นดูดเขาเข้ามาในโลกใบเล็กของเขาและจัดการเขาให้ได้ก่อนที่เขาจะไหวตัวทัน นี่เป็นหนทางเดียวที่เขาจะเอาชนะเฝิงเต๋ออี้ได้ แต่ในท้ายที่สุดเฝิงเต๋ออี้ก็ยังหนีไปได้ ส่วนฉิงเทียนก็รู้สึกได้ว่าถึงแม้ว่าจะขังเขาไว้ในโลกใบเล็กของเขาเองแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งมากอยู่ดี อย่างไรเสียเฝิงเต๋ออี้ก็เป็นถึงเหยินเซียนในขณะที่เขายังอยู่แค่ในระดับชั้นเหอถี่
มองไปที่กระบี่อัสนีสวรรค์ในมือของฉิงเทียน เฝิงเต๋ออี้ก็ได้มองดูรอบๆด้วยสีหน้าระแวดระวัง เขาที่อยู่ๆดีก็มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร? หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่สักพักหนึ่งเขาก็ได้พูดขึ้นมา “หรือว่าที่นี่คือตำหนักเซียน? เจ้ามีตำหนักเซียนอย่างนั้นรึ?”
“รู้ดีไม่เลวนี่!” ฉิงเทียนหัวเราะ แต่เขาก็ไม่นึกว่าเฝิงเต๋ออี้จะรู้จักตำหนักเซียน ถึงแม้ว่าโลกสวรรค์โลกานี้จะมีขนาดใหญ่มากกว่าตำหนักเซียนก็เถอะ แต่ฉิงเทียนก็ไม่มาอธิบายให้เขาฟังหรอกว่าจริงๆแล้วนี่คือโลกใบเล็กต่างหาก
เฝิงเต๋ออี้ก็ได้มองไปที่ฉิงเทียนที่ดูภาคภูมิใจ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวขึ้นมาในใจ ทำไมฉิงเทียนถึงได้มีตำหนักเซียนได้ และเป็นเพราะว่าศัตรูของเขากำลังใช้ตำหนักเซียนดูดซับพลังของเขาไปอยู่ ทำให้เขาสามารถใช้ความแข็งแกร่งได้เพียงแค่ 1 ใน 10 เท่านั้น
“จะหนีไปไหนล่ะ? ไม่ใช่ว่าแกจะเข้าสิงฉันไม่ใช่รึไง?” ฉิงเทียนที่กำลังถือกระบี่อัสนีสวรรค์ก็ได้เยื้องย่างเข้าไปหาเฝิงเต๋ออี้อย่างช้าๆ
“หยุดก่อน!” เฝิงเต๋ออี้ก็ได้ถอยหลังออกมาด้วยความหวาดกลัว ฉิงเทียนเดินเข้าหา 5 ก้าว เขาก็ได้ถอยหลังออกไป 10 ก้าว ที่นี่คือตำหนักเซียนต่อให้เขามีร่างกายก็แพ้ได้ แล้วยิ่งตอนนี้เขามีแค่ร่างวิญญาณก็จะตายเร็วมากขึ้นไปอีก
ฉิงเทียนก็ได้หยุดและไม่ไล่เขาต่อ เมื่อเห็นว่าฉิงเทียนหยุดแล้วเฝิงเต๋ออี้ก็โล่งอก “ทำไมเจ้าไม่ฟังคำขอของพี่ชายคนนี้สักหน่อยก่อน?”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย